"รุ่นพี่มือสาดน้ำซุปร้อน" นอนห้องขังเครียด เลื่อนฝากขัง คาดมีผู้เสียหายเพิ่ม

(10 ก.พ.68) ที่ สภ.คลองหลวง เวลา 10:00 น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เปิดเผยความคืบหน้าหลังการประชุมร่วมกับคณะทำงานกรณีแก๊งโอริโอ้ และเหตุความรุนแรงของกลุ่ม LGBTQ 

โดยหลังจากเมื่อวานนี้ที่ นายรษิภา หรือพีม และนายชคัทพล หรือโอชิ ถูกควบคุมตัวมาที่โรงพัก พร้อมถูกแจ้ง 2 ข้อกล่าวหา กรรโชคทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายร่างกาย โดยนายรษิภา หรือพีม ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ขณะที่นายชคัทพล หรือโอชิ รับสารภาพข้อกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย แต่ปฏิเสธข้อหากรรโชคทรัพย์ 

โดยวันนี้ตำรวจต้องเลื่อนการส่งตัวฝากขังศาลไปเป็นวันพรุ่งนี้ เนื่องจากยังคงมีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม อยู่เรื่อยๆ โดยพนักงานสอบสวนจะได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาทีเดียว ซึ่งล่าสุดตอนนี้มีผู้เสียหายจากเคส LGBTQ แล้ว 5 ราย  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รุ่นพี่ LGBTQ ม.ดัง รวมตัวล้อมคอนโด กดดันมือสาดน้ำซุปใส่รุ่นน้อง

ศิษย์เก่า เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยดำเนินการกับกลุ่ม นศ. สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้องพ้นสภาพจากการเป็น นศ.

เพจดัง เผย "มือสาดซุปร้อน" สำนึกผิดขอโทษสังคม ยันไม่ได้หนีหายไปไหน

ตร.ควบคุมตัว ‘พีม’ มือสาดน้ำซุปรังสิต พร้อม ‘โอชิ’ มาโรงพัก

ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งนายโอชิและนายพีมมีการกล่าวอ้างว่ารู้จักกับตำรวจยศใหญ่ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ผู้กำกับ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเป็นเพียงแค่การกล่าวอ้างขึ้นมาลอย ๆ เพื่อให้เหยื่อกลัว และไม่กล้าเข้ามาแจ้งความ นอกจากนี้ก็ไม่พบว่ามีการแอบอ้างถึงบุคคลอื่นๆ อีก

เมื่อถามต่อว่าแล้วทำไมเหยื่อถึงยอมได้ขนาดนี้ ผู้กำกับสภ.คลองหลวงบอกว่า ถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครมีการข่มขู่ว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร จะยกพวกมารุมทำร้ายร่างกาย

ทั้งนีเรื่องนี้มีการประสานงานไปยังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. เพื่อให้ตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยต้นสังกัดของทั้งผู้เสียหาย และผู้ที่ก่อเหตุ

โดยวันนี้พลตำรวจตรียุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี จะเข้าไปคุยกับทีมผู้บริหารของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ถึงมาตรการที่จะลงโทษกับกลุ่มนักศึกษาผู้ก่อเหตุอย่างไร รวมไปถึงแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก โดยกำลังจับตาดูว่า ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จะอนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวหรือไม่