“อ.นันทนา” ชี้มีล็อกโหวตแน่ หลายกลุ่มเตรียมเข้าชื่อร้อง

(27 มิ.ย. 67) รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส ผู้สมัคร ส.ว.กลุ่มที่ 18 กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการนับคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รอบที่ 2 แบบไขว้แล้วเสร็จ ระบุว่า ผลการนับคะแนนเลือก สว. เสร็จแล้ว ตนได้รับเลือกเป็น สว. ในลำดับที่ 9 โดยเบื้องหลังที่ตนได้ลำดับนี้เนื่องจากกระบวนการเลือกในครั้งนี้ จะต้องมีการตรวจสอบการล็อคโหวต เพราะทุกกลุ่มจะมีคนจองอันดับที่ 1-8 ไปแล้ว ก็อาจจะมีการนัดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องของกระบวนการเลือกที่มีการจัดบุคคลเข้ามาแบบเป็นกระบวนการ และแพ็คกันเข้ามา ที่สามารถเข้ามาเป็นอันดับ 1-8 ได้ของแต่ละกลุ่ม

สำหรับวิธีการของกระบวนการดังกล่าว รศ.ดร.นันทนา เผยว่า วิธีการจะมากันเป็นกลุ่ม ไม่พูดคุยกับกลุ่มผู้สมัครคนอื่น ซึ่งรวมตัวกันเฉพาะ และมีคะแนนที่ออกมาในลักษณะที่เหมือนๆ กัน หากมีโอกาสได้เข้าไปดูคะแนนจะเห็นได้ว่าเลขมีลักษณะที่เรียงกันมา ตัวเลขเหมือนกันแต่จะสลับตำแหน่งกันทุกกระดาษทุกกลุ่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหญ่มากหากปล่อยไว้ให้มีกระบวนการล็อคโหวตในการเลือกครั้งนี้เราก็จะได้ สว. ที่มาจากการล็อคโหวต และไม่ตอบโจทย์กับการที่เราอยากจะได้ สว. มาทำหน้าที่ในกระบวนการนิติบัญญัติ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการนัดแถลงข่าวจะส่งผลอะไรต่อการเลือกในครั้งนี้หรือไม่ รศ.ดร.นันทนา กล่าวว่า จริงๆ แล้ว จะต้องมีการร้องเรียนไปยัง กกต. เพื่อให้ตรวจสอบกระบวนการนี้ก่อนว่า มีการดำเนินการในลักษณะที่ร่วมมือกันในทุกๆ ที่ จากระดับอำเภอขึ้นมาระดับจังหวัด จนเข้ามาถึงระดับประเทศ เพราะเราไม่เห็นในระดับจังหวัด เพราะเป็นการเลือกกันเอง แต่พอเข้ามาใน กทม. เราเห็นได้ว่า 20 กลุ่มจะมีหน้าตาเหมือนกันหมดเลย จึงเชื่อว่าเป็นการกระทำที่จัดของกลุ่มบุคคลที่มุ่งผลให้ สว. ของตัวเองที่ส่งเข้ามา

ส่วนจะมีพรรคการเมืองใดเกี่ยวข้องหรือไม่ เป็นสิ่งที่จะต้องดู และตรวจสอบ พร้อมเรียกร้องให้ กกต. เข้าไปดำเนินการว่าเป็นฝีมือของใคร อีกทั้งมีการล่ารายชื่อของผู้สมัคร สว. ครั้งนี้ เพื่อขอให้ตรวจสอบในเบื้องต้น เพราะทุกคนเห็นกันว่ามีกระบวนการเหล่านี้อยู่ ซึ่งมีผู้สมัครหลายคนที่ยังไม่ได้เดินทางกลับไปก็ร่วมลงชื่อด้วยเช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่หากมีการล่ารายชื่อ เพราะตนเองได้รับการรับเลือกให้ผ่านเข้ารอบไปแล้ว รศ.ดร.นันทนา ระบุว่า จุดเริ่มต้นคงไม่ใช่ไปตรวจสอบแล้วบอกว่าทุกอย่างต้องเป็นโมฆะมันควรจะไปดูเป็นกรณีว่ามีคนกลุ่มไหนทำ ถ้ามีลักษณะแบบที่กล่าวหาก็จะต้องไปดำเนินการเป็นรายบุคคลที่เข้ามาในลักษณะแบบนั้น ซึ่งการล้มกระดานเลือก สว. ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องการ เนื่องจากประชาชนไม่อยากได้ สว. ที่ดำรงตำแหน่ง ให้รักการอยู่ในปัจจุบัน หากเป็นโมฆะก็จะทำให้ สว. ชุดปัจจุบันได้ดำรงตำแหน่งต่อไป 

อีกทั้ง ด้วยเงื่อนไขการเลือก เป็นกระบวนการที่พิสดาร และซับซ้อน จึงไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับประชาชนเลย และจะไม่ได้ตัวแทนที่เป็นผู้ที่มีคุณภาพเข้าไปในการทำหน้าที่ สว. เลย จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการในการเลือก สว. ที่ควรจะเป็นการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน เพื่อให้เขาไปทำหน้าที่นิติบัญญัติตามคุณสมบัติที่เหมาะสม