ขาวสามด้าน-อ้างเป็นสื่อ ขอเรี่ยไรหลักหมื่นแลกเหรียญที่ระลึก

ขาวสามด้าน-อ้างเป็นสื่อ ขอเรี่ยไรหลักหมื่นแลกเหรียญที่ระลึก

247103 พ.ค. 68 21:14   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

หนุ่มบุรีรัมย์ร้อง เจอชายหัวเกรียนขาวสามด้าน อ้างเป็นตัวแทนจากสำนักข่าว จู่ๆ มาขอเรี่ยไร ตอนแรกจะให้หลักพันกลับถูกเสียงแข็งใส่บอกต้องหลักหมื่น สุดท้ายไล่ไป - มาเจอทีหลังว่าตระเวนขอไปทั่ว

(3 พ.ค. 68) เฟซบุ๊กชื่อ “หมอขวัญ ทศพล จริตรัมย์” ได้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิดบ้านตัวเอง เป็นคลิปภาพของชาย 2 คนรูปร่างสันทัดตัดผมสั้นเดินลงจากรถเข้าไปในบ้าน และเอกสารของสำนักข่าวชื่อหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “ฝากเตือน พี่น้องทุกท่านด้วยนะครับระมัดระวังด้วยครับ” 


ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่าคนโพสต์คือนายทศพล อายุ 32 ปี เป็นเจ้าของร้านTA ทศพล อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ จึงขอสัมภาษณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้น


นายทศพล เล่าว่า เมื่อวานนี้(2 พ.ค.)ตอนนั้นตนทำงานอยู่ในร้าน ได้มีชาย 2 คนแต่ตัวดีเดินลงมาจากรถ บอกว่ามาจากสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่หน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ แล้วยื่นเอกสารให้ 2 ฉบับ ฉบับแรกเขียนหัวข้อว่า “หนังสือพิมพ์….” เรื่องขอความอนุเคราะห์สนับสนุนเหรียญที่ระลึก “โครงการรวมน้ำใจเพื่อผู้ด้อยโอกาส” ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์



ในข้อความหนังสือระบุว่าเป็นวันครบวาระครบรอบ 35 ปี ของหนังสือพิมพ์… เพื่อความเสมอภาคของประชาชน ได้จัดนำเหรียญที่ระลึกหลวงปู่ทวด, หลวงพ่อโสธร, ท้าวเวสสุวรรณ เจ้าแห่งขุมทรัพย์และความร่ำรวย เป็นการบอกบุญต่อขอความอนุเคราะห์ในการสนับสนุนเพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ด้านการกุศล


ในหนังสือยังระบุด้วยว่าเงินที่ได้ไปเป็นกองทุนมอบเพื่อการศึกษาให้เด็กเรียนดีมีฐานะยากจนตามที่ร้องขอมา  รวมถึงผู้พิการ มีฐานะยากจน มีความจำเป็นใช้รถวีลแชร์ รถสามล้อโยก และเตียงตามที่ถูกร้องขอและ เพื่อเป็นกองทุนสำรองฉุกเฉินและสวัสดิการให้กับสมาชิก และการดำเนินงานของสำนักข่าวหนังสือพิมพ์….


นายทศพล กล่าวด้วยว่า เมื่อเห็นหนังสือตนก็พร้อมจะช่วยเหลือเตรียมไว้ 2,000 บาท แต่หนึ่งใน 2 คน ที่ตัดผมเกรียนใช้วาจาคล้ายกระแทกให้ตนจ่าย 10,000 บาท ตนงงจึงไปอ่านหนังสือหน้า 2 พบว่าเป็นหนังสือยินยอมบริจาค ส่วนตัวคิดว่าน่าจะกันไม่ให้ผู้บริจาคหันมาเอาผิด



จากนั้นตนได้โทรศัพท์สอบถามเพื่อนที่ทำงานราชการว่ามีโครงการนี้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่มี และให้ตนระวังโดนต้ม ตนจึงยกเลิกการบริจาค แล้วเอาคลิปไปโพสต์แจ้งเตือนคนทั่วไป ปรากฏว่ามีคนคอมเมนต์มาเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่บริจาครายละ 1,000-2,000 บาท และคาดว่าน่าจะไปตามหน่วยงานราชการ, อบต., เทศบาลหลายแห่งแล้ว


นายทศพล กล่าวด้วยว่าจากนั้นตนได้สอบถามไปยังชมรมนักข่าวจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อตรวจสอบหนังสือพิมพ์ฉบับที่ถูกกล่าวอ้าง พบว่าไม่มีหนังสือพิมพ์หัวดังกล่าวตีพิมพ์หรือวางจำหน่ายในจังหวัดบุรีรัมย์ และชมรมฯ ยังไม่เคยรับบริจาคแบบนี้มาก่อน จึงคิดว่าไม่ชอบมาพากล แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเขาเป็นมิจฉาชีพ เพราะหนังสือที่เขียนมารัดกุมและรอบคอบพอที่จะเอาผิดไม่ได้อยู่แล้ว



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat