“สมศักดิ์” ปัดไม่ได้บังคับ รพ.ใช้สมุนไพร - เชื่อดีกว่ายาแผนปัจจุบัน

(29 เม.ย. 68) จากกรณีที่เพจ Remrin ออกมาเปิดเผยว่าโรงพยาบาลในเครือสาธารณสุข กำลังเจอกับนโยบายให้เปลี่ยนมาจ่ายยาสมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบัน โดยในตอนหนึ่งเพจดังกล่าวบอกด้วยการใช้ยาสมุนไพรนี้จะถูกนำมาคิดเป็นตัวชี้วัดการปฏิบัติงานของโรงพยาบาลด้วย

“มีนโยบายจากเบื้องบน เริ่มให้เอายาแผนปัจจุบันออกจากโรงพยาบาล และให้ใช้ยาสมุนไพรแทน ซึ่งยาหลายตัวยังให้ใช้สมุนไพรเป็นแค่ทางเลือกยังพอทน แต่ยาบางตัวถูกใส่เป็นนโยบายลงไปในตัวชี้วัดเลย ว่าโรงพยาบาลต้องจ่ายสมุนไพรให้คนไข้ตามยอดที่กำหนด ถ้าจ่ายสมุนไพรไม่ถึงเป้า ทำไม่ได้ตามตัวชี้วัดที่กำหนดมา ก็อาจส่งผลให้ประเมินโรงพยาบาลไม่ผ่าน นำไปสู่การจำกัดงบต่าง ๆ(KPI)”

จนเกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของนโยบายดังกล่าว ล่าสุดที่มหาวิทยาลัยนครพนม จ.นครพนม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุขมอบนโยบายให้โรงพยาบาลใช้ยาสมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบัน จำนวน 55 รายการ ทำให้หลายโรงพยาบาลมีความกังวล เรื่องนี้ข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นอย่างไร ว่า

เรามีแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก และยาสมุนไพรพื้นฐาน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับโรงพยาบาล ให้ได้ใช้อยู่ประมาณ 4 กลุ่ม ซึ่งตัวเลขสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ที่ผ่านมีวงเงินอยู่ 1 พันล้านต่อปี ถ้าสามารถใช้สมุนไพรแทนยาต่างประเทศได้ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ต้องสนับสนุนคนไทย ซึ่งตนเคยบอกว่าเรามีอะไรดี ๆ มากมาย แต่เรายังไม่มีความมั่นคง เพราะเราอาจจะทิ้งยาไทยสมุนไพรไทยไปนาน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ใช้กับอาการเบื้องต้นอย่างง่าย ๆ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย สมุนไพรไทยใช้ดี

เมื่อถามอีกว่าประสิทธิภาพของยาสมุนไพรสามารถใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันได้ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่ายาสมุนไพรดีกว่าด้วยซ้ำ เช่น ถ้าหากท้องผูกสามารถใช้ฟ้าทะลายโจรได้ถือเป็นทางเลือกของโรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาลก็ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง

เมื่อถามต่อว่ามีการกำหนดการจ่ายยาสมุนไพรเพื่อให้เป็นตัวชี้วัดโรงพยาบาล เปรียบเสมือนการบังคับให้โรงพยาบาลต้องจ่ายยาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงยังไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่เป็นทางเลือก และสปสช. ก็ได้ให้รางวัลกับโรงพยาบาลที่สามารถใช้ยาพื้นฐานต่าง ๆ เหล่านี้ได้มาก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยโดยที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ และเป็นการส่งเสริมภูมิปัญญาของคนไทย ขออย่าไปซีเรียสมาก หากเราจะใช้แต่สารเคมีอย่างเดียวคงไม่เหมาะ