จากกรณีที่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลส่งรายชื่อรัฐมนตรีในโควตาของตนเองให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว โดยระบุว่าให้เป็นผู้พิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย ขณะที่มีข่าวกลุ่มต่างๆ ในพรรคพลังประขารัฐ ที่พลาดหวังตำแหน่งรัฐมนตรีได้ออกมาส่งสัญญาณขอให้มีการพิจารณาใหม่ ทั้งกลุ่มภาคอีสานตอนบนและกลุ่มภาคใต้
ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
วันที่ 16 มิ.ย. เวลา 17.40 น. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แกนนำกลุ่ม กปปส.ในพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กกรณีมีข่าวว่า จะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า ยังไม่ใช่ข่าวจริง เพราะตนยังไม่ทราบการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี แต่ขอขอบคุณคนที่เข้ามานำเสนอความเห็นเรื่องแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องการศึกษา
นายณัฏฐพล ยังระบุถึง ข่าวที่ตนต้องการดูแลกระทรวงพลังงานมากกว่า จนทำให้เกิดการทะเลาะแย่งเก้าอี้ในพรรคเป็นเพียงข่าวเท็จ ข่าวปล่อยโดยนิสัยของตนไม่เคยขอหรือต่อรองว่าต้องได้ดูแลกระทรวงใด ขอให้ผู้ที่ติดตามข่าวอย่าตกเป็นเครื่องมือของคนที่ต้องการปล่อย ขอให้รอการพิจารณาตัดสินใจอย่างรอบด้านในการมอบหมายงานจากนายกรัฐมนตรี โดยหากมอบหมายให้ตนไปทำงานในตำแหน่งใดหรือไม่ให้ตำแหน่งเลยตนรับได้ทุกอย่าง
ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค กล่าวถึงกรณีนายเอกราช ช่างเหล่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่าภาคอีสานตอนบนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดสรรตำแหน่งว่า ทางผู้บริหารของพรรคให้ความสำคัญกับทุกภาค และดูถึงความเหมาะสมเป็นหลัก สุดท้ายพล.อ.ประยุทธ์จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งต้องให้เกียรติในการตัดสินใจ
สำหรับการรายงานข่าวว่า นายเอกราชอยู่ในกลุ่มสามมิตรนั้นก็ไม่เป็นความจริง นายเอกราชไม่ได้อยู่ในกลุ่ม และขณะนี้ไม่มีกลุ่มสามมิตรแล้ว มีแต่พลังประชารัฐเพียงหนึ่งเดียว อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งรัฐมนตรีมีจำกัด ย่อมมีคนผิดหวังและสมหวังเป็นธรรมดา แต่ตนเชื่อว่าทุกอย่างจะสามารถทำความเข้าใจกันได้ เพราะที่ผ่านมาทุกคนต่างก็ทำงานให้พรรคอย่างเต็มที่
(กลุ่มสามมิตร นำ อดีตส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ / แฟ้มภาพ)
“และต้องขอย้ำอีกครั้ง เพราะเวลานี้ใครผิดหวังในการจัดตั้งรัฐบาล ใครจะออกมาเรียกร้องอะไรก็อยู่กลุ่มสามมิตร การจะนำเสนออะไรหากสงสัย หรือไม่ชัวร์ ก็โยนให้ สามมิตร ผมว่าพอเถอะครับ เพราะเวลานี้เรามีเพียงอย่างเดียวคือ พรรคพลังประชารัฐ อย่าโยงไปเรื่อยเพราะคนถูกกล่าวหา โจมตี คือแกนนำที่ไม่รู้เรื่อง และกลับกลายเป็นการโยนบาปทั้งที่เขามิได้กระทำ” นายธนกร กล่าว
