ลูกอดีตนายพล ตร.เข้ามอบตัวปมทำร้ายร่างกายนางเอก MV ร้อยล้านวิว
ลูกอดีตนายพล ตร.เข้ามอบตัวปมทำร้ายร่างกายนางเอก MV ร้อยล้านวิว

สน.พระโขนงลงบันทึกประจำวัน 'ลูกอดีตนายพลตำรวจ' คดีทำร้ายนางเอก MV ชี้มาพบตำรวจและไม่มีเจตนาหลบหนี– ตำรวจยังไม่แจ้งข้อหา
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 28 พฤษภาคม ที่สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง นายก้องหล้า บุตรชายของอดีตนายพลตำรวจที่เกษียณอายุราชการ เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน พร้อมทนายความและกลุ่มเพื่อน ภายหลังถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกายนางสาวเบล นางเอกมิวสิกวิดีโอเพลงดังที่มียอดชมกว่าร้อยล้านวิว ซึ่งเป็นแฟนสาวในขณะเกิดเหตุ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้มีการประสานหรือนัดหมายล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ โดยในขณะนั้น พนักงานสอบสวนไม่อยู่ที่สถานี เนื่องจากไปสอบปากคำแพทย์เกี่ยวกับระดับความรุนแรงของอาการบาดเจ็บของผู้เสียหาย ทำให้นายก้องหล้ายังไม่ได้รับการสอบปากคำหรือรับทราบข้อกล่าวหาใด ๆ เบื้องต้นได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อแสดงตนว่ามาพบตำรวจแล้ว และไม่มีเจตนาหลบหนี
ระหว่างการเข้าพบเจ้าหน้าที่ นายก้องหล้าไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และมีสีหน้านิ่งเฉยตลอดเวลา
ทนายความของนายก้องหล้าเปิดเผยว่า การเข้ามอบตัวในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อยืนยันว่าไม่มีการหลบหนี และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่านายก้องหล้าอาจหลบหนีหรือแทรกแซงคดี โดยย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผู้เป็นพ่อ และยืนยันว่าไม่ได้รับแรงกดดันจากครอบครัวแต่อย่างใด
ในส่วนของข้อเท็จจริง ทนายความระบุว่ายังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดเหตุทำร้ายร่างกายจริงหรือไม่ โดยต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันมีเพียงคลิปวิดีโอเหตุการณ์บางช่วง ส่วนรายละเอียดที่มากกว่านั้นยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ทนายยืนยันอีกว่า ทั้งสองฝ่ายเคยคบหากันในฐานะคนรัก และมีการทะเลาะเบาะแว้งกันจริง แต่ไม่สามารถฟันธงได้ว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันนั้นมีลักษณะใด
ในประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องยาเสพติด ทนายความยืนยันว่า นายก้องหล้าไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด และพร้อมเข้ารับการตรวจสอบหากมีการร้องขอจากเจ้าหน้าที่
ด้าน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ผู้กำกับการ สน.พระโขนง เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายก้องหล้าไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9 มิถุนายน ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ แต่เนื่องจากนายก้องหล้าเดินทางมาวันนี้โดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า และเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ จึงยังไม่สามารถดำเนินการสอบปากคำหรือแจ้งข้อหาได้ในวันนี้
สำหรับกรณีที่อาจเข้าข่าย “ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส” นั้น ขึ้นอยู่กับผลคำให้การของแพทย์ ซึ่งหากผลการสอบปากคำชี้ว่าเข้าข่ายความผิดร้ายแรง เจ้าหน้าที่สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ในภายหลัง
ทั้งนี้ นายก้องหล้าและทีมกฎหมายยืนยันว่า หากได้รับหมายเรียกหรือมีการนัดหมายอย่างเป็นทางการ ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่