คนท้ายเขื่อนห้วยหลวงเตรียมรับน้ำ 4-7 ก.ย.นี้

คนท้ายเขื่อนห้วยหลวงเตรียมรับน้ำ 4-7 ก.ย.นี้

52304 ก.ย. 67 14:59   |     Tum1

คนท้ายเขื่อนห้วยหลวงเตรียมรับน้ำ 4-7 ก.ย.นี้ ขณะที่นาข้าว 5 พันไร่ที่โพนพิสัย เน่าตายหมดแล้ว

(4 ก.ย.67) เป็นวันแรกที่เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี จะทำการระบายน้ำออกจากเขื่อน ช่วงระหว่างวันที่ 4-7 ก.ย.67 นี้ ซึ่งเขื่อนห้วยหลวงจะปล่อยน้ำ ทำให้น้ำไหลไปตามลำห้วยหลวงในหลายพื้นที่ทั้ง อ.เมืองอุดรธานี และ อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี ไหลเข้าพื้นที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งจะมีประตูระบายน้ำห้วยหลวง เป็นจุดควบคุมน้ำจุดสุดท้าย โดยทางเขื่อนห้วยหลวง มีการแจ้งเตือนประชาชน ที่อยู่ใกล้ลำห้วยหลวงและลำน้ำสาขา เก็บของมีค่าขึ้นที่สูงและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด


นายวาที สีแสนตอ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 ประตูระบายน้ำห้วยหลวง ต.จุมพล อ.โพนพิสัย โครงการชลประทานหนองคาย กล่าวว่า มวลน้ำที่จะถูกปล่อยออกจากเขื่อนห้วยหลวง จะเป็นลักษณะขั้นบันได คือ 0.5 ล้านลูกบาศก์เมตร , 1 ล้านลูกบาศก์เมตร , 2 ล้านลูกบาศก์เมตร และ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ตอนนี้ทำการยกบานประตูทั้ง 3 บาน 6 ช่อง เพื่อรองรับน้ำมวลบนที่จะไหลมาที่ จ.หนองคาย โดยจะสามารถรับได้ที่ 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน 

ซึ่งน้ำที่ไหลมาก็จะไม่มีผลมากเท่าไร จะมีเพียงการระบายน้ำได้ช้าลงจากปกติเท่านั้น ขณะนี้น้ำโขงมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ส่วนน้ำห้วยหลวงหน้าประตูระบายน้ำกับระดับน้ำโขง ห่างกันที่ 35 เซนติเมตร เป็นการระบายได้ดี ไม่น่าเป็นห่วง 



จากการประเมินสถานการณ์ ระดับน้ำในลำห้วยหลวงจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10 เซนติเมตร จากจุดที่อยู่ในตอนนี้ การที่สามารถระบายน้ำได้ดี จึงไม่น่าวิตกกังวล ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก แค่ต้องเฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่คอยดูและผลักน้ำลงสู่แม่น้ำโขง น้ำจากเขื่อนห้วยหลวง จะไหลมาถึง อ.โพนพิสัย ใช้เวลา 3 วัน จากระยะทางน้ำ 230 กิโลเมตร



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหลายวันต่อเนื่องกัน ทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรในต.นาหนัง และ ต.ชุมช้าง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ระดับน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร ต้นข้าวถูกน้ำท่วมนานเกิน 3 วัน เน่าตายหมดแล้ว น้ำท่วมขังระบายไม่ได้ บางจุดท่วมถนนทางสัญจรของประชาชน รถยนต์ขนาดเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง เกษตรจังหวัดหนองคาย ได้ออกสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป


ข่าวที่คล้ายกัน :


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง