CIB ปูพรมค้น-บุกจับ Sex Creator ลวงเด็กชายค้ากาม
CIB ปูพรมค้น-บุกจับ Sex Creator ลวงเด็กชายค้ากาม

CIB ปูพรมค้น-บุกจับ Sex Creator ลวงเด็กชายค้ากาม รวบผู้ต้องหารวม 9 ราย
(23 พ.ค.68) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม. และ พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ รอง ผกก. 3 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 9 ราย คดีค้ามนุษย์ฯ จำนวน 3 ราย คดีผลิตและเผยแพร่สื่อลามก 6 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง เสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ในขณะกระทำความผิด จำนวน 3 ชุด , โทรศัพท์มือถือจำนวน 9 เครื่อง , สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 3 เล่ม , อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เสริม จำนวน 7 ชิ้น ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ประกอบด้วย
- ผู้ต้องหาที่ 1 นายอชิรวัตติ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี (หมายจับศาลอาญาที่ 2851/2568)
- ผู้ต้องหาที่ 2 นายสุทธิเจตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี (หมายจับศาลอาญาที่ 2852/2568)
- ผู้ต้องหาที่ 3 นายพงศ์พล (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี (หมายจับศาลอาญาที่ 2850/2568)
- ผู้ต้องหาที่ 4 นางสาวฉัตรลดา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี
- ผู้ต้องหาที่ 5 นายณัฐวัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี
- ผู้ต้องหาที่ 6 นางสาวปวริศา (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี
- ผู้ต้องหาที่ 7 นายรรรณกาญ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี
- ผู้ต้องหาที่ 8 นางสาวสุทธิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี
- ผู้ต้องหาที่ 9 นายชัชวาลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี
ผู้ต้องหาที่ 1,2 ในความผิดฐาน "สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใดหน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกฯ"
ผู้ต้องหาที่ 3 ในความผิดฐาน "ค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยว กักขังจัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี และได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปีฯ"
ผู้ต้องหาที่ 4-9 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก ตาม ป.อาญา ม.287(1)”
พร้อมตรวจยึดของกลาง เสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ในขณะกระทำความผิด จำนวน 3 ชุด , โทรศัพท์มือถือจำนวน 9 เครื่อง , สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 3 เล่ม , อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เสริม จำนวน 7 ชิ้น
ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1 จับกุมที่ บริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน กรุงเทพมหานคร , ผู้ต้องหาที่ 2 จับกุมที่ บริเวณริมถนนสาธารณะใน จ.ชลบุรี , ผู้ต้องหาที่ 3 จับกุมที่ บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม , ผู้ต้องหาที่ 4 และ 5 จับกุมที่ บริเวณบ้านแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ , ผู้ต้องหาที่ 6 จับกุมที่ บริเวณบ้านแห่งหนึ่งใน จ.สกลนคร , ผู้ต้องหาที่ 7 และ 8 จับกุมที่ บริเวณบ้านแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น , ผู้ต้องหาที่ 9 จับกุมที่ บริเวณบ้านแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหาที่ 1 , 2 และ 3 ได้รู้จักกันผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ของกลุ่ม LGBTQ จนสนิทสนมกัน ซึ่งทั้ง 3 คน มีรสนิยมในการร่วมเพศแบบชายรักชาย จากนั้นได้มีการวางแผนโดยแบ่งหน้าที่กันทำ โดยผู้ต้องหาที่ 3 ทำหน้าที่หลอกล่อเด็กชาย ด้วยการตระเวนหาเหยื่อเด็กชายอายุประมาณ 12-14 ปี ที่ครอบครัวแตกแยกในพื้นที่ จ.นครปฐม และใกล้เคียง ชักชวนให้เด็กมาพักอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มาอยู่ที่รีสอร์ท
จากนั้นจึงเริ่มใช้การบีบบังคับให้เหยื่อเด็กชายไป “ขายบริการทางเพศ” ให้กับผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 หากเด็กชายไม่ยอมทำตาม ก็จะถูกข่มขู่ว่าจะไล่ออกจากกลุ่ม ไม่คบเป็นเพื่อนอีกต่อไป และไม่ให้อาศัยอยู่ด้วยกันฟรีที่รีสอร์ท ซึ่งเป็นการใช้สภาพความเปราะบางของเด็กที่ไม่มีที่พึ่งพิง มาเป็นเครื่องมือในการควบคุมและบีบบังคับ โดยผู้ต้องหาที่ 3 จะได้ประโยชน์ค่านายหน้าจากการนำเหยื่อเด็กชายไปขายบริการทางเพศให้ผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2
เมื่อผู้ต้องหาที่ 3 นำเหยื่อเด็กชายมาส่งให้ผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 กระทำอนาจารตามรีสอร์ท ในพื้นที่ จ.นครปฐม แล้ว ผู้ต้องหาที่ 1 จะทำหน้าที่เป็นนักแสดงกระทำอนาจารเด็กชายสร้างคอนเทนต์ ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1 มีรสนิยมชอบปลุกเร้าอารมณ์ตนเองด้วยการบังคับให้เหยื่อเด็กชายสวมใส่ชุดนักเรียนในการร่วมเพศ หากเหยื่อเด็กชายขัดขื่นไม่ยอมใส่ชุดนักเรียน ผู้ต้องหาที่ 1 จะบีบบังคับโดยการหักค่าตัวที่มาขายบริการทางเพศ หรือจะไม่ให้เงินค่าตัว ทำให้เหยื่อเด็กชายต้องจำยอมสวมใส่ชุดนักเรียนในการร่วมเพศ
ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ทำหน้าที่ถ่ายคลิปวิดีโอ เพื่อให้ผู้ต้องหาที่ 1 นำไปประกาศเชิญชวนกลุ่มผู้สนใจบนแพลตฟอร์ม X ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก ให้เข้ากลุ่มไลน์ลับ โดยมีการเก็บค่าบริการเข้าชมคลิปกระทำอนาจารจากลูกค้าผู้สนใจ และบางครั้งผู้ต้องหาที่ 2 จะทำหน้าที่เป็นนักแสดงอีกบทบาทหนึ่ง สลับกับผู้ต้องหาที่ 1
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้สืบสวนขยายผลจนสามารถออกหมายจับ และจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งก่อนถูกจับกุมทั้งผู้ต้องที่ 1 และผู้ต้องที่ 2 ต่างรู้ว่าเหยื่อเป็นเด็กชายจำนวน 2 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือคุ้มครองไปก่อนหน้านี้ จึงวางแผนที่จะเดินทางไปทำงานนวดยังประเทศโอมาน แต่ระหว่างนั้นผู้ต้องหาที่ 1 นั้น ตรวจพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือโรคซิฟิลิส เป็นเหตุให้ทำวีซ่าไม่ผ่าน ขณะที่ผู้ต้องหาที่ 2 อยู่ระหว่างการยื่นทำขอวีซ่า และจากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การว่า ได้กระทำความผิดตามพฤติการณ์นี้มาแล้วกว่า 3 ปี
จากการสืบสวน เครือข่ายกลุ่ม LGBTQ ดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. เล็งเห็นว่าการผลิตและเผยแพร่สื่อลามกนำไปสู่ปัญหาอื่นที่ร้ายแรง จึงได้ปฏิบัติการเชิงรุกปูพรมตรวจค้นในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จ.นครปฐม และภาคอีสาน จำนวน 6 จุด นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหารวมทั้งหมด 9 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับค้ามนุษย์ฯ จำนวน 3 ราย และได้จับกุมผู้ต้องหาที่ผลิตและเผยแพร่สื่อลามก จำนวน 6 ราย ดังกล่าว สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 1,3 และ 4-9 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน