กำลังอ่าน :
ทั่วไทยแล้งหนัก น้ำที่ใช้ได้จริงเหลือ 15% ความจุ ถ้า ส.ค. ฝนไม่ตกลุ่มเจ้าพระยาเสี่ยงขาดน้ำ
เขียนโดย : Workpoint News
Infographic

ทั่วไทยแล้งหนัก น้ำที่ใช้ได้จริงเหลือ 15% ความจุ ถ้า ส.ค. ฝนไม่ตกลุ่มเจ้าพระยาเสี่ยงขาดน้ำ

View 5 นาที 23 กรกฎาคม 2019
เขียนโดย
Workpoint News
Advertisement
SHARE
COMMENT

ขณะนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนทั่วประเทศไทยอยู่ในระดับวิกฤติ โดยมีน้ำเหลือใช้ได้จริงเพียง 15% ของความจุเขื่อนทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลางที่มีน้ำที่ใช้ได้จริงเหลือในทุกเขื่อนแค่ 6% เท่านั้น  สำหรับพื้นที่ที่วิกฤติที่สุดคือลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งกรมชลประทานระบุว่า หากช่วงเดือนสิงหาคมฝนไม่ตกตามปกติเช่นทุกปี พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะขาดน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภคในเวลาไม่เกิน 3 เดือน

ข้อมูลจากเว็บไซต์ thaiwater.net ของกรมชลประทานระบุว่า ขณะนี้ประมาณน้ำในเขื่อนทั่วประเทศที่ “ใช้การได้จริง” เหลืออยู่ที่ 15% ของความจุอ่างเท่านั้น โดยพื้นที่ที่วิกฤติที่สุดคือเขื่อนในภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตรของพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยในขณะนี้ 12 เขื่อนของภาคเหนือและภาคกลางเหลือน้ำที่ใช้การได้จริงรวมกันเพียงประมาณ 1,600 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งคิดเป็นเพียงประมาณ 6% ของความจุเขื่อนทั้งหมดในพื้นที่

นายประยูร เย็นใจ ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำ กรมชลประทาน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่า โดยปกติแล้วลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาใช้น้ำรวมทั้งการอุปโภค บริโภค และการเกษตร รวมกันประมาณวันละ 45 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งถ้าในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลตามปกติ และน้ำยังถูกปล่อยออกจากเขื่อนในระดับนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการลด ก็จะทำให้น้ำที่ใช้การได้หมดเขื่อนในเวลาประมาณ 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม หากเกิดวิกฤติฝนไม่ตกขึ้นมาจริงๆ ทางกรมชลประทานก็จะลดการปล่อยน้ำเหลือเพียงประมาณวันละ 18 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเป็นระดับที่เพียงพอสำหรับการใช้อุปโภคและบริโภค แต่จะไม่เหลือสำหรับไว้ใช้ในการเกษตร โดยมีแผนจะลดการปล่อยน้ำดังกล่าวในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งเมื่อลดการปล่อยน้ำเช่นนี้แล้ว ก็จะทำให้ลุ่มเจ้าพระยายังมีน้ำใช้สำหรับอุปโภคและบริโภคได้อีกประมาณ 75 วัน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์วิกฤติข้างตนจะเกิดขึ้นในกรณีที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลในเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น หากในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ฝนตกตามปกติเช่นทุกปี วิกฤติน้ำข้างต้นก็จะไม่เกิดขึ้น

สำหรับในภาคอื่นๆ แม้จะเหลือปริมาณน้ำในเขื่อนที่ใช้การได้จริงน้อยเช่นกัน แต่ก็ยังไม่วิกฤติเท่าลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดย 2 เขื่อนในภาคตะวันตก มีน้ำที่ใช้การได้จริงเหลือประมาณ 4.7 พันล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 18% ของความจุ  สำหรับภาคอีสานมีทั้งสิ้น 12 เขื่อน ปัจจุบันเหลือน้ำที่ใช้การได้จริง 921 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 11% ของความจุ

ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้ ซึ่งโดยภูมิประเทศแล้วมีฝนตกชุกเป็นปกติ ปริมาณน้ำในเขื่อนที่ใช้การได้จริงมีอยู่ในสัดส่วนมากกว่าภาคอื่นๆ โดยภาคตะวันออกมีน้ำที่ใช้การได้จริง 21% ของความจุ และภาคใต้มีน้ำที่ใช้การได้จริง 38% ของความจุ

และโดยเฉลี่ยทั่วประเทศแล้ว มีน้ำที่ใช้การได้จริงเหลืออยู่ทั้งสิ้น 10,713 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 15% ของความจุทุกเขื่อนทั้งประเทศรวมกัน

ที่มา กรมชลประทาน

Brought to you by
เขียนโดย Workpoint News
บทความที่เกี่ยวข้อง
แสบคอ-จมูกหนัก หมอกควันไฟป่าอินโดฯ ลุกลามถึงภูเก็ต-พังงา
23 กันยายน 2019
น่าเอ็นดู พังโบม่า เบ่งท้องตกลูกเชือกแรกรับของปี 62
29 เมษายน 2019
พบร่างทารกถูกทิ้งคาปั๊ม ยังไม่ชัดเด็กเสียชีวิตก่อนหรือหลังคลอด
1 ตุลาคม 2019
หนุ่มฟิลิปปินส์ดิ่งสนามบินปริศนา บาดเจ็บสาหัส
29 พฤศจิกายน 2017
กทม.จัดซื้อ "บิ๊กไบค์ดับเพลิง" 18 คัน ราคา 1.3 ล้านบาท/คัน แก้ถึงจุดหมายช้า-เหตุรถติด
27 พฤศจิกายน 2018
ดูทั้งหมด
LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...
  • สุขภาพกายใจ
  • การศึกษา
  • สิ่งแวดล้อม
  • ธุรกิจ
  • Tech
  • Beauty See First
  • Infographic
  • สรุป
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ
  • ต่างประเทศ
  • ในประเทศ
  • อาชญากรรม
  • บันเทิง
  • กีฬา
  • บทสัมภาษณ์
  • บทความ
Designed by Cleverse
Privacy Policy
© 2017 Workpoint News
Designed by Cleverse
ติดต่อโฆษณา
02-833-2469

Privacy Policy