จ่ายค่าเช่าห้องช้า! เจ้าของห้องเช่าบุกทำร้ายเด็ก 14 ปีและ 3 ขวบ

จ่ายค่าเช่าห้องช้า! เจ้าของห้องเช่าบุกทำร้ายเด็ก 14 ปีและ 3 ขวบ

70208 ม.ค. 68 11:24   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

จ่ายค่าเช่าห้องช้า! เจ้าของห้องเช่าบุกทำร้ายเด็ก 14 ปีและ 3 ขวบ ด้านเจ้าของปัดทำร้ายเด็ก แค่ผลักให้ออกจากห้อง ยันต้องชำระในทุกสิ้นเดือน

(8 ม.ค.68) จากกรณีเพจสายไหมต้องรอดได้พาแม่และลูกสาวมาแจ้งความกับ พ.ต.ต.สุระ เลิศไธสง สารวัตรสอบสวนสภ.คูคต หลังจากที่ถูกเจ้าของห้องเช่าบุกเข้าไปให้น้องและทำร้ายลูกสาวอายุ 14 ปี และลูกชายอายุ 3 ขวบ 


ด้านเด็กหญิงแอนนา อายุ 14 ปี บอกว่า ขณะที่เจ้าของห้องเช่ามาถึง ตนเองหลับกับน้องชายอยู่ในห้องไปแล้ว ได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่บริเวณหน้าห้อง จึงไม่กล้าเปิดประตู เพราะตอนนั้นตนเองอยู่กับน้องชายสองคน ไม่รู้ว่าเปิดไปจะโดนอะไรหรือไม่ จนกระทั่งประตูด้านนอกถูกพังออกมาได้ พบว่าเป็นเจ้าของห้องเช่า ตนเองก็กลัว เพราะว่าเขามาด้วยท่าทีที่โมโห พร้อมกับด่าทอ 


จนกระทั่งเขาพยายามมาเปิดประตูเข้าห้องนอน จังหวะนั้นตนเองก็พยายามดันออกซึ่งก็สู้แรงของผู้ใหญ่ไม่ไหวพอประตูเปิดเท่านั้น ตนเองก็ถูกทั้งฝั่งของสามีของเจ้าของห้องเช่าผลัก ก่อนจะถูกตบเข้าที่ใบหน้าสองครั้ง จังหวะชุลมุนตนเองจึงไม่รู้ว่าน้องชายโดนอะไรหรือไม่ 


แต่หลังจากนั้นตนเองก็ได้ยินเสียงน้องชายร้องไห้เสียงดัง ตอนนั้นตนเองก็อยู่ด้วยความกลัว เพราะทางฝั่งของ เจ้าของห้องเช่าก็ได้มีการด่าทอพร้อมกับข่มขู่ ก่อนจะใช้ให้ตนเองขนข้าวของออกมาข้างนอก

  

ส่วน คุณแนน อายุ 30 ปี (แม่ของเด็ก) ได้เปิดเผยว่า ตนเองได้เช่าห้องพักเอื้ออาทร แถวลำลูกกาคลอง 2 ที่เกิดเหตุในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งตนเองได้มีการติดต่อไปหาสองสามีภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของห้องเช่าซึ่งตอนนั้นมีการตกลงจ่ายค่ามัดจำห้องจำนวน 6,000 บาท โดยจะมีค่าเช่าห้องตกอยู่ที่เดือนละ 2,500 บาท ทั้งนี้เองการทำงานของตนเงินเดือนจะออกล่าช้าในทุกสิ้นเดือน ตนเองจึงแจ้งไปกับทางเจ้าของห้องว่าจะจ่ายล่าช้าสุดไม่เกินวันที่ 5 ของเดือนที่จะจ่ายชำระเงินค่าห้อง 


หลังจากที่ตนเองเข้าอยู่ ตนเองได้มีการทวงถามสัญญาห้องไปแต่ทั้งคู่กรณีก็บอกว่ายังไม่สะดวก เพราะเขาติดธุระ หลังจากนั้นตนเองจึงไม่ได้มีการทวงถาม ซึ่งพอเขาโทรมาหาตนเอง ตนได้ไปทำธุระต่างจังหวัด ซึ่งก็ยังไม่ได้มีโอกาสทำสัญญาห้องสักที 


ทั้งนี้ยืนยันว่าตั้งแต่ตนเองอยู่มาชำระค่าห้องทุกเดือน จนกระทั่งมาช่วงต้นปี ตนเองพยายามติดต่อไปหาทางเจ้าของห้องเช่าในเรื่องของการชำระเงิน แต่ก็ไม่ได้รับ การตอบรับจากทางเจ้าของห้องแต่อย่างใด จนกระทั่งวันนี้ลูกสาวได้โทรมาแจ้งว่า ถูกทางเจ้าของห้องเช่ามาทำร้ายร่างกาย ซึ่งพอตนเองรู้อย่างนั้นก็รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะลูกสาวของตนเองเพิ่งอายุ 14 ปี และลูกชายคนเล็กอายุเพียงแค่ 3 ขวบ จึงได้ประสานทางเพจสายไหมต้องรอดเข้ามาช่วย

  

ด้าน นายพิศาล อายุ 47 ปี และนางสาวนรารัตน์ อายุ 45 ปี เจ้าของห้องเช่า ชี้แจ้งกับทีมข่าวว่า ทางด้านของนางสาวแนนได้มาเช่าห้องพักของตนเองในเดือนตุลาคม ปี 67 ซึ่งในตอนที่จะเข้าอยู่ตนเองก็ได้มีการพูดคุยและอธิบายในเรื่องของการชำระเงินค่าเช่า คือต้องชำระในทุกสิ้นเดือน ซึ่งทางด้านของนางสาวแนนก็บอกว่าเงินเดือนออกล่าช้าและสามารถจ่ายไม่เกินในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป ซึ่งตนเองก็บอกว่าไม่สามารถโอนล่าช้าได้ เพราะตนเองก็ต้องไปปิดยอดของธนาคารเหมือนกัน 


โดยตนเองก็ทำแบบนี้กับทุกห้องเช่า พร้อมกับยืนยันว่า ตนเองพยายามที่จะติดต่อหานางสาวแนน เพื่อที่จะทำสัญญาห้อง แต่ทุกครั้งที่ตนเองติดต่อไปเจ้าตัวก็อ้างว่าอยู่ต่างจังหวัด และยังไม่สะดวกให้ตนเองเข้าไปทำสัญญาให้ เหมือนลักษณะพยายามมีการบ่ายเบี่ยง ซึ่งตั้งแต่เข้าอยู่นางสาวแนนก็จ่ายค่าห้องล่าช้ากว่าทุกห้อง ซึ่งตนเองก็คอยต้องตามในทุกทุกเดือน 


จนกระทั่ง เมื่อวันที่3 มกราคม ตนเองก็พยามติดต่อไปหานางสาวแนน แต่ก็พบว่า เจ้าตัวไม่รับสาย เพื่อชำระค่าห้อง ไม่ได้รับการติดต่อมาแต่อย่างใด วันนี้จึงตัดสินใจไปที่ห้องพักดังกล่าว โดยตอนที่ตัวเองไปถึงพยายามเคาะประตูหน้าห้องเรียกผู้เช่าให้ออกมา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ 


ด้วยความโมโหจึงได้พังประตูเข้าไปพอไปถึงก็พบว่า มีคนอยู่ภายในห้องนอน และได้มีการล็อกประตูจึงพยายามตะโกนเรียก แต่ก็ไม่ได้รับเสียงตอบกลับจึงอยู่นิ่งสักพักปรากฏว่า มีเด็กหญิงวัย 14 ปีได้เปิดประตูออกมาพอเห็นตนก็รีบปิดประตูหนี จึงได้พยายามผลักประตูออกไปโดยยืนยันว่า ภาพที่ปรากฏในคลิปตนเองไม่ได้มีการทำร้ายเด็กหญิงวัย 14ปี แต่อย่างใด แค่พยายามผลักตัวเด็กให้ออกจากห้อง ส่วนตัวเด็กวัยสามขวบตนเองก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง ส่วนที่ร้องไห้ ก็เพราะน่าจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 


พร้อมยืนยันให้เด็กไปตรวจร่างกายได้เลย หากเด็กมีรอยแผลถูกตนเองทำร้ายร่างกายก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับตนเองได้เลยส่วนหลังจากนี้ตนเองก็จะให้นางสาวแนน ผู้เช่าออกจากห้องพักด้วยตนเองให้ระยะเวลาสองวันโดยเขาสามารถอยู่ภายในห้องของตนเองได้ 

   

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากทาง ของผู้เช่า ซึ่งเป็นแม่ของเด็กผู้เสียหายทั้งสองคนโดยวันนี้ตนเองได้มีการเชิญทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะเป็นเจ้าของห้องเช่าและตัวผู้เช่าเองมายังสภ.คูคต ซึ่งจากการดูเอกสารเบื้องต้นยังไม่มีการทำสัญญาห้องแต่ได้มีการจ่ายเงินค่ามัดจำห้องไปเรียบร้อยแล้วจำนวน 6,000 บาท จนกระทั่งเมื่อมีการจ่ายค่าห้องล่าช้า 


ซึ่งทางฝั่งของตัวผู้เช่าเองก็ได้มีการพูดว่าสามารถจ่ายให้ก่อนวันที่ห้าของเดือนถัดไป ซึ่งฝั่งของผู้ให้เช่าเองก็ยืนยันว่าจะต้องจ่ายก่อนสิ้นเดือนจนเกิดเรื่อง เลยต้องแจงว่าในส่วนนี้การที่จะให้ผู้เช่าย้ายออกจากห้องนั้นต้องมีการแจ้งย้ายออกก่อนล่วงหน้าสองเดือน เนื่องจากมีการเก็บเงินไปล่วงหน้าแล้ว โดยการบุกเข้ามาที่ห้องแบบนี้ก็ถือว่าผิด 


โดยหลังจากที่มีการเชิญทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยกัน โดยจากการพูดคุยในเบื้องต้นทั้งสองฝ่าย ยังคงยืนยันในข้อมูลและหลักฐานของตนเองและเกิดปากเสียงตอบโต้กันไปมา โดยทั้งฝั่งของเจ้าของห้องเช่ายืนยันว่า ไม่ได้มีการทำร้ายเด็กแต่อย่างใด โดยมีการจำลองกับผลักตัว โดยนายเอก สายไหม ในวิธีการผลัก แทนการผลักเด็ก หลังจากที่มีการตอบโต้กันไปมา จึงให้ทางด้านของนางสาวแนน แม่ของเด็กได้พาเด็กเข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าที่ตำรวจ


ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมูบ้านเอื้ออาทร เสมาฟ้าครามตึก 5ชั้น 5 ห้อง 339/36 บริเวณหน้าห้องมีข้าวของวางอยู่ และภายในห้องที่นอนพร้อมทั้งข้าวของกระจัดกระจายอยู่เต็มห้อง ลูกปิดประตูถูกถอดออก พร้อมทั้งตัวล็อกกลอนประตูพังเสียหาย 


ด้านพ.ต.ต.สุระ เลิศไธสง สารวัตรสอบสวนสภ.คูคต หลังจากรับแจ้งความแล้วได้แจ้งข้อหากับสองสามีภรรยาเจ้าของห้อง1.ร่วมกันบุกรุกโดยทำลายสิ่งกีดขวาง 2.ร่วมกันทำร้ายร่างกาย 3.ร่วมงานทำให้เสียทรัพย์


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง