กรมบัญชีกลาง ยืนยันการคำนวณเงินบำนาญให้กับผู้รับบำนาญยังคงใช้สูตรเดิม โดยผู้เกษียณอายุราชการสามารถยื่นขอบำเหน็จบำนาญออนไลน์ได้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
วันที่ 11 ก.พ. 2562 ตามที่มีข่าวเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ว่าข้าราชการเกษียณ ให้ยื่นขอบำเหน็จบำนาญออนไลน์ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้รับร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญใหม่เป็นตัวหารด้วย 30 หากรับราชการมากกว่า 30 ปี ก็ต้องคูณด้วย 30 ปี เท่านั้น และหากร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวผ่านเป็นกฎหมายก็จะมีผลดีกับข้าราชการที่มีชีวิตอยู่ รวมทั้งข้าราชการบำนาญ จะมีเงินเดือนขึ้น 5% ทุกปี และได้สรุปการแก้ไขดังนี้
1. การคำนวณอัตราเงินบำนาญ โดยปรับเป็นใช้อัตราเงินเดือนเดือนสุดท้าย หารด้วย 30 และคูณด้วยอายุราชการ (ไม่เกิน 30 ปี)
2. เพิ่มค่าครองชีพให้กับข้าราชการและผู้รับบำนาญทุกปี ปีล่ะไม่เกิน 5%
3. มีผลบังคับใช้กับข้าราชการในปัจจุบันและข้าราชการบำนาญที่มีชีวิตอยู่
4. ร่าง พ.ร.บ.นี้ ขณะนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้พิจารณาและเห็นชอบแล้อยู่ระหว่างส่งเรื่องให้ผู้เสนอทำตามรัฐธรรมนูญ และต้องมีผู้เห็นด้วย 10,000 คน
นางญาณี แสงศรีจันทร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลังภาครัฐ ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง ชี้แจงว่า กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางไม่มีการเสนอเรื่องการคำนวณบำเหน็จบำนาญข้าราชการเกษียณแต่อย่างใด และยังคงคำนวณบำนาญตามสูตรเดิม ซึ่งคำนวณตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 คือ
เงินเดือนเดือนสุดท้าย x เวลาราชการ หาร 50 (ไม่เกินเงินเดือนเดือนสุดท้าย)
และตามพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 (สมาชิก กบข.) เงินเดือนเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้าย x เวลาราชการ หาร 50 (ไม่เกิน70%ของเงินเดือนเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้าย)
ดังนั้น ข้อความที่มีการเผยแพร่ข้างต้นไม่เป็นความจริง สำหรับเงินเพิ่มจากอัตราบำนาญคือเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) รัฐบาลมิได้มีนโยบายให้ดำเนินการใด ๆ เช่นเดียวกัน