จับทันที! จู่โจมร้านขายกัญชากลางเมืองขอนแก่น พบเยาวชนอยู่ในสภาพเมากัญชาหนัก

(25มิ.ย.68) เวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น สนธิกำลัง สภ.เมืองขอนแก่น , ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น บุกจู่โจมตรวจสอบร้านจำหน่ายกัญชาแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นห้องแถวชั้นเดียว ภายหลังจากทาง นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ประชุมทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปล่อยแถวปฏิบัติการรวมพลังตรวจสอบร้านกัญชาขอนแก่น ใส่ใจคุณภาพชีวิตประชาชนจังหวัดขอนแก่น ในหลายจุดทั่วเมืองขอนแก่น หลังกระทรวงสาธารณสุขประกาศควบคุม ยกเลิกกัญชาเสรีให้ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น ซึ่งห้ามจำหน่ายหากไม่มีใบอนุญาต โดยเน้นย้ำให้ทุกร้านต้องปฏิบัติตามระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ห้ามขายให้เด็กและเยาวชน ห้ามขายให้สตรีมีครรภ์ และต้องขายตามใบสั่งยาของแพทย์เท่านั้น 

โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงซึ่งยังไม่เปิดประตูร้านก็ได้กลิ่นกัญชาคละคลุ้งอยู่หน้าประตูทางเข้า เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบว่ามีเยาวชนชาย - หญิงรวม 10 คน นั่งเก้าอี้อยู่ภายในร้าน ล้อมรอบโต๊ะ 2 ตัว ซึ่งมีทั้งกัญชาและอุปกรณ์การเสพกัญชา ประกอบด้วยช่อดอกกัญชาอบแห้งและซอยหั่นฝอยบนเขียง บ้องเสพกัญชา เขียง มีด และไฟแช็ก

โดยเยาวชนทั้ง 10 คนพบว่ามีอายุตั้งแต่ 13 - 17 ปี เป็นลูกค้า 8 คน ผู้ดูแลร้าน 2 คน (อายุ 16 ปีทั้งคู่) อยู่ในอาการสะลึมสะลือจากการเสพกัญชาและไม่มีท่าทีจะหลบหนีแต่อย่างใด และในร้านบริเวณหน้าทางเข้ามีการตั้งเคาน์เตอร์วางช่อดอกกัญชาเพื่อจำหน่ายหลากหลายสายพันธุ์และราคาแตกต่างกันไปจำนวน 33 กระปุก รวมทั้งอุปกรณ์การเสพกัญชาหลายชนิดก็มีวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่ามียาแก้ไอ และน้ำกระท่อมไว้คอยจำหน่ายให้กับลูกค้าอีกด้วย

จากการตรวจสอบด้านหลังร้านพบว่าในห้องทางด้านหลังมีการตั้งหม้อต้มขนาดใหญ่ซึ่งภายในมีใบกระท่อมสดกำลังต้มผ่านความร้อนอยู่ในหม้อ และเศษกากใยใบกระท่อมที่ผ่านการต้มแล้วกองอยู่พื้นจำนวนมาก และยังพบว่ามีใบกระท่อมสดอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ต้ม รวมทั้งใบกระท่อมสดจำหน่ายเป็นใบ น้ำกระท่อมหลากหลายรสชาติทำการแช่เย็นไว้ในตู้แช่จนเต็มจำนวน 3 ตู้ จำนวนรวมกว่า 50 ขวด และบริเวณห้องข้างกันพบว่ามีที่นอน และเศษฟรอยด์เสพยาบ้าอยู่ที่พื้นด้วย ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดเป็นของกลางทั้งหมด

น.ส.เอ(นามสมมุติ) อายุ 16 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน กล่าวว่า ได้รับการว่าจ้างจากเจ้าของร้าน ซึ่งทราบเพียงชื่อเล่นว่า นายเนม ตอนนี้อยู่ที่ต่างจังหวัด ได้จ้างให้มาเปิดร้านและดูแลร้าน ขายกัญชาและน้ำกระท่อมให้ลูกค้า โดยให้ค่าจ้างวันละ 300 บาท ซึ่งทำมาได้ 2 อาทิตย์แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น นักเรียนที่มาเป็นกลุ่ม ส่วนนายเนมเจ้าของร้านไม่ค่อยมาที่ร้าน 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังพบวัยรุ่น อายุ 16 ปี ลักษณะมีอาการเมาเดินไปมาในร้าน จึงเรียกมาสอบถาม ทราบชื่อว่า นายบี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ยอมรับว่าดื่มน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอ จนมีอาการเมาจึงยังไม่กลับบ้าน อยู่ดูแลร้านช่วยเพื่อนสาว พร้อมกับยอมรับว่าเสพยาบ้าด้วย

ภายหลังการตรวจสอบพบเยาวชนที่มาใช้บริการและเสพกัญชาในร้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดกัญชา ใบกระท่อม น้ำกระท่อม ยาแก้ไอ และอุปกรณ์การเสพทั้งหมดไว้ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ พมจ.ขอนแก่น มารับตัวเด็กและเยาวชนทั้งหมดไปดูแล และประสานแรงงานจังหวัดขอนแก่นมารับ น.ส.เอ ผู้ดูแลร้านไปดูแล

ในกรณีที่เจ้าของร้านจ้างแรงงานเด็กทำงานที่ร้านวันละ 300 บาท โดยเยาวชนทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ทำการสอบปากคำเพื่อเป็นพยานในการดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าของร้าน 

ด้านเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า ที่ร้านดังกล่าวนั้นถูกจับกุมมาแล้ว 5 ครั้ง แต่ละครั้งผู้ดูแลร้านไม่ซ้ำกัน โดยจับกุมล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2568 กระทั่งมาจับกุมอีกรอบในครั้งนี้ และทุกครั้งเจ้าของร้านจะอ้างว่าอยู่ต่างจังหวัดทุกครั้ง

ขณะที่ นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การปฏิบัติการตรวจสอบร้านกัญชาขอนแก่นใส่ใจคุณภาพชีวิตประชาชนครั้งนี้ สืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการดำเนินนโยบายเกี่ยวกับกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ภายใต้การควบคุม พรบ. และประกาศของกระทรวงสาธารณสุขการดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้การจำหน่ายกัญชาเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม 

“วันนี้ได้ปล่อยแถวร่วมตรวจสอบติดตามให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการร้านจำหน่ายกัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างแรกมีการจำหน่ายถูกต้องให้กลุ่มเป้าหมายหรือไม่โดยกลุ่มที่ไม่ควรจะจำหน่ายคือเด็กเยาวชนอายุน้อยกว่า 20 ปี กลุ่มสตรีมีครรภ์ และกลุ่มที่พบการกระทำผิดคือกลุ่มไม่มีการรายงานมีการจำหน่ายอย่างไร มีการเก็บวัสดุกัญชาถูกต้องหรือไม่ และห้ามมีการสูบกัญชาภายในร้านไม่สามารถทำได้ และพบว่ามีหลายๆที่ยังกระทำการอยู่ในสถานประกอบการ ถ้าเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ถ้าไม่มีถือว่าผิดกฎหมาย แต่ถ้ามีใบอนุญาตแต่ไม่ได้ทำตามระเบียบที่กำหนดไว้มีสิทธิจะถูกพักใบอนุญาตได้ ส่วนเรื่องการลงโทษทางอาญาก็เป็นอีกกรณี”

ทางด้าน นายอภิชัย สิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ดำเนินงานบังคับใช้กฎหมายสมุนไพรควบคุมกัญชา โดยออกใบอนุญาตทั้งหมด 273 ใบ ยังคงสถานะ 227 ใบ โดยมีการขออนุญาตจำหน่ายหรือแปรรูป จำนวน 263 ใบ ยกเลิก 21 ใบ หมดอายุ 21 ใบ คงอยู่ 221 ใบ ขออนุญาตส่งออก 10 ใบ ยกเลิก 2 ใบ หมดอายุ 2 ใบ ขออนุญาตศึกษาวิจัย 1 ใบ ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ  

ทั้งนี้มีการดำเนินคดีกับร้านที่ไม่ได้รับอนุญาต 3 ร้าน ศาลสั่งลงโทษทั้ง 3 ร้าน กำกับติดตามบังคับใช้กฎหมายพักใช้ใบอนุญาต 2 ราย เพิกถอนใบอนุญาต 6 ราย และในช่วงที่ในช่วงที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศควบคุม เลิก กัญชา เสรี ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น ห้ามจำหน่าย หากไม่มีใบอนุญาตนั้น 

อย่างไรก็ตามทางสำนักงานสาธารณสุขจะทำการตรวจสอบร้านขายกัญชาทุกร้านว่าปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับหรือไม่ หากร้านใดไม่ทำตามกฎระเบียบของกฎหมาย ก็จะถูกจับกุม โดยไม่มีการว่ากล่าวตักเตือน เพราะทุกร้านที่ขายกัญชาต่างทราบดีถึงข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว

ข่าวเวิร์คพอยท์23