สาวร้องถูกแฟนหนุ่มซ้อมขณะตั้งครรภ์ 5 เดือน หลังจับได้ฝ่ายชายนอกใจ
สาวร้องถูกแฟนหนุ่มซ้อมขณะตั้งครรภ์ 5 เดือน หลังจับได้ฝ่ายชายนอกใจ

สาวร้องถูกแฟนหนุ่มซ้อมขณะตั้งครรภ์ 5 เดือน หลังจับได้ฝ่ายชายนอกใจ-ร้องขอเซ็นรับรองบุตร
(29 พ.ค. 68) จากกรณีที่ทางเพจ เท่าเปา ได้มีการโพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่มีผู้หญิงท้องนอนล้มอยู่ที่พื้น ลักษณะคล้ายถูกทำร้ายร่างกาย พร้อมระบุข้อความว่า สาวร้องขอความเป็นธรรมหลังถูกแฟนหนุ่มทำร้าeกลางทางเดินคอนโดแห่งหนึ่งในขณะที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ 5 เดือน หลังจับได้ว่าแฟนนอกใจและเธอร้องขอให้ฝ่ายชาย “เซ็นรับรองบุตร” เพื่อให้ลูกมีสิทธิ์ตามกฎหมาย ! ตอนนี้เธอหวาดกลัว ไม่มั่นใจในความปลอดภัยและผ่านมา 5 เดือน คดียังไม่คืบ..
#ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด #ความรุนแรงไม่ใช่คำตอบ
#ขอให้เรื่องนี้ไม่เงียบ
#ท้องก็คนไม่ใช่กระสอบทราย
นางสาวคาร่า อายุ 28 ปี เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังเผชิญปัญหาหนัก หลังถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายทั้งที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ โดยต้นเหตุมาจากการทวงถามถึงสิทธิของลูก และขอให้ฝ่ายชายเซ็นรับรองบุตร แต่กลับถูกปฏิเสธและถูกทำร้ายร่างกาย
นางสาวคาร่า เล่าว่า ตนรู้จักกับฝ่ายชายผ่านแอปฯ TikTok เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน คุยกันมาเรื่อยๆ จนเมื่อช่วงต้นปี 2567 เริ่มเปิดใจและคบหากันอย่างจริงจัง ช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นมา ฝ่ายชายแสดงความต้องการอยากให้ตนย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ประเทศไทย ทั้งที่ขณะนั้นตนอาศัยอยู่ที่ฮ่องกงกับคุณย่ามาเป็นเวลานาน ตนจึงตัดสินใจเดินทางมา แม้จะไม่มีญาติหรือคนรู้จักอยู่ในไทยเลยก็ตาม
ช่วงแรกระหว่างคบหากันตนกับฝ่ายชายก็ดูเหมือนจะราบรื่นดี แต่ไม่นานนักก็เริ่มมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยขึ้น และตอนนั้นตนเริ่มรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ ซึ่งเมื่อตนบอกกับฝ่ายชาย เขาก็แสดงท่าทีว่าจะรับผิดชอบ และกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม โดยสัญญาว่าจะดูแลกันจนกว่าลูกจะคลอด
แต่เพียงไม่กี่เดือนต่อมา ฝ่ายชายกลับเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ตนจับได้ว่าฝ่ายชายมีผู้หญิงคนอื่น และเมื่อมีปากเสียงกันเรื่องนี้ ฝ่ายชายเริ่มพูดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา บางครั้งบอกว่าจะเอาลูกไปเลี้ยงเอง บางครั้งก็พูดว่าเรื่องค่าใช้จ่ายให้แบ่งกันคนละครึ่ง แต่ทุกอย่างก็ไม่เคยทำตามที่พูด
ตนพยายามขอให้ฝ่ายชายเซ็นรับรองบุตร โดยเฉพาะเวลาตนไปโรงพยาบาล เพราะอยากทำเอกสารเพื่อให้ลูกสามารถกลับไปอยู่ที่ฮ่องกงด้วยกันได้ และหวังว่าหากลูกเข้าโรงเรียนจะมีชื่อพ่อระบุในเอกสารชัดเจน แต่ฝ่ายชายกลับบ่ายเบี่ยงตลอด อ้างว่าติดธุระ ไม่ว่าง และเมื่อขอหลายครั้งเข้า ฝ่ายชายก็เริ่มพูดจาแรงขึ้น ใช้คำหยาบ และโทษว่าตนเป็นคนเลือกเก็บลูกไว้เอง ทั้งยังพูดว่า “มันไม่ใช่ลูกกู กูไม่ได้ตั้งใจให้เกิด กูไม่ได้อยากมี”
เหตุการณ์ที่ตนจำไม่ลืมคือช่วงหนึ่งที่เกิดการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรงในคอนโด ขณะนั้นตนอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ประมาณ 5เดือน ตนบังเอิญเจอกับฝ่ายชายตรงลิฟต์คอนโดซึ่งอยู่คนละชั้นกัน และเมื่อเจอกันจึงมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องลูก แต่ตอนนั้นฝ่ายชายเริ่มแสดงอารมณ์หงุดหงิด ตนเองก็พยายามพูดจาดีๆ
สุดท้าย ตนถูกเหวี่ยงลงกับพื้นอย่างแรง จนท้องกระแทกพื้น หัวเข่าช้ำ แว่นตาหลุด โทรศัพท์ตกกระแทกจนกล้องพัง ตนร้องบอกว่าจุกและเจ็บท้องมาก แต่ฝ่ายชายกลับเดินเข้าห้องไป และทิ้งให้ตนนอนเจ็บอยู่ข้างนอก ตนพยายามคลานไปเคาะประตูเรียกให้ช่วยพาไปโรงพยาบาล แต่ฝ่ายชายไม่สนใจ และเลือกโทรแจ้งตำรวจว่าตนทำร้ายเขาแทน สุดท้ายเจ้าหน้าที่นิติบุคคลของคอนโดต้องช่วยพาส่งโรงพยาบาล และตั้งแต่นั้นมาจนคลอด ตนต้องฉีดยากันแท้งทุกสัปดาห์ หัวใจมีภาวะเต้นผิดปกติ และลูกในท้องก็พบปัญหาเกี่ยวกับหัวใจเช่นกัน
ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ตนรู้สึกเจ็บปวด เช่น การถูกฝ่ายชายปิดประตูใส่หน้า ปล่อยให้นั่งรอหน้าห้องนานกว่า4ชั่วโมง ส่วนฝ่ายชายก็นอนดูทีวีอยู่ในห้อง บางวันตนแพ้ท้องหนัก ขอเข้าไปอ้วกในห้อง ฝ่ายชายกลับโยนถุงรองเท้าให้อ้วกตรงหน้าประตู หรือยื่นแก้วน้ำมาให้ แล้วปิดประตูใส่หน้า
สุดท้ายวันที่ตนคลอดลูก ก็ไม่มีฝ่ายชายอยู่ข้างๆ ตนไปโรงพยาบาลคนเดียว ขณะที่ฝ่ายชายไปสังสรรค์กับเพื่อนตามปกติ หลังคลอดก็ไม่มีการรับผิดชอบใดๆ ไม่มาดู ไม่มาเยี่ยม ไม่ถามไถ่แม้แต่นิดเดียว
นอกจากนี้ฝ่ายชายเริ่มข่มขู่ อ้างว่าเพื่อนเป็นตำรวจและทนายความ เนื่องจากก่อนหน้านี้ฝ่ายชายจะให้เงินตนในฐานะแฟนอยู่แล้ว แต่ทุกครั้งที่ให้ จะใช้คำว่า“เงินยืม” กับตน และข่มขู่ว่าถ้ามาวุ่นวาย จะแจ้งจับย่าตน เนื่องจากบัญชีที่โอนเข้าให้ตนเป็นบัญชีคุณย่า เพราะตนไม่มีบัญชีไทย และคุณย่าก็กลัวว่าตนมาอยู่ไทยจะไม่สะดวก จึงทิ้งบัญชีไว้ให้ ซึ่งปัจจุบันฝ่ายชายก็แจ้งความจับย่าตนแล้ว
ตนยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกหมดหนทาง ไม่รู้จะเดินหน้าต่ออย่างไรดี เพราะตั้งแต่คลอดลูกออกมา ฝ่ายชายก็ไม่เคยติดต่อมา ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
ตอนนี้ตนรู้สึกกลัวไปหมด กลัวผลจากคำโกหกที่เขาเคยพูดกับคนอื่น เพราะตนไม่มีเพื่อนฝูงหรือคนรู้จักเยอะ ไม่มีคนคอยซัปพอร์ตเหมือนอย่างที่เขามี