เด็ก ม.6 ช่วยทำ CPR ยื้อชีวิตน้อง ม.3 หัวใจหยุดเต้น
เด็ก ม.6 ช่วยทำ CPR ยื้อชีวิตน้อง ม.3 หัวใจหยุดเต้น

ชื่นชมนักเรียนชาย ม.6 ตั้งสติได้ดี ผลัดเปลี่ยนกันทำ CPR นาน 30 นาที ยื้อชีวิตรุ่นน้อง ม.3 หัวใจหยุดเต้นจนปลอดภัยในที่สุด โรงเรียนมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
(20 พ.ค. 68) โลกโซเชียลแห่ชื่นชมนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา หลังแสดงความกล้าหาญและมีสติในการช่วยชีวิตเพื่อนนักเรียน ม.3 ที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นอย่างกะทันหัน ด้วยการทำ CPR อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง จนเพื่อนกลับมามีสัญญาณชีพอีกครั้งก่อนรถพยาบาลจะมาถึง
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ภายในห้องเรียนของโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ นักเรียนชั้น ม.3 เกิดอาการหมดสติขณะเรียนอยู่กับครูประจำชั้น เพื่อนนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งไปแจ้งครู ก่อนที่นักเรียน ม.6 ทั้ง 3 คน ได้แก่ นายจิรภัทร ศรีสว่าง (ต้นกล้า), นายกิตติภพ ค่ายใส (ไปร์ท) และนายรัฐภูมิ ขจรสาธิต (ปุณ) ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงจะรีบเข้าให้ความช่วยเหลือ
เมื่อไปถึง พบว่าเด็กที่หมดสติไม่มีชีพจร ตาเหลือง น้ำลายฟูมปาก ทั้งสามจึงตัดสินใจนำถังออกซิเจนจากห้องพยาบาลมาใช้งาน พร้อมลงมือทำ CPR อย่างเร่งด่วน ใช้เวลานานกว่า 30 นาที โดยผลัดเปลี่ยนกันทำการปั๊มหัวใจ จนกระทั่งเด็ก ม.3 เริ่มมีสัญญาณชีพและหายใจได้อีกครั้ง จากนั้นจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลค่ายสุรนารีอย่างปลอดภัย ล่าสุดอาการปลอดภัยและอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ นักเรียนผู้ช่วยชีวิตทั้งสามคน เปิดเผยว่า ตนเคยผ่านการอบรมการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน และปัจจุบันยังเป็นอาสาสมัครกู้ชีพประจำพื้นที่ จึงสามารถนำความรู้ที่มีมาช่วยเหลือเพื่อนได้ทันเวลา โดยรู้สึกดีใจและภูมิใจอย่างมากที่สามารถช่วยชีวิตคนได้
ด้าน นายสราวุฒิ แช่มเมืองปัก ผู้อำนวยการโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยเฉพาะการทำ CPR ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดอบรมอย่างสม่ำเสมอ และยกย่องนักเรียนทั้งสามคนที่แสดงความกล้าหาญและมีความรับผิดชอบต่อเพื่อนมนุษย์ พร้อมมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
เหตุการณ์นี้ได้รับกระแสชื่นชมอย่างล้นหลามจากประชาชนในโลกออนไลน์ และย้ำเตือนถึงความสำคัญของทักษะ CPR ที่ทุกคนควรเรียนรู้ เพราะเหตุฉุกเฉินอาจเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่เลือกเพศ วัย หรือสถานที่
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
