สาวรัสเซียเปิดคลินิกเถื่อน ให้บริการนักท่องเที่ยวเกาะพะงัน

(17 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันนำกำลังเข้าจับกุมคลีนิกเถื่อนที่มีชาวรัสเซียเป็นเจ้าของ ซึ่งการเข้าจับกุมเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ได้สั่งการให้ ตำรวจท่องเที่ยวระดมกวาดล้างอาชญากรรม แรงงานข้ามชาติ และต่างชาติที่แย่งอาชีพคนไทย 

ในการเข้าจับกุ่มครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้จับกุม น.ส.สายธาร อายุ 43 ปี ผู้จัดการร้านและมีหน้าที่ทำเวชกรรมเลเซอร์ นวด ครอบแก้วรัสเซียให้กับลูกค้า ที่อยู่ภายในร้าน เรเซอร์ มี (LASER ME) ตั้งอยู่ ม.4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลางได้แก่ โบรชัวร์ร้าน LASER ME  เครื่องเลเซอร์ฝ้า เครื่องเลเซอร์กระชับรูขุมขน เครื่องเลเซอร์กำจัดขน เตียงเวชกรรม แว่นกันรังสีและเลเซอร์ กางเกงในสำหรับเวชกรรม ถุงมือไนโตรไวนิล ใบแจ้งก่อนเข้ารับการรักษา แก้วสำหรับครอบ โดยร้านดังกล่าวมีหญิงสาวชาวรัสเซียเป็นเจ้าของ และมี น.ส.สายธาร สินชัยศรี เป็นผู้ดูแลและให้บริการ

การเข้าจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับการร้องเรียนจากชาวต่างชาติ ว่าได้เดินทางไปทำศัลยกรรมผิวหนังโดยการใช้เลเซอร์บนร่างกายที่คลินิก ซึ่งทำโดยหญิงสาวชาวรัสเซียไม่ทราบชื่อ ต่อมาผิวกายที่ทำได้เกิดรอยแผลไหม้ แผลเป็น และเกิดอาการอักเสบอย่างรุนแรงตามผิวหนังของร่างกายตามจุดที่ได้ทำการเลเซอร์ จึงได้ร้องเรียนมายังตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน เพื่อให้ช่วยตรวจสอบคลินิก 

เบื้องต้นชาวต่างชาติได้ทำการติดต่อไปยังร้านดังกล่าวเพื่อขอให้ร้านชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทางร้านได้ปฎิเสธพร้อมทั้งข่มขู่และได้ปิดกั้นการติดต่อของนักท่องเที่ยวไป วันนี้ที่ 16 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันจึงได้สืบสวนพบคลินิกดังกล่าวมีการเปิดให้บริการจริง และกำลังเปิดให้บริการจากการตรวจสอบพบว่ามีลูกค้าอื่นๆจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากคลีนิกแห่งนี้

เจ้าหน้าที่ได้สอบถาม น.ส.สายธาร ผู้จัดการร้าน ให้การยอมรับว่า คลินิกนี้เป็นของชาวรัสเซีย และไม่ได้อาศัยอยู่ที่ประเทศไทย คลินิกแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาต โดยรับทำเกี่ยวกับเวชกรรมความงาม เลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์ใบหน้า นวดน้ำมัน และครอบแก้วแบบรัสเซีย การรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อความงาม การบำบัดผิวด้วยเลเซอร์ การเสริมความงามด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ โดยจะได้รับตารางที่ลูกค้าจะเข้าใช้บริการมาจาก น.ส.โอเลเซีย ซึ่งได้รับเงินเดือนแบ่งเป็นเปอร์เซ็น 25% จากรายได้ต่อเดือน 

ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดตั้งกิจการสถานประกอบการพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 16 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป