ลูกบ้านในหมู่บ้านหรู ร้องปัญหาเพื่อนบ้านเลี้ยงขันทั้งวันทั้งคืน ได้รับความทุกข์ทรมานนานกว่า 3 ปี แจ้งขอความช่วยเหลือไปทุกหน่วยงานแต่ไม่ได้รับการแก้ไข

ลูกบ้านในหมู่บ้านหรู ร้องปัญหาเพื่อนบ้านเลี้ยงขันทั้งวันทั้งคืน ได้รับความทุกข์ทรมานนานกว่า 3 ปี แจ้งขอความช่วยเหลือไปทุกหน่วยงานแต่ไม่ได้รับการแก้ไข

39420 ม.ค. 68 17:54   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ลูกบ้านในหมู่บ้านหรู ร้องปัญหาเพื่อนบ้านเลี้ยงขันทั้งวันทั้งคืน ได้รับความทุกข์ทรมานนานกว่า 3 ปี แจ้งขอความช่วยเหลือไปทุกหน่วยงานแต่ไม่ได้รับการแก้ไข รับเคยอยากจบปัญหาด้วยการยิงคู่กรณี ยิงไก่ และปลิดชีพตัวเองตาม

(20 ม.ค.68) นายไก่ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ร้องไปยังเพจสายไหมต้องรอด หลังเพื่อนบ้านเลี้ยงไก่แล้วส่งผลกระทบ ไก่ขันเสียงดัง ทุกวันและเกือบจะทุกเวลา โดยผู้เสียหายเล่าว่า แต่เดิมตนอยู่ทาวน์เฮ้าส์ แต่ด้วยแม่และยายอายุเยอะแล้ว จึงตัดสินเอาเงินเก็บทั้งชีวิตมาซื้อบ้านที่หมู่บ้านนี้ในราคา 7.8 ล้านบาท ในเดือน มี.ค. 65 ตนก็ได้มาดูบ้าน ก็ไม่มีปัญหาอะไร มีการเซ็นสัญญา และย้ายเข้าเมื่อเดือน ส.ค. 65 


ในช่วงแรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกอย่างปกติ จนเดือน พ.ย. ในปีเดียวกัน เพื่อนบ้านที่บ้านด้านหลังติดกัน ได้เอาไก่เข้ามาเลี้ยง ในช่วงแรกเขาเลี้ยงไก่หน้าบ้าน ตนเลยได้รับผลกระทบไม่เยอะ แต่พักหลังมา มีจำนวนไก่เยอะขึ้น และส่งเสียงดังมากขึ้น จนตนและเพื่อนบ้านหลายๆหลังได้รับผลกระทบเดียวกัน แต่บ้านตนได้รับผลกระทบหนักที่สุดไก่ของเพื่อนบ้านเคยบินข้ามมาบ้านของตน และมาขี้ที่บริเวณบ้าน และส่งเสียงดังตลอดเวลา จนแม่กับยายต้องย้ายกลับไปอยู่ทาวน์เฮ้าส์เหมือนเดิม 


ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาตนพยายามร้องเรียนไปยังโครงการบ้านก็มีการไปพูดคุยประนีประนอม เพื่อนบ้านก็เคยย้ายไก่ออก แต่ก็แค่ 1-2 เดือน แล้วก็เอากลับมาเลี้ยงใหม่ ตนเคยเครียดจนถึงขั้นต้องไปพบแพทย์เพื่อรักษา ต้องออกไปทำงาน work from home ที่อื่น เคยเครียดหนักจนถึงขั้นจะซื้อปืนมายิงไก่ ยิงเพื่อนบ้าน และยิงตัวตายตาม แต่คิดถึงหน้าแม่และยาย เลยหยุดอารมณ์นั้นไว้ได้ เลยมาร้องสายไหมต้องรอดเพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหา


ไก่ของเพื่อนบ้านขันตลอดทั้งวัน เมื่อวานถ่ายคลิปทั้งวัน ขันทุกนาที บางนาทีขัน 7-8 ครั้ง ซึ่งในขณะให้สัมภาษณ์สื่อ ก็ยังคงได้ยินเสียงไก่ขัน 


ผู้เสียหายยังระบุอีกว่า ถ้ารู้ว่าซื้อบ้านแล้วจะมีปัญหาแบบนี้คงไม่เซ็นสัญญาซื้อบ้านตั้งแต่แรก ตอนนี้จะขายก็ไม่กล้าขาย เพราะสงสารคนมาซื้อเพราะยังไงก็ต้องเจอปัญหาเดียวกัน 


ทีมข่าวได้ไปยังบ้านของเพื่อนบ้านหลังดังกล่าว พบว่ามีการเลี้ยงไก่ถึง 4 ตัวจริง เป็นไก่ชน และส่งเสียงขันเป็นระยะๆ ในส่วนของเพื่อนบ้านเองไม่ได้ออกมาพูดคุยกับทางนายเอกภพ เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน แต่เปิดประตูหน้าบ้านและเปิดพัดลมทิ้งไว้ 


ทางด้านของ นางกิติมา หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล บอกว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกัน และจะให้ทางเพื่อนบ้านย้ายไก่ออก และจะต้องเจรจากับโครงการในการดูแลลูกบ้านเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อบ้านหลังอื่น 


ในส่วนของเจ้าหน้าที่โครงการเอง ก็ทราบเรื่องมาสักระยะหนึ่งแล้ว และพยายามพูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการให้ย้ายไก่ออกแล้ว แต่ก็กลับมาทำอีก ตอนนี้ทางโครงการยังไม่ได้เป็นนิติบุคคลจึงยังไม่มีข้อเด็ดขาดในการจัดการ แต่จะพยายามไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก


ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า ถ้าอยู่ในต่างจังหวัด ก็สามารถเลี้ยงไก่ได้โดยไม่กระทบกับใคร แต่ในเมืองแบบนี้ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว ถ้ายังเป็นแบบเดิมในการย้ายไก่ออกและนำกลับมาใหม่ ต้องให้สำนักงานเขตสายไหมทำข้อบังคับ และต้องแจ้งความร้องทุกข์กันต่อไป 


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง