ตำรวจคุมตัว 4 ผู้ต้องหารวมแก๊งทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คดีงัดตู้เอทีเอ็มภายในร้านอาหารในพื้นที่ อ.วังน้อย คนร้ายสารภาพเอาเงินไปใช้หนี้พนันฟุตบอล
เหตุเกิดเมื่องกลางดึกวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา จากกรณีคนร้ายใช้รถกระบะก่อเหตุใช้แก๊สเจาะตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ และฉกเงินสดไปจำนวน 2.4 ล้านบาท ต่อมากลุ่มคนร้ายได้เจาะตูเอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ บริเวณหน้าร้านอาหารลุงนวย หมู่ 2 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ไม่สามารถเปิดห้องเก็บเงินได้จึงหลบหนีไป
จากนั้นรถของคนร้ายได้ถอยเข้าไปพื้นที่รกร้างข้างทางติดกับถนนเลียบคันคลองชลประทาน ม.6 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแกละกล่องเงินและนำหลักฐานไปทิ้งในบ่อน้ำ จนท้องของรถกระบะติดกับขอบถนนไม่สามารถขึ้นมาได้ กลุ่มคนร้ายจึงได้จุดไฟเผาเพื่อทำลายหลักฐาน ก่อนที่จะหลบหนีไปพร้อมกับเงินสดกว่า 2 ล้านกว่าบาท
จากพยานหลักฐานที่มีทางเจ้าหน้าที่ได้นำเหตุคนร้ายเจาะตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่ จ.ลพบุรี และ จ.สระบุรี ตั้งแต่ช่วงวันที่ 25 มิ.ย.มาเปรียบเทียบกับ เหตุเจาะตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ข้อสรุปว่าคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกัน
ตำรวจจึงได้แกะรอยจนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ ทั้งหมด 4 คน คือ นายธวัชชัย พลายแก้ว อายุ 22 ปี, นายพณภัทร สุโชคนันท์ อายุ 26 ปี มีหมายจับคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี 2 หมาย, นายบุญญฤทธิ์ แก้วมณี อายุ 27 ปี มีหมายจับคดีลักทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ นายสมประสงค์ พงก่อสร้าง อายุ 21 ปี มีหมายจับลักทรัพย์และจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ล่าสุดวันนี้ที่ 10 ก.ค. ที่ร้านอาหารลุงนวย พ.ต.ท.เชิงชาย พงษ์แขก รองผกก.สส สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเริ่มจากกลุ่มคนร้ายขับรถกระบะ และรถเก๋งเข้ามาจอดบังหน้าตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์
จากนั้นนายบุญญฤทธิ์และนายพณภัทร ได้ใช้ถังแก๊สที่อยู่ในรถกระบะและอุปกรณ์ที่เตรียมมา ใช้แก๊สเป่าเปิดประตูด้านหลังของตู้เอทีเอ็มได้แต่ไม่สามารถเจาะเข้าไปที่ช่องเก็บเงินได้ จึงได้ย้ายไปเจาะตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ จนสามารถเปิดตู้เอทีเอ็มและเอากล่องเก็บเงินออกมาได้ ซึ่งระหว่างที่ก่อเหตุมีนายสมประสงค์และนายธวัชชัยคอยดูต้นทาง
ด้านนายสมประสงค์บอกว่า ได้ร่วมก่อเหตุกับเพื่อนทำหน้าที่คอยดูต้นทาง ซึ่งกลุ่มคนร้ายนำเงินที่ได้มาแบ่งกันคนละประมาณ 400,000 บาท ซึ่งตนเองได้นำเงินไปใช้หนีพนันฟุตบอล 300,000 บาท และอีกส่วนหนึ่งได้เอาไปให้ครอบครัว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์และพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับแล้ว 4 โจรปล้นตู้เอทีเอ็ม ชิงเงิน 2 ล้าน ก่อเหตุซ้ำซากหลายจังหวัด
อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews