เขื่อนเจ้าพระยาตรึงระบายน้ำ 1,900 ลบ.ม. จับตาปลายสัปดาห์อาจขยับขึ้น
เขื่อนเจ้าพระยาตรึงระบายน้ำ 1,900 ลบ.ม. จับตาปลายสัปดาห์อาจขยับขึ้น
เขื่อนเจ้าพระยาตรึงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 1,900 ลบ.ม./วินาที ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 หลังน้ำเหนือยังสมทบมาก เตือนพื้นที่นอกคันกั้นน้ำจับตา ช่วงปลายสัปดาห์นี้อาจขยับอีก
(2 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเเจ้าพระยา กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มภาคกลาง ได้คงอัตราการระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบทั้งเหนือและท้ายเขื่อน และพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด 08.00น. วัดได้ 2,132ลบ.ม./วิ(ลูกบาศเมตรต่อวินาที) ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้คงการระบาย น้ำไว้ที่1,899 ลบ.ม./วิ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน รวมทั้งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับปริมาณน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทรงตัวล่าสุดวัดได้ 15.44 ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวในรอบ 72 ชม. ล่าสุดวัดได้ 14.19 ม.รทก.
ทั้งนี้จากการเพิ่มอัตราการระบายน้ำในเกณฑ์ 1,900 ลบ.ม./วิ ของเขื่อนเจ้าพระยา จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 5-10 เซนติเมตรใน24 ชม.ข้างหน้า จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
เพราะในช่วงปลายสัปดาห์คาดว่าจะมีปริมาณน้ำเหนือไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นไปถึง 2,300 ลบ.ม./วิ ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยามีความจำเป็นต้องปรับเกณฑ์การระบายขึ้นไปที่เกณฑ์ 2,000 ลบ.ม./วิ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้นอีกอย่างน้อย 30 เซนติเมตร