แจ้งข้อหาหนุ่มขับเฟอร์รารี่ - ชนเบนซ์ ก่อนหมุนชนกระบะ กล้องวงจรปิดชี้ชัด

แจ้งข้อหาหนุ่มขับเฟอร์รารี่ - ชนเบนซ์ ก่อนหมุนชนกระบะ กล้องวงจรปิดชี้ชัด

62523 เม.ย. 68 17:38   |     AdminNews

คนขับรถเฟอร์รารี่ -รถกระบะ และ รถเบนซ์ เข้าพบตำรวจหลังอุบัติเหตุรถชนกันจนเกิดเหตุเพลิงไหม้ ด้านพ่อเผยลูกขับเฟอร์รารี่อ้างถูกตัดหน้าก่อน ส่วนคนขับกระบะแสดงความบริสุทธิ์ ยันไม่ใช่ต้นเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เฟอร์รารี่-เบนซ์ เฉี่ยวชนไฟลุกไหม้ทั้ง 2 คัน


23 เม.ย.68 ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.บุญโรจน์ โลจายะ ผกก.สน.ธรรมศาลา เปิดเผยว่า ภายหลังพนักงานสอบสวนร้อยเวรได้รับแจ้งเหตุเมื่อช่วงประมาณ 2:00 น. จึงได้รีบเดินทางไปที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ก็พบสภาพรถยนต์ทั้ง 3 คัน ได้แก่ รถเฟอร์รารี่ รถเบนซ์ และรถกระบะวีโก้ ต่างถูกชนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะรถเฟอร์รารี่และรถเบนซ์ที่ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายพังทั้งคัน ทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งดับเพลิงและเคลียร์ซากรถทั้ง 3 คันออก เพื่อเปิดช่องทางการจราจร 


ทั้งนี้ในที่เกิดเหตุ พบคนขับรถกระบะตู้ทึบ ร้อยเวรจึงได้สอบปากคำเบื้องต้น โดยเล่าว่า ขณะที่คนขับรถกระบะมุ่งหน้าจากถนนพุทธมณฑลสาย 4 เพื่อมุ่งหน้าไปยังถนนพุทธมณฑลสาย 3 ระหว่างทางคนขับกระบะวิ่งอยู่บนช่องทางด่วนของถนน ก็รู้สึกเหมือนถูกชนท้ายจนรถกระบะเสียหลักชนข้างทางได้รับความเสียหาย เมื่อคนขับรถกระบะลงมาดูก็เห็นว่ามีรถเฟอร์รารี่และรถเบนซ์ได้รับความเสียหายอยู่บริเวณด้านหลังแล้วเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งคนขับรถกระบะก็ไม่ทราบว่ารถคันไหนมาชนท้ายรถตน ทั้งนี้คนขับรถกระบะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและรักษาพยาบาลที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 


สำหรับคนขับรถเฟอร์รารี่และรถเบนซ์นั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบตัว แต่จากการสอบถามข้อมูล ทราบว่าได้ไปที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบโรงพยาบาลบริเวณโดยรอบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเมื่อคืนหรือไม่ 


ต่อมาช่วงบ่าย นายกมล ศิราธร อายุ 55 ปี พ่อของนายเฟียส อายุ 22 ปี ผู้ขับขี่รถเฟอร์รารี่ ได้พาลูกชายเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมาให้ปากคำหลังเกิดเหตุ โดยนายกมล เผยว่า ขณะตนกำลังนอนอยู่ ภายในบ้านระหว่างนั้น มีคนมาแจ้งข่าวว่า ลูกชายตนเกิดอุบัติเหตุรถชนอยู่บริเวณช่องทางด่วน (ขาเข้า) แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. ด้วยความตกใจตนจึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุทันที 


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า สภาพรถนั้นเฟอร์รารี่ - Ferrari เกิดเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งคัน โดยมีลูกชายยืนอยู่ในอาการตกใจ พูดคุยไม่รู้เรื่องและมีอาการแน่นหน้าอก ตนจึงรีบพาลูกชายที่โรงพยาบาลทันที ส่วนคนขับรถกระบะตู้ทึบและคนขับรถเบนซ์นั้น ตนยืนยันว่า ณ ตอนนั้น ไม่เห็นทั้งคู่อยู่ในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด


จากการสอบถามลูกชายให้ข้อมูลว่า หลังจากไปส่งแฟนสาวที่บ้านได้ขับกลับบ้าน โดยวิ่งเลนขวา เมื่อมาถึงจุดเกิด รถกระบะตู้ทึบได้มีการขับปาดหน้าลูกชายตน ด้วยความตกใจ ลูกตนจึงพยายามเบรครถทันที ก่อนที่รถจะเสียหลักหมุนแล้วไปชนรถเบนซ์ที่กำลังขับรถกลับมา ก่อนที่จะเกิดเพลิงลุกไหม้ โดยเหตุการณ์ในส่วนนี้ก็ต้องรอผลการสอบสวนและหลักฐานจากทางเจ้าที่ตำรวจอีกครั้ง 


หลังจากเกิดเหตุตนได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.ธรรมศาลา และได้มีโอกาสพูดคุยกับคนขับรถกระบะตู้ทึบ ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นทางคนขับรถกระบะไม่ได้มีรับบาดเจ็บอะไรมากนัก โดยทางขับรถกระบะได้มีการให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ขณะกำลังขับรถอยู่บริเวณท้องถนนระหว่างนั้นรถเฟอร์รารี่ Ferrari ได้ขับรถมาชนท้าย และยืนยันว่า ไม่ได้มีการขับรถปาดหน้ารถของลูกชายตนแต่อย่างใด ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ตนก็ต้องให้ทางเจ้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดแน่ชัดว่า สาเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจากอะไร แต่จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่า บริเวณเลนขวานั้น มีรอยเบรกของรถลูกชายตัวจริงซึ่งตรงกับคำให้การของลูกชาย


หากถามตนว่ามีความรู้สึกกังวลใจกับคดีที่เกิดขึ้นหรือไม่ ตนยืนยันว่า ไม่ได้มีความกังวลใจแต่อย่างใด หากพบว่าลูกชายตนผิด ทางครอบครัวก็ยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง สำหรับรถเฟอร์รารี่ - Ferrari คันที่เกิดเหตุนั้น เป็นรถของภรรยาตนที่ซื้อมาได้ประมาณหนึ่งปี ในจำนวนเงินราคาประมาณ 34 ล้านบาท ซึ่งรถคันดังกล่าวยังมีประกันชั้นหนึ่ง 


ทั้งนี้ หากถามตนว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ลูกชายตนมีการดื่มสุราในการขับรถหรือไม่นั้น ตนคาดว่าไม่น่าจะมีการดื่ม เพราะปกติหากลูกชายจะมีการดื่มจะไม่มีการขับขี่รถแต่อย่างใด สำหรับผู้ขับขี่รถเบนซ์นั้น หลังเกิดเหตุตนยังไม่มีโอกาสได้เจอหน้าหรือพูดคุยกันแต่อย่างใด


ในขณะช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. คนขับเบนซ์ และรถกระบะ ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังไม่สะดวกสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด 


ภายหลังที่ทางที่ทางเจ้าที่ตำรวจนัดทั้ง 3 ฝ่าย (คนขับรถกระบะ , คนขับรถเฟอร์รี่ และคนขับรถเบนซ์) เข้ามาให้ปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง ทางทีมข่าวได้พูดคุยกับ “คนขับรถกระบะ” เผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังเดินทางไปรับงาน โดยตนเองมีอาชีพส่งของขับรถรถกระบะ ซึ่งรถคันเกิดเหตุนั้นเป็นรถของตนเอง 


โดยเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนขับรถด้วยความเร็วประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ในช่องเลนกลาง ซึ่งระหว่างที่ตนขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ ก็รู้สึกว่ามีรถมาชนท้ายอย่างรุนแรง แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร หลังจากนั้นได้เห็นรถเบนซ์ และ Ferrari เกิดเพลิงลุกไหม้ ซึ่งในขณะนั้นคนขับรถเบนซ์และ Ferrari ได้ลงมาจากรถแล้ววิ่งเข้ามาบอกกับตนว่า”ไม่ต้องห่วง ไม่ได้เป็นอะไร” ซึ่ง ณ ตอนนั้นตนยอมรับว่า รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จึงทำให้วันนี้ตนได้เดินทางมาหาเจ้าที่ตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่า ตนไม่ได้ขับรถเร็ว และเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนการเยียวยานั้น ตนก็ยังทางคู่กรณีจะเยียวยามากน้อยแค่ไหน แต่ยอมรับว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากรถทำมาหากินได้รับความเสียหาย


สำหรับคนขับเบนซ์นั้นไม่สะดวกให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เนื่องจากยังอยู่ในภาวะตกใจ 


ผลจากการสอบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า เหตุการณ์รถเฟอร์รารี่ รถเบนซ์ และรถกระบะ ชนกัน 3 คัน ฝ่ายรถเฟอร์รารี่ เป็นฝ่ายชน โดยลำดับเหตุการณ์จากภาพวงจรปิด เริ่มต้นจากขณะนั้น รถกระบะตู้ทึบขับมาที่เลนกลาง ก่อนที่ต่อมาจะเห็นรถเบนซ์ขับมาเลนกลางแล้วเปลี่ยนเข้าเลนขวาพอดี


ฝั่งรถเฟอร์รารี่ที่ขับมาด้วยความเร็วและกระชั้นชิด จึงเกิดชนเข้าท้ายรถเบนซ์อย่างจัง จนรถเบนซ์เกยขึ้นมาบนหลังคารถเฟอร์รารี่ แล้วหลังจากนั้นทั้ง 2 คันก็เสียหลักหมุนไปชนท้ายรถกระบะตู้ทึบ แล้วก็หมุนไปชนกับแบริเออร์ข้างทาง จนเกิดเหตุไฟลุกท่วม โชคดีที่คนขับรถเฟอร์รารี่และรถเบนซ์สามารถออกมาได้ทัน 


สำหรับในทางกฎหมาย ทางตำรวจแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายกับทางฝั่งรถเฟอร์รารี่ ส่วนเรื่องของความเสียหายนั้น ทางฝั่งรถเฟอร์รารี่ ยินยอมรับผิดและพร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่คู่กรณีฝั่งรถเบนซ์และฝั่งรถกระบะทึบ ซึ่งจากมีการพูดคุยในเรื่องดังกล่าวในภายหลังต่อไป โดยทางฝั่งรถเฟอร์รารี่ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชนอีก เช่นเดียวกับฝั่งรถเบนซ์ พี่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์เนื่องจากยังอยู่ในอาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat