ผลไต่สวนศาลยกคำร้องขอประกันตัว 'ทนายตั้ม'
ผลไต่สวนศาลยกคำร้องขอประกันตัว 'ทนายตั้ม'
'ทนายตั้ม' น้ำตาคลอ หลังศาลอาญารัชดายกคำร้องขอประกันตัว เผยข้อหาจำเลยมีอัตราโทษสูง
3 ก.พ.68 เมื่อเวลา 10:30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา เจ้าของเพจ "ทนายคลายทุกข์" ได้เดินลงมาจากศาลอาญารัชดาเจอกับสื่อมวลชนจึงได้ให้สัมภาษณ์ แต่ย้ำกับสื่อว่าขอให้สัมภาษณ์สั้นๆเพราะตอนนี้ถูกทัวร์ลงเยอะมากแล้ว และยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นทนายของทนายตั้ม และที่เดินทางมาวันนี้มาไต่สวนคดีฟ้องหมิ่นประมาท
โดยทนายเดชาเผยว่า จริงๆแล้ววันนี้ตนนั้นเดินทางมา ตามคำสั่งศาลกรณีนัดไต่สวน คดีฟ้องร้อวคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ก่อนหน้านี้พูดออกสื่อว่าตนเข้าข้างทนายตั้มเหมือนจะช่วยเหลือกันนั้น แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้ช่วยเหลือกัน เป็นเพียงเพื่อนทนายด้วยกันเท่านั้น ในการไต่สวนครั้งนี้ ปรากฏว่าคุณสนธิไม่ได้เดินทางมาแต่ให้ทนายเดินทางมาแทน และขอเลื่อนนัดไต่สวนออกไปก่อน ซึ่งส่วนตัวก็อยากบอกกับคุณสนธิว่าอยากให้มาคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกันมากกว่า ไม่อยากมีปัญหาต่อกันส่วนตัวแล้วไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคุณสนธิและได้มีการแจ้ง กับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ไปแล้วก็ฝากให้ไปบอกกับคุณสนธิว่าตนเองไม่ได้อยากมีปัญหาอะไร และอยากให้พูดคุยกันดีกว่า
ขณะเดียวกันวันนี้ในห้องนัดไต่สวน ตนก็ได้พบกับทนายตั้มและภรรยา, พี่สาวของภรรยา ซึ่งเข้ามาไต่สวน คำร้องขอประกันตัว ตนก็ได้เจอกับทนายตั้มก็ดูซูบผอมลง และจากการที่ทนายตั้มติดคุก ได้ประมาณ 3 เดือนแล้วนะ เขาก็เริ่มปรับตัวได้ในระดับหนึ่ง ต้นเห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร ทั้งทนายตั้มภรรยาและพี่สาวของภรรยา จึงได้กอดให้กำลังใจทนายตั้ม เพราะรู้สึกสงสารทนายตั้ม
ภาพที่เห็นคือ พ่อแม่ติดคุก ส่วนลูกๆ 3 คนต้องอยู่ลำพัง แล้ววันนี้ทั้ง 3 คนก็ติดตามมาดูพ่อกับแม่ สำหรับทนายตั้ม เรื่องที่จะได้ประกันตัวนั้นตนไม่สามารถบอกได้เลยอยู่ที่ดุลพินิจของศาลแต่อย่างน้อยเมื่อสารรับไต่สวนในการขอประกันตัว ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ถ้า ประกันตัวได้จริง ก็จะเหมือนเคสอื่นๆ ที่จะออกจากเรือนจำประมาณ 20:00 น.
ล่าสุดมีรายงานว่า หลังศาลเบิกตัว นายษิทรา หรือทนายตั้ม -จำเลยที่ 1 และนางปทิตตา ภรรยา -จำเลยที่ 2 มารอฟังผลพิจารณาการยื่นคำขอประกันตัว ในที่สุดเวลาประมาณ 16.20 น.ศาลพิจารณายกคำร้อง 'ไม่ให้ประกันตัว' ทั้ง 2 คน
โดยศาลดำเนินการไต่สวนคำร้องเสร็จสิ้นแล้วมีคำสั่งว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานจากทางไต่สวนแล้วเห็นว่าตามพฤติการณ์แห่งคดี จำเลยที่ 1 และ จำเลยที่ 2 เป็นสามีภรรยา ถูกโจทก์ฟ้องในข้อหาเดียวกับชั้นสอบสวน ซึ่งข้อหามีอัตราโทษสูง แม้ผู้เสียหายรายเดียวแต่ความเสียหายจำนวนมาก และคดียังอยู่ระหว่างสอบคำให้การ
หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 จะหลบหนี หรืออาจโยกย้ายทรัพย์สิน อันเป็นการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้ยกคำร้อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"อ.ปานเทพ" ชี้พิรุธพินัยกรรม 'เจ๊อ้อย' พบขบวนการฮุบมรดก
"มาดามอ้อย" พร้อมทนาย ยื่น ปปง. ขอคุ้มครองสิทธิ์ คดี"ทนายตั้ม