รมช.เกษตร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดพะเยา สั่ง “ผู้ว่าฯ หมูป่า” ตั้งกรรมการขึ้นมาบริหารจัดการกว๊านพะเยา หลังถูกนายทุนบุกรุก ยันเรื่องภัยแล้งรัฐบาลให้ความสำคัญจัดไว้เป็นเรื่องเร่งด่วน
วันที่ 20 ก.ค. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดพะเยาเพื่อติดตามแนวทางการพัฒนาพื้นที่กว๊านพะเยา พร้อมทั้งมอบนโยบายการดำเนินงานแก่หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.พะเยา ร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.พะเยา ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน จ.พะเยา พบว่าปริมาณฝนลดลง เดือน ก.ค. มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 193 มิลลิเมตร เท่านั้น จากเดิม 600-700 มิลลิเมตร ทำให้ปริมาณน้ำฝนปีนี้น้อยมาก
นอกจากนี้ ปริมาณอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ขนาดเล็ก และกว๊านพะเยา มีปริมาณลดลง โดยเฉพาะน้ำในกว๊านพะเยา มีปริมาณน้ำล่าสุดอยู่ที่ 9.34 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 40 สามารถส่งน้ำให้ประปาในพื้นที่ จ.พะเยา ได้เพียง 4 เดือนเท่านั้นหากไม่มีฝนตกลงมา ซึ่งจะกระทบต่อน้ำบริโภคของประชาชน
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า รัฐบาลให้ความช่วยเหลือบรรเทาภัยแล้ง ขุดลอกแหล่งเก็บน้ำที่ตื้นเขินและการทำฝนเทียม นอกจากนี้ เตรียมที่จะดูแลเกษตรกรในเรื่องการเพาะปลูกให้มีรายได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการปลูกข้าวโพดและข้าว ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะเดินหน้าแก้ปัญหาพัฒนาคุณภาพชีวิตในพื้นที่
รมช.เกษตร ยังกล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.พะเยา ว่า ภาพรวม 9 อำเภอ ประสบปัญหาภัยแล้งเช่นกันกับจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือ โดยเฉพาะกว๊านพะเยา ที่มีน้ำตื้นเขินเพราะมีอุปสรรคในการพัฒนาจากการบุกรุกของนายทุน โดยมอบนโยบายไปผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้วว่า ให้มีการตั้งคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประมง กรมธนารักษ์ ตัวแทนจากสำนักพระพุทธศาสนา ภาคเอกชน ประชาชน มาร่วมด้วย โดยอยากเห็นความชัดเจนคณะกรรมการนี้ภายในสัปดาห์หน้า โดยคณะกรรมการนี้มีหน้าที่ขับเคลื่อนแก้ปัญหาทุกเรื่อง เช่น ประมง การท่องเที่ยว ขุดลอก ดูแลโบราณสถานที่ที่จมน้ำอยู่
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวด้วยว่า รัฐบาลได้นำปัญหาภัยแล้งบรรจุไว้ในนโยบายรัฐบาลเพื่อแถลงต่อรัฐสภา เพราะเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไข และเมื่อแถลงนโยบายแล้วก็จะเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนทันที