หลอกจำนองที่ดินด้วยโฉนดปลอม ระบาดหนักภาคอีสาน มูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท

หลอกจำนองที่ดินด้วยโฉนดปลอม ระบาดหนักภาคอีสาน มูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท

120601 พ.ค. 68 19:19   |     Tum1

หลอกจำนองที่ดินด้วยโฉนดปลอม ระบาดหนักภาคอีสาน เหยื่อเผยสูญเงินร่วม 12 ล้านบาท ถือครองโฉนดปลอมร่วมครึ่งปี เชื่อยังมีอีกหลายครอบครัวที่โดนหลอก ความเสียหายรวมกว่า 70 ล้านบาท

(1 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สายไหมต้องรอด น.ส.จามณี (สงวนนามสกุล) , น.ส.สิริพันญา (สงวนนามสกุล) และ นายสมเจตน์ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายที่เดินทางมาจาก จ.สุรินทร์ ร้องเรียนว่าถูกนายหน้าที่ดิน นำโฉนดปลอมมาจำนองไว้ และมีผู้เสียหายหลายราย เมื่อสืบต่อก็ทราบว่า ก่อเหตุมานานแล้วกว่า 10 ปี แต่ตำรวจยังไม่มีการจับกุม จึงเดินทางไปร้องทุกข์ กับกองบังคับการปราบปราม ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกง และ ปลอมแปลงใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ" ก่อนเดินทางเข้ามาร้องเรียนยังเพจสายไหมต้องรอด เพราะกลัวเรื่องจะเงียบ


ผู้เสียหาย เล่าว่า นายหน้ากลุ่มนี้จะเข้ามาตีสนิทกับคนในครอบครัว และนำโฉนดมาจำนอง เพื่อสร้างความเชื่อใจก่อน 2 - 3 ครั้ง แล้วหลังจากนั้น ก็จะกลับมาทำในรูปแบบเดิม แต่ครั้งนี้จะใช้เป็นโฉนดปลอมสวมรอยเข้ามาในการยื่นจำนอง โดยมีขั้นตอนกระบวนการการเดินเรื่องเอกสารจริง และออกอุบายพาไปทำที่กรมที่ดิน แต่เมื่อไปถึงที่สำนักงานที่ดิน ทางนายหน้ากลุ่มนี้ จะอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ด้านใน เดี๋ยวจะไปเดินเรื่องให้ โดยให้ผู้เสียหาย นั่งรออยู่ด้านนอกกับบุคคลที่มาด้วยกัน 

ซึ่งทางกลุ่มนายหน้านั้นพามา อ้างว่า เป็นเจ้าของที่ดินในแปลงที่นำมาจำนอง ก่อนจะทำการเดินเรื่องจนเสร็จ แล้วออกมาให้ผู้เสียหายเซ็นเอกสาร ซึ่งมีการลงรายละเอียดและกำกับไว้ว่า จะใช้เวลาประมาณ 1 ปี 6 เดือน ตั้งแต่ช่วงปี 2566 จนถึงปัจจุบัน และบอกว่าจะมาไถ่ถอนคืนในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 



ซึ่งตลอดเวลาที่รอ ก็ยังมีการติดต่อกับกลุ่มนายหน้ากลุ่มนี้ได้ปกติ จึงไม่ได้เอะใจ หรือผิดข้อสังเกตใดๆ กระทั่งครบกำหนดก็ไม่พบกลุ่มนายหน้ากลุ่มนี้มาไถ่ถอนคืน ทางผู้เสียหายจึงเดินทางไปกรมที่ดิน เพื่อทำการคัดโฉนด และเอกสาร จึงรู้ว่าโฉนดที่กลุ่มนายหน้านำมาให้ไว้ และผู้เสียหายถือไว้กว่าครึ่งปีนั้นเป็นโฉนดปลอม

"เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายราย กระจายอยู่ในภูมิภาคภาคอีสานใต้ และภาคกลางรวมถึงปริมณฑล คาดว่ามีมูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท" 





ด้านนายขจรศักดิ์ อื้อศรีสกุล ทนายความ เปิดเผยว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายในหลายท้องที่ทั่วประเทศไทย โดยผู้เสียหายบางราย ก็ไม่สะดวกในการไปดำเนินการในท้องที่จังหวัดอื่น จึงอยากขอให้ทางกองบังคับการปราบปราม รวบรวมผู้เสียหายทุกกรณี เข้ามาไว้ที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้สะดวกต่อการสืบสวนสอบสวน และนำผู้กระทำผิดเข้ามาดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

"กลุ่มขบวนการนี้ บางคนมีหมายจับติดตัวนับสิบหมาย ทราบว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินไปยังลูกหรือญาติ ตำรวจก็ยังดำเนินการตามจับอยู่ ขอแค่คนที่โดนหลอกลวงในลักษณะแบบนี้เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติม" - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat