แม่นักโทษประหารคดีฆ่าเศรษฐีนีตลาดโรงเกลือ หวังรื้อฟื้นคดีพิจารณาใหม่
แม่นักโทษประหารคดีฆ่าเศรษฐีนีตลาดโรงเกลือ หวังรื้อฟื้นคดีพิจารณาใหม่

แม่นักโทษประหาร 'คดีฆ่าเศรษฐีนีตลาดโรงเกลือ' นำหลักฐานใหม่ร้องสื่อฯ หวังรื้อฟื้นคดีพิจารณาใหม่ "ทนายอั๋น" เตรียมยื่นศาลฎีกา
(29 พ.ค.68) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" พานางมาลี (สงวนนามสกุล) มารดา พร้อมน้องสาวของนายวิชัย (สงวนนามสกุล) หนึ่งในจำเลยที่ถูกศาลฎีกาตัดสินลงโทษประหารชีวิต ในคดีร่วมกันฆ่าเศรษฐีนีที่จังหวัดสระแก้ว มาร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน หลังพบพยานหลักฐานใหม่ที่อาจนำไปสู่การรื้อฟื้นคดีนี้
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ม.ค.61 เมื่อ นางสายันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี และ นายพิพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของ "ตลาดสดสายันต์" ในตลาดโรงเกลือ ถูกคนร้ายบุกเข้าไปฆ่าอย่างโหดเหี้ยมภายในบ้านพัก โดยใช้อาวุธมีดแทงและปาดคอจนเสียชีวิต
1 ก.พ.61 ตำรวจคุมเข้มชายแดนและคุ้มครองพยานสำคัญ โดยให้น้ำหนักประเด็นการขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่น ต่อมา มีการจับกุม นายวิชัย หรือ ต่อ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี คนขับรถเทศบาลตำบลคลองหาด ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
4 ก.พ.61 ตำรวจมีคำสั่งเปลี่ยนพนักงานสอบสวน และส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ จากหลักฐานภาพวงจรปิดภายในบ้าน ที่เผยให้เห็นทีมคนร้ายพยายามงัดรถกระบะของนางสายันต์ ต่อมา มีการจับกุม นายนพรุจ หรือ ต้อม (สงวนนามสกุล) ผู้ขับรถไปส่ง "โล๊ะ" ผู้ต้องหาอีกราย ข้ามไปกบดานในกัมพูชา
19 มี.ค.61 ตำรวจบุกรวบ นายวิชิต หรือ โล๊ะ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ปรากฏในภาพวงจรปิด
10 เม.ย.61 ตำรวจจับกุมผู้บงการฆ่าได้สำเร็จ คือ ร.อ.สุเทพ หรือ "นายกเต่า" (สงวนนามสกุล) นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคลองหาด และ ร.อ.ทองทศ หรือ ทองวราห์ (สงวนนามสกุล) สจ.สระแก้ว และรองประธาน อบจ.สระแก้ว น้องชายของ ร.อ.สุเทพ ในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"
12 มิ.ย.61 ครอบครัวผู้เสียชีวิตร้องขอความเป็นธรรมกับทีมงาน “ทนายประชาชน” เนื่องจากกังวลว่าจะถูกทำร้ายและทำลายหลักฐานในคดี หลังผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด จึงเข้ามารับทำคดี
7 ส.ค.61 นางมณีรัตน์ หรือ เจ๊เยาว์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดี "จ้างวานฆ่า" ได้เข้ามอบตัวที่กองบังคับการปราบปราม โดยทนายษิทรา เป็นผู้ประสาน
28 มี.ค.62 ศาลจังหวัดสระแก้ว ยกฟ้องจำเลยที่ 1 (นายวิชัย) , จำเลยที่ 2 (นายนพรุจ) , จำเลยที่ 4 (ร.อ.สุเทพ) และ จำเลยที่ 5 (ร.อ.ทองทศ) เนื่องจาก หลักฐานไม่เพียงพอ และสั่งประหารชีวิตจำเลยที่ 3 (นายวิชิต หรือ โล๊ะ) แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจาก ให้การเป็นประโยชน์ สั่งจำคุกจำเลยที่ 6 (นางมณีรัตน์) 4 เดือน ในความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน โดยไม่รอลงอาญา
โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยทุกคนสถานหนัก
14 ก.ค.62 ศาลอุทธรณ์ภาค 2 กลับคำพิพากษาศาลจังหวัดสระแก้ว ให้ประหารชีวิต จำเลยที่ 1 , 4 และ 5 ให้ และจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 3 และ 6 ยกฟ้องจำเลยที่ 2 ให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกับโจทก์เป็นเงิน 2 ล้านบาท หลังทราบคำตัดสิน จำเลยที่ 4 , 5 และ 6 ได้ยื่นฎีกาขอให้ศาลลงโทษสถานเบา
20 พ.ย.66 ศาลฎีกา ตัดสินประหารชีวิต จำเลยที่ 1 (นายวิชัย) และจำเลยที่ 4 (ร.อ.สุเทพ), จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 5 (ร.อ.ทองทศ) และ จำเลยที่ 3 (นายวิชิต) , ยกฟ้อง จำเลยที่ 6 (นางมณีรัตน์) ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 2 เสียชีวิตในระหว่างการพิจารณาคดี
ทนายอั๋น เปิดเผยว่า ตนได้รับการติดต่อเพื่อขอให้เป็นทนายความในชั้นนี้ ซึ่งมารดาของนายวิชัย ซึ่งถูกศาลฎีกาตัดสินประหารชีวิต ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เชื่อว่า สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายวิชัย บุตรชายได้ ซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าวเพิ่งปรากฎในชั้นฎีกา เนื่องจาก ทนายของจำเลยที่ 6 ซึ่งไปตกลงกับฝั่งผู้ตาย(ผ่านทนายชื่อดัง) เพื่อให้มาเป็นพยานเบิกความเอาผิดจำเลยในคดีนี้
และต่อมา เกิดขัดแย้งผลประโยชน์กัน จึงนำพยานหลักฐานดังกล่าวมาให้ฝั่งจำเลย และได้ยื่นต่อศาลฎีกา แต่ศาลไม่สามารถรับเป็นพยานหลักฐานในชั้นฎีกาได้ ก่อนที่ศาลฎีกาตัดสินประหารชีวิตนายวิชัย จำเลยที่ 1 ที่ให้การปฏิเสธมาตลอด โดยรวบรวมพยานหลักฐานครั้งนี้ เพื่อยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลฎีกา รื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่ได้ตาม พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ ต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
