“ภูมิธรรม” เผย ไทย-กัมพูชา ยังไม่เปิดฉากรบ เชื่อหาทางออกกระบวนการ JBC

“ภูมิธรรม” เผย ไทย-กัมพูชา ยังไม่เปิดฉากรบ เชื่อหาทางออกกระบวนการ JBC

71604 มิ.ย. 68 11:37   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

“ภูมิธรรม” เผย ไทย-กัมพูชา ยังไม่เปิดฉากรบ เชื่อหาทางออกกระบวนการ JBC ขอสื่ออย่าเลอะเทอะหลงเชื่อโซเชียลปลุกปั่นยิงคำถามร้อน ยัน “เตีย เซ็ยฮา”ไม่เคยยกหูขอปิดด่าน บ่ายนี้ด่วน เยี่ยม ม.ทบ.2

(4 มิ.ย. 68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า หากดูจากแถลงการณ์ รัฐบาลที่ออกมาจะเป็นการหารือร่วมกันทั้งสองฝ่ายซึ่งแถลงการณ์ก็ชัดเจนในจุดยืนของรัฐบาลอยากให้ไปศึกษารายละเอียดเนื้อหาที่แถลงไปชัดเจน ทั้งการปกป้องอธิปไตยของประเทศยึดมั่นในบูรณภาพ ในดินแดนไทยและสิทธิทางกฎหมายของไทย แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาโดยหลีกเลี่ยงความรุนแรง 


ซึ่งเป็นจุดยืนชัดเจนรัฐบาลไทยดำเนินการไปตามกระบวนการขั้นตอนและข้อเท็จจริง ยืนยันว่าไทยจะไม่ทำตามอารมณ์หรือตามความต้องการของใคร แม้กัมพูชาจะพยายามขยายประเด็นไปถึงศาลโลก แต่ไทยเราก็ไม่ได้ทำ โดยยึดMOU 2543 เพราะง่ายต่อการหาข้อสรุปร่วมกัน แต่ตอนนี้สิ่งที่เกิดปัญหาในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกตก็ต้องกลับมาดู แต่พื้นที่อื่นยังไม่มีความรุนแรง ถ้าเราขยายไปตามเขาก็เท่ากับเราไปเล่นเกมกับเขาก็จะกลายเป็นประเด็นที่นานาชาติเข้ามา และจุดยืนของรัฐบาลรวมถึงกองทัพและกระทรวงกลาโหมเรามั่นใจในสิ่งที่เราได้พูดมา 


ขณะที่ตนเองก็อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของชาติ เป็นเรื่องที่จะกระทบเอกราชดินแดนของประเทศไทย ขอความกรุณาสื่ออย่าพยายามขยายวง และตนเองจะพูดในสิ่งที่จำเป็นเพราะยังมีเรื่องที่ต้องไปเจรจา รวมถึงยังมีเรื่องทางเทคนิคอีกหลายเรื่อง ขณะที่เรื่องที่ได้คุยกับทางฝ่ายของกัมพูชาในระดับนายกรัฐมนตรีคุยกับนายกของกัมพูชา รัฐมนตรีกลาโหมสองประเทศคุยกัน ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกันว่าวันที่ 14 มิถุนายนจะไปคุย JBCกัน ก็ควรจะคิดไปทีละขั้น ถ้าหารือในระดับนี้จบก็จบ และหากมีความจำเป็นทหารก็เตรียมการป้องกันไว้หมดทุกอย่างแล้ว ไม่อยากให้ใครเอามาพูดแต่มาพูดในเชิงปลุกปั่น ถามได้แต่อย่าอยากรู้มาก เพราะมันไม่มีประโยชน์กับประเทศ เพราะยิ่งไปเปิดเผยมากก็จะจะยิ่งยุ่งยากกับการเจรจา 

  

ส่วนรัฐบาลไทยจะเบรกไม่ให้เรื่องไปถึงศาลโลกได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลพยายามจะไม่หยิบเรื่องนี้ไปเป็นปัญหาของระดับโลก เพราะหากไปถึงขั้นตอนนั้นแล้วจะทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ขณะที่ความเข้าใจของกองทัพก็เข้าใจกันดีไม่มีปัญหา กับแม่ทัพภาคที่สองก็คุยกันตลอดโทรศัพท์คุยกัน 2-3 ครั้ง ยืนยันไม่ได้มีอะไรที่เป็นปัญหาวันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองกับฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลจะมาโต้แย้งกัน หรือมาเที่ยววิพากษ์วิจารณ์กัน และมติคณะรัฐมนตรี 12 มกราคม 2567 มีข้อมูลชัดอยู่แล้วสื่อมวลชนไม่ต้องมาถาม เพราะตนเองก็ไม่อยากเอามาพูดให้มันกระจายไป ขณะที่ประชาชนที่ไม่เข้าใจก็อยากให้เข้าใจ เพราะรัฐบาลกำลังทำอยู่ในโซเชียลมีเดียก็มีขบวนการ IO เยอะจนไม่รู้ว่าฝ่ายไหน  


นายภูมิธรรม ยังชี้แจงที่มีการเผยแพร่รูปสมเด็จฮุน เซน รูปหัวก็ไม่ใช่รูปจริง และบอกว่าในชีวิตของตนไม่เคยเจอสมเด็จฮุนเซนเลย รวมถึงข่าวที่บอกว่าจะปลดแม่ทัพภาคที่สอง ข่าวไปเอามาจากไหนไม่มีคำสั่งหรือในวงประชุมไหนที่สั่งการแบบนี้หากใครมีให้เอามาแฉได้เลยว่าตนเองพูดอะไรไป ซึ่งทั้งหมดคือตัวอย่างของการปลุกปั่น ให้เกิดความระแวงแคลงใจกับรัฐบาล จึงอยากขออย่าทำเลยเพราะกระทบกับเอกราชและอธิปไตยของไทยถ้าเราเดินไม่ดี แล้วเราหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามเพราะเราเห็นแก่ประชาชนที่ยืนอยู่แนวหน้า 


แต่ถ้าอยากให้เกิดสงครามก็เกิดได้เร็วแต่ความสูญเสียเกิดกับประชาชนในแนวเขตแดน และกองกำลังสุรนารี ที่ไปประจำซึ่งทหารไม่กลัวพร้อมจะสู้ตลอดเวลา ถ้าจะจะสู้หรือจะจัดการทหารหาญ พร้อมอยู่แล้ว วันนี้เขา ทำหน้าที่ของเขา อย่างเตรียมการขออย่าไปยุ่งยง แต่ถ้าถามว่ามีหรือคนของเราที่อึดอัดก็ต้องมีแน่นอน เพราะขนาดตัวเราเองอยากรู้ว่าเราขัดแย้งและเรายังรู้สึกว่าเรารักชาติแต่ขณะเดียวกันเราก็รู้ว่าอะไรคือการทำงานที่เป็นเชิงยุทธศาสตร์ที่จะแก้ปัญหาของชาติได้ดีที่สุด จึงอยากให้เข้าใจสิ่งนี้แล้วช่วยกัน และอย่าไปฟังโซเชียลมีเดียมากเกินไปบางครั้งอาจจะจริงบางครั้งก็เลอะเทอะ 


ส่วนคำสั่งชะลอปิดด่านชายแดนยังไม่ได้มีการปิดเพราะไม่มีการสู้รบและคิดว่าต้องเริ่มจากเบาไปหาหนัก และที่ทหาร ยืนยันว่าทหารฝ่ายกัมพูชารุกล้ำเข้ามาเขตแดนไทย200เมตรแล้วนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่าเดี๋ยวจะเอาแผนที่ทางอากาศมาดูแล้วจะตอบโจทย์ทุกอย่าง ให้ผู้สื่อข่าวรอข้อเท็จจริงและขอผู้สื่อข่าวมีอารมณ์เย็นก่อน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ตอบสวนนายภูมิธรรมว่า มีอารมณ์เย็นแล้ว ตั้งคำถาม  

  

นายภูมิธรรม พูดต่อว่า การล้ำหรือไม่ล้ำมันมีทั้งแผนที่ที่เคยเป็นอยู่และแผนที่ที่ทับซ้อนกันเราประกาศอาณาเขตของเขาไปและเขาประกาศอาณาเขตของเรามา แล้วพื้นที่ที่ทับซ้อนใน MOU43 ไม่ได้พูดถึงกระบวนการต่างๆว่าใครละเมิดกลไกเหล่านั้นจะจัดการเอง ขณะนี้แนวหน้าดูแล้วไม่ได้ไปถึงจุดที่จะปะทะอะไรกันเลยซึ่งแม่ทัพภาคที่สองก็รายงานตนเองมา ขณะนี้เรายืนอยู่ในจุดที่ล้ำแดนเราไม่ได้เด็ดขาด จุดที่มีปัญหาคือพื้นที่ทับซ้อน จึงขอให้ใจเย็นและหากข้อมูลออกมาก็วิพากษ์วิจารณ์กันตามข้อมูล แต่กระบวนการพูดคุยมีคำตอบของมันหมด อย่าพึ่งไปตามกระแสในโซเชียล ย้ำว่ารัฐบาลกำลังทำตามขั้นตอนและกำลังทำในสิ่งที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันแต่ความคิดคนใดคนหนึ่งไม่อาจทำให้สถานการณ์ของรัฐบาลเดินไปสู่จุดนั้นได้จะต้องเป็นเรื่องที่เข้าใจกันทุกฝ่าย


ผู้สื่อข่าวถามนายภูมิธรรมต่อว่า จริงหรือไม่ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชาโทรหา แล้วร้องขออย่าให้ไทยปิดด่าน นายภูมิธรรมตอบกลับผู้สื่อข่าวทันทีว่า เรื่องนี้ก็เลอะเทอะเถอะ ตนเองและพล.อ.เตีย เซ็ยฮา ยังไม่ได้ได้โทรคุยกันมาก แต่คุยกันเพียงบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้นำระดับสูงของกัมพูชา ประเด็นสำคัญคืออยากให้ใช้กลไกJBC และอย่าพึ่งใช้ความรุนแรงแต่ไม่เคยพูดเรื่องปิดด่าน คุยกันให้กัมพูชาเป็นเจ้าภาพแต่ถ้ากระบวนการนี้ไม่สำเร็จเราจะเป็นคนเรียกเองโดยขอให้พูดคุยกันเร็วที่สุด จึงจะไปคุยกันในวันที่ 14 มิถุนายน จึงยืนยันว่าไม่มีการคุยกันเรื่องปิดด่านหากใครยืนยันได้ว่ามีการคุยให้มาคุยกันต่อหน้าสื่อมวลชนได้เลย 

  

ทั้งนี้มีรายงานว่าหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีนายภูมิธรรมจะเดินทางไปรับฟังรายงานสถานการณ์ชายแดน ที่ อบต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี จากนั้นจะไปเยี่ยมกำลังพลที่ฐานปฏิบัติการเนิน 500

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat