"น้องน้ำปั่น" ป่วยโรคตุ่มน้ำพอง ทนทุกข์ทรมานนานกว่า 6 ปี ผู้ใหญ่ใจดีช่วยรักษา
"น้องน้ำปั่น" ป่วยโรคตุ่มน้ำพอง ทนทุกข์ทรมานนานกว่า 6 ปี ผู้ใหญ่ใจดีช่วยรักษา

"น้องน้ำปั่น" พูดกินใจ จะไม่ลืมบุญคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและช่วยเหลือ ถ้าหากหายจะเก็บเงิน 100,000 บาทเพื่อมาบริจาคช่วยเหลือให้คนที่ลำบากกว่า
"น้องน้ำปั่น" ป่วยโรคตุ่มน้ำพอง ทนทุกข์ทรมานนานกว่า 6 ปี ผู้ใหญ่ใจดีช่วยรักษา
"น้องน้ำปั่น" พูดกินใจ จะไม่ลืมบุญคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและช่วยเหลือ ถ้าหากหายจะเก็บเงิน 100,000 บาทเพื่อมาบริจาคช่วยเหลือให้คนที่ลำบากกว่า
(8 พ.ค.68) ที่บริเวณศูนย์การเรียนรู้โรคสะเก็ดเงิน ดร.เฉลิมพล ศักดิ์คำ ซอยวังปลารีสอร์ท ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี น้องน้ำปั่น อายุ 12 ปี กำลังได้รับการรักษา โดยวิธีใช้ยาสมุนไพรตำรับของ ดร. เฉลิมพล ศักดิ์คำ หรือชาวบ้านเรียกป๋าเหลิม โดยมีคุณยายพิน หรือนางสาวสายพิณ อายุ 51 ปี เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดกาลรักษาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเย็นของวานนี้ (7 พ.ค.) มีบรรดาผู้ป่วยที่เข้ามารักษาตัวช่วยกันมาดูแลทายาให้กับน้องน้ำปั่น โดยทุกคนให้การต้อนรับและให้ความรักกับน้องน้ำปั่นเป็นอย่างดี จนทำให้น้องน้ำปั่นรู้สึกสบายใจและเริ่มพูดเก่งมากขึ้น แต่อาการเจ็บปวดจากแผลที่ผูกพอง เมื่อเวลาโดนยาก็ทำให้น้องน้ำปั่นร้องออกมาเสียงดังจนทำให้หลายคนต้องเข้ามาปลอบ
ทางป๋าเหลิมได้จัดบ้านพัก เป็นบ้านเดี่ยว แบบมีใต้ถุนไว้ให้น้องน้ำปั่นพร้อมกับคุณยายได้อยู่โซนแยกออกไป โดยบรรยากาศของบ้านพักเป็นไปด้วยความร่มรื่นอยู่กลางสวนผลไม้
ในขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดจันทบุรี เข้ามาเก็บข้อมูลสอบถามความเป็นอยู่ รวมถึงสิ่งที่อยากให้หน่วยงานราชการช่วยเหลือ รวมถึงอธิบายถึงขั้นตอนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ในลำดับต่อจากนี้ไป
ส่วนทางด้านคุณยายพิน เผยว่า ครอบครัวของคุณยายพินเอง อยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ชีวิต ตนเองประกอบอาชีพหลักคือหาผักตามหนองน้ำและในป่า เพื่อเอามาขายเลี้ยงชีพโดยจะมีรายได้อยู่ประมาณวันละ 200 บาทถึง 300 บาท สำหรับรายได้เพียงเท่านี้ก็ถือว่ามากสำหรับตนเองแล้วเนื่องจากไม่ต้องลงทุน แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว
ในขณะที่ตัวของคุณยายมาดูแลน้องน้ำปั่นอยู่ที่จันทบุรี ก็มีคุณตาสิทธิ์ อายุ 50 ปี สามีของคุณยายพิณคอยเก็บผักไปขายดูแลครอบครัวแทน
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการใช้ไฮเตอร์รักษาน้องน้ำปั่น คุณยายพิน กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องจริงตนเองได้รับการแนะนำมาจากแพทย์ จากโรงพยาบาลจุฬาเป็นผู้แนะนำให้ใช้ โดยมีส่วนผสมเป็นไฮเตอร์สีชมพูหนึ่งฝาผสมกับน้ำเปล่าปริมาณหนึ่ง แล้วใช้ทาแผลโดยฤทธิ์ของไฮเตอร์จะกัดแผลจนแห้ง แต่ทุกครั้งที่ทาน้องก็จะแสบร้อน
น้องมักโดนเพื่อนแกล้งเพื่อนล้อเป็นประจำ ในขณะที่ไปโรงเรียนเพื่อนก็มักจะแกล้งโดยการเอากระเป๋า หรือหนังสือไปโยนทิ้งน้ำ เสื้อผ้านักเรียนก็จะเปื้อนโคลน บางทีขนมก็ถูกเพื่อนแย่งหมดบางครั้งมีการเอาขนมน้องไปโยนทิ้งแล้วก็น้องเก็บกินก็มี “คุณยายถึงกับน้ำตาซึมเมื่อเล่าเหตุการณ์”
ขณะนี้ที่บ้านยังมีพี่ของน้องน้ำปั่นอีกหนึ่งคน ชื่อว่าน้ำแข็ง อายุ 13 ปี กำลังจะเข้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่ง ป่วยด้วยโรคเดียวกันแต่ยังเป็นไม่หนักเหมือนน้องน้ำปั่น ตอนนี้มีอาการแค่ช่วงบริเวณขาตอนล่าง อยู่ระหว่างการดำเนินการจะนำตัวมารักษากับป๋าเหลิมด้วยเช่นกัน
น้องน้ำปั่น เล่าเรื่องที่ถูกเพื่อนแกล้งให้ฟังว่า มักโดนเพื่อนแย่งกระเป๋าแย่งหนังสือไปโยนน้ำ บางทีเล่นอยู่เพื่อนก็มาเรียกปั่นก็ถามว่ามีอะไรเรียกทำไม จากนั้นเพื่อนก็แย่งกระเป๋าไปโยนน้ำ บางครั้งก็แย่งขนมปั่นเททิ้งแล้วก็เหยียบ จากนั้นก็ให้ปั่นเก็บมากิน แต่ปั่นก็ไม่ได้เก็บกินตอบกลับไปบอกเพื่อนว่าให้กินเถอะ ปั่นไม่อยากกิน ตอนนี้ปั่นมาอยู่จันท์ใจดี ไม่มีใครแกล้งปั่น แล้วปั่นก็ไม่อยากให้เพื่อนแกล้ง
น้องปั่นอยากขอบคุณทุกคนที่ให้ให้กำลังใจ ปั่นสัญญาว่าถ้าปั่นหาย ปั่นจะไม่ลืมบุญคุณเลย ปั่นจะเก็บเงินให้ได้ 100,000 บาท แล้วนำมาบริจาคมาช่วยคนที่ลำบากกว่าปั่น ปั่นจะได้มีบุญ ตากับยายจะได้รับบุญด้วย ตากับย่าอยู่บนฟ้าอยากให้ได้บุญ ส่วนยายฝันก็รักเรียกยายว่าแม่ทุกคำ ฝันไม่อยากให้ยายลำบากยายต้องตื่นตีสามตีสี่ กลัวยายจะไม่สบายจะปั่นไปอีก ไม่อยากให้ยายลำบากกลัวจะทิ้งปั่นไปเหมือนย่ากับตา
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
