"เพชรพันปี" แจงไม่รู้จัก "แม่ตั๊ก" เป็นการส่วนตัว และไม่ได้ร่วมธุรกิจกันแต่อย่างใด
"เพชรพันปี" แจงไม่รู้จัก "แม่ตั๊ก" เป็นการส่วนตัว และไม่ได้ร่วมธุรกิจกันแต่อย่างใด
"เพชรพันปี" แจงไม่รู้จัก "แม่ตั๊ก" เป็นการส่วนตัว และไม่ได้ร่วมธุรกิจกันแต่อย่างใด ด้านลูกค้าร้านทองที่เป็นผู้พิการขาขาด วอนคืนเงินส่วนต่างให้ตนด้วย
(26 ก.ย. 67) ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับ คุณเพชรพันปี อภิมหาโชคไพศาล นักธุรกิจ เจ้าของร้านเพชร และอดีตเจ้าของเว็บขายลอตเตอรี่ออนไลน์ ที่เคยเป็นกระแสข่าวใหญ่ช่วงปีพ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา และขณะนี้เธอมีชื่อเชื่อมโยงว่าเป็นพี่สาวของ นางกรกนก สุวรรณบุตร หรือ "แม่ตั๊ก" แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ที่เป็นข่าวดราม่าทอง อยู่ ณ ขณะนี้
โดยคุณเพชรพันปี เปิดเผยกับทีมข่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับ แม่ตั๊กที่เป็นข่าว และไม่ได้ร่วมธุรกิจกันแต่อย่างใด ก่อนวางสายผู้สื่อข่าวไปเพียงเท่านี้
ขณะที่นางอวยพร อายุ 53 ปี ลูกค้าร้านทอง ที่เป็นผู้พิการขาขาด เผยว่า ตนอาศัยอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเมื่อช่วงปลายปี 2560 ตนทำงานอยู่ในฟาร์มหมูแห่งหนึ่ง แล้วขณะทำงานดันเกิดอุบัติเหตุ เดินสะดุดล้มโดนเครื่องบดเนื้อหมูบดขาข้างซ้ายจนขาดกลายเป็นผู้พิการต้องใส่ขาเทียมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จากนั้นเมื่อปี 2564 ตนเริ่มรู้จัก “แม่ตั๊ก” ผ่านไลฟ์สดทางออนไลน์ของเขา เห็นว่าเขาเป็นคนบ้านเดียวกัน (สุราษฎร์ธานี) จึงไว้ใจ หลงเชื่อชื่นชมที่เขาชอบทำบุญช่วยเหลือสังคม จึงเริ่มสั่งซื้อเซตปี่เซียะทองคำแปดตัวพร้อมของแถม และยังซื้อสร้อย และจี้กรอบทองท้าวเวสสุวรรณ มูลค่ารวมกันกว่า 4 หมื่นบาท แต่ทันทีที่ได้รับสินค้ารู้สึกแปลกใจว่าทำไม ทอง 1 บาท ที่เขาประกาศผ่านไลฟ์สด มันถึงได้บางเฉียบขนาดนี้ ตนก็คิดว่าตนเองคงเสียเหลี่ยมโดนหลอกแล้ว ก็เก็บเซตปี่เซียะทองคำและอย่างอื่นที่สั่งมาเก็บใส่กล่องไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นมาเห็นเรื่อยมา
ด้วยความที่ตนเป็นคนชอบเก็บสะสมทองคำไว้อยู่แล้ว จึงหลงเชื่อ โอนเงินซื้อสินค้าทองของเขา และเมื่อตนจะนำเซตปี่เซียะทองคำ กับสร้อยคอ และจี้กรอบทองท้าวเวสสุวรรณ ไปขายปรากฏว่าร้านทองในจังหวัดสุราษฎร์ฯ ให้ราคาเพียง 8,500 บาทเท่านั้น ซึ่งเจ้าของร้านทองดังกล่าวยืนยันว่าให้ราคาเท่านี้ แต่ด้วยความ ที่เจ้าของร้าน สนิทและสงสารตน จึงอยากช่วยสมทบทุนค่าขาเทียม ยัดเงินสดจำนวน 10,000 บาท ใส่มือของตนแทน ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนี้ไม่ใช่ค่าทองแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เป็นข่าว ตนก็หวังว่าอยากจะได้ค่าส่วนต่างที่สูญไป ตอนแรกเขาบอกจะคืนให้ 33,000 บาท แต่ตนเอาทองไปขายมาแล้ว 8,500 บาท ก็หวังว่าจะได้เงินค่าส่วนต่าง จากทางร้านทองแม่ตั๊กสัก 20,000 บาท - 24,000 บาท แต่ปัญหาคือทางร้านแจ้งว่าให้ไปหาหลักฐานการโอน สลิปโอนเงิน หลักฐานแชทการสั่งซื้อ ซึ่งทั้งหมดนี้มันอยู่ในโทรศัพท์เครื่องเก่าที่พังไปแล้วนั่นเอง ตนจึงอยากให้ทางร้านลองตรวจสอบจากระบบข้อมูลของทางร้านได้หรือไม่ เพราะอย่างไรเสียก็ต้องมีออเดอร์ของตนที่สั่งซื้ออยู่แล้ว
สุดท้ายนี้ฝากบอกแม่ตั๊กว่าขอให้คืนเงินส่วนต่างให้ตนเถอะ เพราะตนไม่สามารถถอดสังขารเดินทางไปยังกรุงเทพมหานครฯได้ ขนาดผู้เสียหายรวมตัวกันไปทำเนียบรัฐบาล ในช่วง 16:00 น.ของวันนี้ ตนยังไปเข้าร่วมไม่ได้เลย ทั้งที่ใจอยากจะไปมากแค่ไหนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันนี้ กลุ่มลูกค้าร้านทองแม่ตั๊ก ได้นัดหมายรวมตัวกันเดินทางไปที่ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับ น.ส.จิราพร สินธุไพร” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ผู้เสียหายรวมตัวสอบสวนกลาง แจ้งความ “แม่ตั๊ก” พร้อมสามี
ปาทองทิ้งหน้าร้าน! สาวฉุนขายคืนได้ 410 ซื้อมา 1,500 มาตั้งไกลหวังเอาเงินไปซื้อนมให้ลูก 2 ขวบ