รถไฟฟ้าบีทีเอสขบวนใหม่เดินทางถึงไทยแล้ว รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกช่วยประหยัดพลังงาน เตรียมให้บริการแก่ประชาชนปลายปีนี้
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 61 รถไฟฟ้าบีทีเอสขบวนใหม่ นำเข้าจากกรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ได้มาถึง ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในวันที่ 6 ส.ค. 61 นายกิติศักดิ์ อร่ามเรือง ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน ) ได้นำคณะสื่อมวลชนเข้าตรวจรับขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสใหม่ ณ ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง ซี 0 จ.ชลบุรี
นายกิติศักดิ์ อร่ามเรือง กล่าวว่า รถไฟฟ้าขบวนใหม่ชุดแรกนี้ เป็นขบวนรถไฟในจำนวนทั้งหมด 22 ขบวน ที่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อจาก บริษัท ซีเมนส์ จำกัด เพื่อนำมารองรับปริมาณผู้โดยสารในเส้นทางเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสในปัจจุบัน และส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในเดือน ธ.ค. 2561 ประกอบด้วยสถานีรวมทั้งสิ้น 9 สถานี ซึ่งเมื่อปี 2560 ได้เปิดให้บริการ จำนวน 1 สถานี คือ สถานีสำโรง และอีก 8 สถานีที่จะเปิดให้บริการปลายปีนี้ ประกอบด้วย สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีสุดท้าย คือ สถานีเคหะฯ
และเมื่อส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่–คูคต เสร็จเรียบร้อย รวมทั้งเส้นทางของรถไฟฟ้าในปัจจุบัน ส่งผลให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวมีระยะทางรวมทั้งสิ้น 68.25 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางของประชาชนจากชานเมืองเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดเวลา
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กล่าวว่า ขบวนรถไฟฟ้าใหม่จากบริษัทซีเมนส์นี้ ทำการออกแบบโดยผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ในเยอรมนีและออสเตรียเป็นส่วนใหญ่ และนำมาประกอบที่โรงงานของบริษัท Bozankaya ประเทศตุรกี ซึ่งเป็นพันธมิตรทางการค้ากับบริษัทซีเมนส์ และเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รถไฟฟ้าขบวนใหม่นี้จะมีการปรับรูปโฉมให้ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในขบวนรถที่ช่วยประหยัดพลังงาน และมีพื้นที่จุคนได้มากขึ้นในขบวนรถ เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของบริษัทซีเมนส์ทุกประการ และจะใช้สเปคเดียวกันหรือดีกว่าขบวนรถไฟฟ้าที่มีอยู่เดิม เพื่อให้เข้ากันได้กับระบบต่างๆ ที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์ แต่จะเลือกใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดจากผู้ผลิตชั้นนำของโลก เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนและลดความหนาแน่นของผู้โดยสารที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน