หนุ่มขับเก๋ง เจอรถพ่วงกลับรถเต็มถนน เบรกไม่ทันชนกลางลำ ดับคาที่
หนุ่มขับเก๋ง เจอรถพ่วงกลับรถเต็มถนน เบรกไม่ทันชนกลางลำ ดับคาที่
หนุ่มเทศบาลขับเก๋ง เจอรถพ่วงกลับรถกินเลนเต็มถนน เบรกไม่ทันชนกลางลำ เสียชีวิตคาที่ คาด! แสงแดดยามบ่ายแยงตา
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 18 ธันวาคม 67 ร.ต.อ.หญิง ศุภลักษณ์ หวานวาจา รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋ง ชนกับรถบรรทุกพ่วง มีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่ภายในรถ บริเวณยูเทิร์นกลับรถ ทางเข้านิคมสร้างตนเอง ถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 300/600 หมู่ 4 บ้านบึง ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สารวัตรตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ และประสานเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงประจวบ , เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัด และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน นำอุปกรณ์เครื่องตัด-ถ่าง เข้าสนับสนุน
ที่เกิดเหตุ เป็นช่วงยูเทิร์นกลับรถ ห่างจากทางโค้งประมาณ 200 เมตร พบรถเก๋งและรถบรรทุกพ่วงชนกัน กีดขวางการจราจรถนนเพชรเกษม ทำให้รถติดยาวหลายกิโลเมตร จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบเป็นรถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อ hino 500 สีขาว หมายเลขทะเบียนส่วนหัว XX0-XX70 กทม.ตัวพ่วงหมายเลข XX2-XX43 สระบุรี มีนายอาคม (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี เป็นคนขับรถ โดยระหว่างกลางของรถบรรทุกพ่วง มีรถเก๋งแวน ยี่ห้อ toyota avanza สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน Xภ-XX92 กทม.ชนอัดติดอยู่ตรงกลางของรถบรรทุกพ่วง
ช่วงบริเวณหน้ารถเก๋งได้รับความเสียหาย กระจกแตกหน้ารถพังยับเยิน คอนโซลหน้ารถหนีบอัดติดอยู่กับผู้ขับขี่เสียชีวิตคาที่อยู่ภายในบริเวณหน้ารถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์เครื่องตัด-ถ่าง ตัดซากรถเพื่อนำศพผู้เสียชีวิตออกมา ส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ทราบชื่อต่อมา นายโอภาส (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลทับสะแก และเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยตำรวจทางหลวงจุดทับสะแก รหัสประจำตัว 67 สภาพศพบริเวณใบหน้าและกะโหลกศีรษะยุบจากการถูกกระแทกอย่างรุนแรง
ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ในระหว่างช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังตัดหญ้าข้างทางอยู่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ ระหว่างนั้น เห็นรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าว ออกมาจากร้านปะยางที่อยู่ใกล้กับยูเทิร์น แล้วมากลับรถที่บริเวณยูเทิร์น เพื่อมุ่งหน้าลงใต้ ระหว่างนั้นได้มีรถเก๋งคู่กรณีซึ่งวิ่งมาทางตรง มุ่งหน้าลงใต้ ชนเข้าอย่างจังเสียงดังสนั่น จึงได้หยุดพักการตัดหญ้าข้างทาง แล้วเข้ามาดูที่เกิดเหตุ พบว่า คนขับรถเก๋งเสียชีวิตคาที่แล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจให้มาตรวจสอบ
ด้านนายอาคม คนขับรถบรรทุกพ่วง กล่าวว่า ตนได้นำรถมาปะยางที่อู่ร้านปะยางใกล้จุดเกิดเหตุ เมื่อปะยางเสร็จแล้ว กำลังจะมายูเทิร์นกลับรถเพื่อมุ่งหน้าลงใต้ไปที่ท่าเรือ จ.ระนอง ระหว่างยูเทิร์นกลับรถได้มีรถบรรทุกผลไม้ผ่านไปแล้ว 2 คัน ตนจึงได้เลี้ยวรถยูเทิร์น และได้มองแล้วว่า บนถนนเพชรเกษมไม่มีรถวิ่งผ่านมา แต่จังหวะที่กำลังเลี้ยว รถจู่ๆก็มีรถเก๋งซึ่งมาจากไหนไม่ทราบ คาดว่า วิ่งมาด้วยความเร็วแล้วชนเข้าบริเวณกลางรถพ่วงอย่างจัง
ตนเองมั่นใจว่าดูแล้วไม่มีรถวิ่งมา และรู้สึกเสียใจ ทั้งสงสารผู้เสียชีวิตมาก ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น สันนิษฐานว่า คนขับรถเก๋งอาจจะก้มหยิบโทรศัพท์ หรืออาจถูกแสงพระอาทิตย์แยงตา ทำให้มองไม่เห็นก็เป็นได้ เนื่องจาก เป็นช่วงเวลาบ่ายสอง จึงทำให้มองไม่เห็นรถของตน ที่กำลังอยู่เทิร์นจนเกิดการชนกันดังกล่าว - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน