หนุ่มวิศวะเกียรตินิยมซ้อมแฟนอ่วม แฟนเก่าโผล่แฉเคยโดนเหมือนกัน
หนุ่มวิศวะเกียรตินิยมซ้อมแฟนอ่วม แฟนเก่าโผล่แฉเคยโดนเหมือนกัน

สาวแฉหนุ่มวิศวะทรงดี ดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 - ได้ทุน ป.โท แต่นิสัยสุดทน ลงไม้ลงมือซ้อมแฟนจนน่วม - แฟนเก่าที่เลิกไปนานโผล่แฉเพิ่ม ถูกทรมานจนต้องดรอปเรียน
(23 พ.ค. 68) ผู้ใช้เฟซบุ๊กซึ่งเป็นเพื่อนของนักศึกษารายหนึ่ง มหาวิทยาลัยชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการโพสต์ วีรกรรมของ นักศึกษาชาย ม.ดังเชียงใหม่ จบเกียรตินิยมอันดับ 1 ตอนนี้กำลัง ศึกษาต่อ ป.โท ได้ทุน คณะวิศวกรรมศาสตร์เข้าฟิตเนสในมอเป็นประจำ (มีไม่กี่คน) ได้ทำร้ายร่างกายเพื่อนสาวเธอจนได้รับบาดเจ็บจนเล็บฉีกขาดพร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ เหตุเพราะหึงหวง หลังเกิดเหตุก็ได้พาฝ่ายหญิงไปหาหมอที่โรงพยาบาล
หลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ใน กลุ่ม ลูกช้าง มช.จนกลายเป็นไวรัลและมีเพจดังต่างๆพากันแชร์โพสต์กังกล่าวและมีผู้ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากและถามถึงชายคนดังกล่าวบางเพจถึงกับแจกวาร์ป ทั้งรูปทั้งอินสตาแกรมของฝ่ายชายจนต้องปิดหนีไป
นอกจากนี้หนึ่งในคอมเมนต์ที่น่าสนใจนั้นเป็นโพสต์ของแฟนเก่าของผู้ชายคนนี้ ที่เคยคบกันเมื่อปี 2564 เธอได้มีการเล่าวีรกรรม พร้อมส่งรูปถ่ายที่ถูกชายคนนี้ทำร้ายมาแสดงทั้งภาพที่ถูกไม้จิ้มฟันกรีดแขนเป็นรอยลึก แขนและคอมีรอยช้ำ ปากบวมเจ่อ มาให้ชาวโซเชียลได้ดูกันด้วยของงวีรกรรมที่หนักหนาสาหัสที่ชายคนนี้ได้ทำกับเธอไว้เหมือนไม่ใช่คน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อหญิงสาวรายนี้ซึ่งเป็นผู้เสียหายและได้ขอสัมภาษณ์ โดยนางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง เธอได้เล่าว่า เธอกับหนุ่มคนดังกล่าวนั้น รู้จักกันเนื่องจากชายคนดังกล่าวเป็นรุ่นพี่ที่เรียนโรงเรียนเดิมที่จังหวัดลำพูน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็รู้จักกันธรรมดา
กระทั่งตนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้มาพบกับชายคนดังกล่าว หลังจากนั้นก็ได้คบกันมาประมาณ 4-5 เดือน ก่อนจะมาอยู่หอด้วยกัน แรกๆ ผู้ชายคนดังกล่าวนั้นก็นิสัยดี แต่เวลาทะเลาะกันหรือมีเหตุหึงหวง เหมือนเขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เป็นคนที่เวลาโมโหมีอารมณ์ รุนแรง
ตัวเธอนั้นเคยถูกทำร้ายเมื่อประมาณปลายปี 2564 โดยชายคนคนดังกล่าวได้ใช้ที่เขี่ยบุหรี่ที่เป็นกระเบื้องยัดปากเธอ และใช้ผ้าและเชือกมามัดมือมัดเท้าของเธอไม่ให้หนีโดยจะใช้ของในห้องนั้นทำร้ายเธอและตบหน้าเธอด้วย วิธีที่เขาทำร้ายนั้นก็จะเป็นการทรมาน ไม่เว้นแม้แต่ไม้จิ้มฟันเขายังใช้กรีดแขนเธอและใช้จิ้มฝ่ามือเธอจนเป็นรูด้วย
ขณะนั้นเธอเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 แต่ชายคนดังกล่าวเรียนอยู่ปีที่ 3 ประกอบกันช่วงนั้นเป็นการแพร่ระบาดของโควิด ทางมหาวิทยาลัยได้มีการเรียนการสอนออนไลน์ให้เรียนที่ห้องแทน ชายคนดังกล่าวจึงมาอยู่ด้วย
เวลาเขาโมโหทะเลาะกันเวลาขับรถชายคนดังกล่าวนั้นก็จะปล่อยเธอลงข้างทางที่เปลี่ยวๆ จนเธอต้องหาทางกลับเอง ขณะเดียวกันก็มีการกลั่นแกล้งไม่ให้เธอไปขึ้นเครื่องทันเวลาด้วย แต่ที่หนักสุดเธอทนไม่ไหวและเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่เธอต้องเลิกและหนีตายก็คือการที่ถูกไม้จิ้มฟันแทงและกรีดเป็นร่องลึกและแทงฝามือเป็นรูๆ
เมื่อเธอหนีออกมาได้เธอจึงได้เข้าไปแจ้งความที่ สภ. ภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อปี 2564 แต่เรื่องก็เงียบไปเพราะตำรวจคิดว่าเป็นเรื่องวัยรุ่นทะเลาะกัน จึงไม่ได้ติดตามเรื่องให้ หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นทำให้เธอต้องดรอปการเรียนไป 1 ปี เพราะเป็นแพนิคและป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ต้องไปพบจิตแพทย์รักษาตัวกระทั่งอาการหายดี จึงกลับมาเรียนและจบปีนี้
เมื่อเธอเห็นมีการแชร์โพสต์นี้จึงได้ทักไปหาต้นโพสต์และก็ได้ทราบว่าเป็นผู้ชายคนเดียวกันที่กระทำความรุนแรงกับเธอ ตัวเธอเองก็เลยออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์กับผู้หญิงด้วยกัน อย่าหลงตกเป็นเหยื่อชายคนนี้เพียงเพราะเขาหน้าตาดี ไม่อย่างนั้นจะถูกทำร้ายร่างกายแบบเธอและหญิงสาวที่คบปัจจุบันซึ่งเหตุการณ์ก็เพิ่งเกิดได้เพียง 2-3 วันเท่านั้น เธอเข้าใจถึงสภาพจิตใจของเหยื่อที่ถูกกระทำ เพราะตัวเองเจอมากับตัว นอกจากเธอแล้วก็ยังพบว่ามีหญิงสาวอีก 2 รายที่ตกเป็นเหยื่อของชายคนนี้ด้วย
ขณะที่แฟนสาวคนล่าสุดที่มีการโพสต์ นั้นเตือนภัยได้มีการแจ้งความไว้ที่ 2 พ.ค. แล้วแต่ฝ่ายชายได้ตามง้อขอคืนดีจึงได้กลับไปคบกันอีกรอบ กระทั่งมาเกิดเหตุซ้ำอีก จึงมีการโพสต์เตือนพร้อมภาพเล็บที่ฉีกขาด
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยชื่อดังเพื่อติดต่อทางผู้บริหาร เพื่อขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่ของคณะบอกว่าทางผู้บริหารไม่อยู่ให้ฝากเบอร์ติดต่อไว้แล้วจะติดต่อกลับ