ประเด็นคือ – ศูนย์ดำรงธรรมบุรีรัมย์ เตรียมลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงสมาคมฌาปนกิจฯ เบี้ยวเงินค่าจัดการศพกว่า 10 ล้านบาท หลังสมาชิกและทายาทบุกร้องขอความเป็นธรรมเชื่อมีการทุจริต ด้านนายกสมาคมฯ อ้างขาดสภาพคล่อง เพราะเก็บเงินสมาชิกไม่ได้กว่า 7 พันราย จากทั้งหมด 9,038 พันราย ยันไม่ได้ทุจริตพร้อมให้ตรวจสอบ
วันที่ 19 ม.ค.61 ความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านจาก อ.สตึก อ.บ้านด่าน และ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือหลังถูกทางสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก จำกัด เบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินสินไหมทดแทน หรือค่าจัดการศพ ให้แก่ทายาทของสมาชิกที่เสียชีวิตรายละตั้งแต่ 120,000 – 150,000 บาท รวมกว่า 150 ราย เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท
โดยสมาชิกเสียชีวิตมาแล้ว 2-3 ปี แต่กลับไม่ได้รับเงินจากทางสมาคมฯ ทั้งที่มีการจ่ายเงินสงเคราะห์ศพล่วงหน้าเป็นรายปีไปแล้วรายละ 3,500 ถึงกว่า 4,000 บาทต่อปี บางรายไปทวงถามจ่ายมาเพียง 10,000 – 20,000 บาท ซึ่งไม่ตรงตามจำนวนข้อบังคับของสมาคมฯ ที่ระบุไว้ว่ากรณีเสียชีวิต หากมีสมาชิกจำนวนเท่าไรจะจ่ายค่าจัดการศพคูณด้วย 15 บาท
ซึ่งปัจจุบันสมาคมมีสมาชิกอยู่ 9,038 คน ดังนั้นหากสมาชิกที่เสียชีวิตจะต้องได้รับเงินสินไหมทดแทนจากทางสมาคมฯ ประมาณ 135,000 บาท โดยชาวบ้านที่มาร้องเรียนเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากคณะกรรมการฯ บริหารงานไม่โปร่งใสหรือทุจริต จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบทรัพย์สินของคณะกรรมการด้วย หากพบว่ามีการทุจริตก็ให้ดำเนินการเอาผิดกับคณะกรรมการฯ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมนำเงินมาจ่ายให้กับสมาชิกทุกรายด้วย
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงคณะกรรมการฯ รวมถึงนายทะเบียนที่มีและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากได้เรียกนายกสมาคมฯ และคณะกรรมการ เข้ามาชี้แจงไกล่เกลี่ยกับชาวบ้านที่มาร้องขอความเป็นธรรม แต่ไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากมีเพียงนายกสมาคมฯ ที่เข้าร่วมชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะจ่ายเงินค่าสินไหมหรือแก้ไขปัญหาให้กับสมาชิกและทายาทได้อย่างไร เนื่องจากคณะกรรมการฯ ไม่ยอมเดินทางเข้าร่วมชี้แจงข้อเท็จจริงกับชาวบ้าน โดยคาดว่าจะลงพื้นที่ภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะได้รวบรวมข้อมูลส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน นายเหลา ชื่นรัมย์ นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากสมาชิกกว่า 7,000 ราย ค้างชำระเงินสงเคราะห์ศพล่วงหน้ารายปี ที่จะต้องจ่ายให้แก่สมาคมฯ คนละ 4,500 บาทต่อปี จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 9,038 ราย ทำให้ทางสมาคมฯ ขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินที่จะนำไปจ่ายให้แก่ทายาทของสมาชิกที่เสียชีวิตได้ครบทุกราย ซึ่งทางสมาชิกพยายามติดตามทวงถามสมาชิกที่ค้างชำระแล้วแต่ก็ยังเพิกเฉย เมื่อครบกำหนดทางสมาคมจึงตัดขาดทั้ง 7,000 ราย ออกจากการเป็นสมาชิกฯ แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการทุจริตตามที่ถูกกล่าวหาพร้อมให้ตรวจสอบ ส่วนจะมีการดำเนินต่อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับนายทะเบียนซึ่งเป็นผู้เซ็นอนุมัติให้เปิดสมาคมฯดังกล่าว ว่าจะสั่งปิดหรือไม่อย่างไร
