ปูพรมล่า ฆาตกรโหดเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มตรัง คาดขัดแย้งผลประโยชน์
ปูพรมล่า ฆาตกรโหดเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มตรัง คาดขัดแย้งผลประโยชน์

ตำรวจปูพรมล่า ฆาตกรโหดเผานั่งยางคนงาน 4 ศพกลางสวนปาล์ม ก่อนชิงรถหนี คาดปมขัดแย้งผลประโยชน์
(11 พ.ค.68) ที่ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา รับแจ้งเหตุฆ่าเผานั่งยาง ภายในสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง เมื่อเวลา 01.00 น.คืนที่ผ่านมา จึงรุดเข้าตรวจสอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสวนปาล์มน้ำมันเปลี่ยว และเดินทางด้วยความยากลำบาก ลึกไปจากถนนตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. สภาพเป็นสวนปาล์มรกทึบ พบควันไฟพวยพุ่งขึ้นมาจากร่องสวนปาล์มความลึกประมาณ 2 เมตร
เมื่อไปถึง ต้องผงะเมื่อพบกับเศษยางรถยนต์นับ 10 เส้น ไหม้ดำเป็นตอตะโก เหลือเพียงเส้นลวดภายในยาง และพบชื้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะมนุษย์ปะปนอยู่ ไหม้ดำไปแล้วเกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย ได้เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่านจำนวน 3 ร่าง จึงนำส่งชันสูตรเพื่อหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามกระบวนการกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว เป็นเหตุสะเทือนขวัญ ทำให้ตลอดทั้งวันของวันนี้ (11 พ.ค.68) ตั้งแต่ช่วงเช้า ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นำโดย พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เร่งลงพื้นที่พร้อมหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองปราบปราม , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา , ฝ่ายสืบสวน รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดย นายมานิตย์ ท่าจีน นายอำเภอสิเกา ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดี และเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมดอย่างละเอียด
ในที่เกิดเหตุ เป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดดฝน แต่ไม่มีผู้พักอาศัย เจ้าหน้าที่พบร่องรอยที่เป็นเบาะแสจำนวนมาก อาทิ กองเลือด , ปลอกกกระสุน และ แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ทุกคนถึงกับผงะ หลังตรวจพื้นที่โดยรอบ ห่างไปราว 500 เมตร พบอีก 1 ศพ มีร่องรอยถูกเผาทิ้งโดยมีการฝังกลบเอาไว้เช่นกัน แต่สภาพศพเหลือแต่โครงกระดูก และคาดว่าเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 1 เดือน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด
สอบถามเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า กรณีเผานั่งยาง 3 ศพแรก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาเบาะแส จนทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพที่ถูกเผานั่งยาง เป็นคนงานดูแลสวน เพราะมีอัตลักษณ์บางส่วนในชิ้นส่วนศพ อาทิ ท่อนเหล็กดามขาคนงานรายหนึ่ง โดยมีนายสุรเชษฐ์ (สงวนนามสกุล) ชาว ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เป็นหัวหน้าคนงาน รับผิดชอบดูแลสวนปาล์มดังกล่าวเนื้อที่กว่า 170 ไร่ แทนเจ้าของ
นายเรืองศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ลูกชายของนายสุรเชษฐ์ หนึ่งในผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า พ่อเป็นหัวหน้าคนงานดูแลสวนปาล์มดังกล่าว ซึ่งตามปกติหากเดินทางเข้ามาดูแลตรวจตราสวนปาล์ม ไม่เกิน 6 โมงเย็น ต้องกลับถึงบ้านทุกวัน แต่วันเกิดเหตุ ติดต่อพ่อไม่ได้ โทรหาก็ไม่ติด กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. (10 พ.ค.68) จึงระดมกันออกตามหา กระทั่งช่วงดึกได้เข้ามาตรวจสอบภายในสวนปาล์มที่เกิดเหตุ ก็พบร่องรอยการเผานั่งยางดังกล่าว จึงได้แจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
มีรายงานข่าวจากพื้นที่แจ้งว่า ที่ผ่านมาเกิดกรณีปัญหาโจรเข้ามาลักขโมยผลปาล์มในพื้นที่บ่อยครั้ง แม้ทั้งฝ่ายตำรวจและปกครองในพื้นที่ จะเข้มงวดตรวจตรา แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่กว้างที่มีการปลูกปาล์มจำนวนมาก โดยเฉพาะสวนปาล์มของนายทุนและบริษัทใหญ่ ซึ่งกินพื้นที่หลายร้อยไร่ โดยเฉพาะสวนปาล์มที่เกิดเหตุ ก็เกิดปัญหาโจรเข้ามาลักขโมยปาล์มเช่นกัน ทำให้เจ้าของต้องจัดคนงานมาเฝ้าดูแล
เบื้องต้น คาดว่า สาเหตุมาจากความขัดแย้ง เกี่ยวกับผลปาล์มน้ำมัน และการลักขโมยผลผลิต เนื่องจาก สภาพภายในสวนปาล์มมีร่องรอยการตัดผลผลิต ข้าวของเครื่องใช้ อาทิ จาน ชาม ช้อน ที่ไม่ใช่ของคนงาน ส่วนผู้ก่อเหตุเผานั่งยางทั้ง 3 ศพ คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 4 คน โดยหลังก่อเหตุได้ชิงรถกระบะของผู้เสียชีวิตหลบหนีไปด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมระดมเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ แกะรอยคนร้ายทันที เพื่อตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน