ศบ.ทก. แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา หลังยกระดับเข้มชายแดน
ศบ.ทก. แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา หลังยกระดับเข้มชายแดน

ศบ.ทก. แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา หลังยกระดับควบคุมการผ่านแดนทุกประเภท
(25มิ.ย.68) ที่ ทำเนียบรัฐบาล การแถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) โดยมี พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แถลง
รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนิติการต่างประเทศที่ได้มีการหารือกันในที่ประชุม ศบ.ทก.เมื่อเช้าวันนี้ โดยในวันนี้มี 3 ประเด็น สำหรับประเด็นแรก ตามที่มีคำสั่งยกระดับการควบคุมการผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ขอย้ำว่ามีผลให้มีการจำกัดการผ่านแดนของผู้คนที่เข้มข้นขึ้น แต่ยังคงอนุญาตสำหรับบุคคลที่มีความจำเป็นและด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม ที่ประชุม ศบ.ทก. เมื่อเช้าวันนี้ก็ได้ติดตามผลในเชิงปฏิบัติของการเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการดังกล่าว เพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้งานของจุดผ่านแดนที่จำเป็น ซึ่งก็ได้รับรายงานข่าวว่าการอำนวยความสะดวกการเข้าออกส่วนใหญ่เป็นไปตามปกติ เช่น ณ ด่านแห่งหนึ่งมีการอนุญาตให้ชาวกัมพูชากว่า 7,000 คน ได้เดินทางกลับประเทศ ก็จะมีบางกรณีที่มีรถติดค้างอยู่บ้างซึ่งได้มีการคลี่คลายไปแล้วในส่วนของการทำการอำนวยความสะดวกทางมนุษยธรรมก็ยังดำเนินไปตามปกติ ไม่มีติดขัดเช่นอาจมีการเปิดด่านต่างๆ ในจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดจันทบุรี เพื่อรับตัวผู้ป่วยชาวกัมพูชารวม 7 ราย เพื่อให้ได้รับการรักษาและช่วยเหลือทางทุกอย่างทันท่วงที ขอเรียนว่าถึงแม้เรามีความจำเป็นที่จะยกระดับความเข้มข้นของการบริหารชายแดนในลักษณะนี้ แต่ที่ประชุมได้ย้ำเมื่อเช้าว่าฝ่ายไทยให้ความสำคัญกับหลักธรรมในการพิจารณาและติดตามผลของการปฎิบัติตามมาตรการต่างๆซึ่งปรับใช้เป็นการพิเศษเฉพาะในช่วงนี้ ที่เพิ่งมีการเพิ่มความเข้มข้นขึ้น โดยทางการไทยก็ตระหนักและให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรในระดับประชาชนของทั้งสองประเทศ
สำหรับประเด็นที่สอง ได้หารือถึงการบูรณาการการทำงานของ ศบ.ทก.กับกลไกที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลไทยที่ได้ยกระดับความเข้มข้นเช่นกัน ในเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งรวมถึงการหลอกลวงทางออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการลักลอบขนยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการออกรายงานเรื่องการเซ็นเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งชาติ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ นายกรัฐมนตรีได้แถลงการยกระดับมาตรการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นตัวอย่างก็คือการระงับการส่งออกไฟฟ้าน้ำมันและสินค้าที่อาจถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ ในฝั่งกัมพูชา ซึ่งเป็นมาตรการที่ดำเนินไปควบคู่ไปกับแนวทางของ ศบ.ทก. ขอย้ำ ว่ามาตรการดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายโดยตรงต่อธุรกิจเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติเป็นหลัก และไม่ได้มีเป้าหมายไปยังประชาชนทั่วไป แต่เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในชายแดนของทั้งสองฝั่ง ทั้งสองประเทศ ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติเป็นประเด็นที่ไม่สามารถแก้ไขโดยประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงลำพัง โดยที่ผ่านมามีการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ในหลายกรอบความร่วมมือระดับอนุภูมิภาคและภูมิภาคด้วยเช่นกัน และฝ่ายไทยเองก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องนี้และพร้อมร่วมมือกับทุกประเทศด้วยความจริงใจและด้วยความตั้งใจ รวมถึงกับกัมพูชาในการต่อสู้กับภัยคุกคามนี้ต่อไป
ประเด็นที่สาม ในที่ประชุมวันนี้ได้หารือถึงแนวทางการบริหารผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการต่างๆเช่น มาตรการการการระงับการนำเข้าน้ำมันของกัมพูชาต่อผู้ประกอบการไทยในกัมพูชา และผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจกับฝ่ายกัมพูชา โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับประเด็นนี้ ได้ร่วมกันให้ข้อมูลชี้แจงข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก ในที่ประชุมเมื่อเช้านี้เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอาจได้บริหารสถานการณ์ต่างๆ ต่อไป
สำหรับประเด็นสุดท้าย ตามที่ได้เรียนไปเมื่อวานให้ประชาชนทราบ ขอความร่วมมืออีกครั้ง พี่น้องประชาชนชาวไทยไม่แสดงความเห็นที่อาจจะเป็นการยั่วยุหรือรุนแรงสุดโต่ง เพื่อไม่สร้างความตึงเครียดเพิ่มเติม และไม่เป็นช่องทางให้ประชาชนของทั้งสองประเทศอาจสามารถโจมตีซึ่งกันและกัน ทั้งนี้รัฐบาลไทยต้องการเห็นการแสดงออกในโลกโซเชียลโลกออนไลน์ที่สร้างสรรค์มากขึ้น ไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของอีกฝ่าย เพื่อลดอุณหภูมิความตึงเครียดและส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศที่เอื้อต่อกันหาทางออกร่วมกันของทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะระหว่างรัฐบาลที่ต้องตอบสนอง ต่อประชาชนของทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป้าหมายสำคัญของฝ่ายไทย โดยเฉพาะของกระทรวงต่างประเทศยังคงต้องการเห็นการกลับสู่โต๊ะการหารือ โต๊ะเจรจาและหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะตอบสนองต่อคำเชิญเข้าร่วมประชุม RBC ในโอกาสแรก
ด้าน รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ในด้านความมั่นคง เป็นที่ทราบกันดีอยู่อยู่แล้วว่าปัจจุบันนั้นสถานการณ์ชายแดนโดยเฉพาะในเรื่องของจุดผ่านแดนต่างๆ ที่ได้มีการยกระดับมาตรการควบคุมการผ่านเข้าออกที่เข้มงวดมากขึ้นนั้น เป็นผลจากความตั้งใจของฝ่ายไทยในการปราบปรามกระบวนการและธุรกิจอาชกรรมข้ามชาติตามแนวชายแดน ทั้งนี้ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาก็ได้เคยกล่าวถึงเจตจำนงความต้องการในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติภายในกัมพูชาด้วยเช่นเดียวกัน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชา ได้แสดงความจริงใจในการให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาตินี้ด้วย นอกเหนือจากนั้นจะเห็นได้ว่าการดำเนินการของฝ่ายไทยในทุกมาตรการที่เกี่ยวข้องได้รับการพิจารณากลั่นกรองจากวิธีการการประชุมศบ.ทก.ในทุกๆเรื่อง รวมทั้งมาตรการควบคุมด้านด่านชายแดนที่ผ่านมา โดยกองทัพก็ได้รับดำเนินการไปปฏิบัติ ออกเป็นคำสั่งควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ รวมทั้งการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศบนหลักมนุษยธรรมและมนุษยชน โดยในที่ประชุมของศบ.ทก.เองก็มีผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือในการระดมความคิด ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ด้วย
อีกประเด็นหนึ่งในเรื่องของมาตรการเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศนะ ในเรื่องของปากท้องเรื่องของการค้าและการขนส่งนั้น รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการดำเนินการมาตรการเร่งด่วนในการช่วยเหลือเยียวยาไปบางส่วนแล้ว และเร่งหารือในที่ประชุมของศบ.ทก.อย่างต่อเนื่องในการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วน ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องด้วย และวันนี้ต้องขอขอบคุณกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ประสานภาครัฐภาคเอกชน เข้ามาช่วยเหลือรับซื้อผลไม้ของเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออก ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ไม่สามารถส่งไปยังกัมพูชาได้ ในเบื้องต้นขณะนี้ก็มีการแจ้งความประสงค์รับซื้อมาแล้วกว่า 20,000 กิโลกรัมรวมทั้งก็ยังมีกลไกของจังหวัดที่ช่วยเชื่อมโยงผลผลิตจากทั่วประเทศมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการบริโภคในหลายพื้นที่ด้วย รวมประมาณ 75,000 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 4.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ทันที อย่างไรก็ตาม ก็อยากจะขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมสนับสนุนสินค้าของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดตามแนวชายแดน การสนับสนุนของทุกท่าน ถือเป็นกำลังใจ เป็นพลังที่สำคัญให้กับคนไทยทุกคน
ข่าวเวิร์คพอยท์23
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
