บุกค้นวัดดังเมืองขลุง พบโพยหวยสมุดเงินกู้และห้องเช่า

บุกค้นวัดดังเมืองขลุง พบโพยหวยสมุดเงินกู้และห้องเช่า

96101 พ.ค. 68 13:53   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

บุกค้นวัดดังเมืองขลุง พบโพยหวยสมุดเงินกู้และห้องเช่า หลังชาวบ้านร้องเป็นแหล่งมั่วสุมพระกัมพูชาออกบิณฑบาตไม่รับของขอเป็นปัจจัยแทน

(1 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดจันทบุรี บูรณาการร่วม ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สำนักพระพุทธ จัดหางานจังหวัด ตรวจคนเข้าเมือง บุกเข้าค้นตรวจสอบวัดแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ตำบลตะปอน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า พระจากวัดดังกล่าวมีพฤติกรรมออกบิณฑบาต แต่ไม่อยากรับข้าวของ หรืออาหารที่ญาติโยมนำมาทำบุญ แต่ขอเป็นปัจจัยแทน และยังมีพระกัมพูชาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีบางองค์ลักลอบ ทำพิธีและ จำหน่ายวัตถุมงคล 


หลังจากการบุกเข้าตรวจค้นพบ เจ้าอาวาสวัด ให้การว่าภายในวัดของตนเองเคยมีพระกัมพูชามาอาศัยอยู่จริง แต่ปัจจุบันได้ไปหมดแล้ว มาเป็นบางครั้งชั่วครั้งชั่วคราว แต่มีจำพรรษาอยู่ปัจจุบันหนึ่งองค์ มีเอกสารถูกต้อง แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนพบว่าเอกสารเป็นเพียง พาสปอร์ตท่องเที่ยว จึงมอบหมายให้สำนักพุทธเป็นผู้ดำเนินการและส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


จากการตรวจค้นกุฎิอาศัยเพิ่มเติม ยังพบว่าพระกัมพูชามี สมุดจดหวยใต้ดิน สมุดบัญชีเงินกู้ และยังพบว่ามีสมุดการเขียนเลขประกอบกับราศีดวง และตีเป็นเลขหวยใต้ดิน เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นการนำดวงของชาวบ้านมาประกอบกับวิชา แล้วตีออกมาเป็นเลขเพื่อให้ชาวบ้านนำไปเสี่ยงโชค ส่วนโพยหวยคาดว่าพระน่าจะเป็นผู้จดส่งให้นายทุนอีกที เนื่องจากพบว่ามีงวดล่าสุด ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 น่าจะมีงวดก่อนหน้านี้ด้วย 


จากการตรวจสอบโดยบริเวณรอบของวัด พบส่วนใหญ่เป็นห้องรกร้าง สลับซับซ้อน บางห้องพบร่องรอยของวัตถุมงคลหลายอย่าง ที่ถูกทิ้งเอาไว้ มีกุฎิบางหลังพบพระพุทธรูปอยู่ในกระเป๋าสะพาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ไปแตะต้อง


ส่วนบริเวณรอบวัดยังพบการลักลอบทำเป็นห้องเช่าผิดกฎหมาย ปล่อยให้ผู้คนมาเช่าอาศัยอยู่ ในราคาห้องละ 1,500 จนถึง 2,000 บาท และที่น่าตกใจพบว่ามีชาวกัมพูชามาเช่าอาศัยอยู่ด้วย จำนวน 6 ราย สามารถควบคุมตัวไม่ได้ 2 ราย และเด็กเล็กอีก 1 ราย ส่วนที่เหลืออีก 4 ราย เดินทางไปทำงานก่อนหน้านี้ จึงมอบให้จัดหางานจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองรับดำเนินการต่อไป 


ส่วนทางด้านเจ้าอาวาส ได้ให้การปฏิเสธว่า ตนเองให้ชาวกัมพูชามาเช่าอาศัยอยู่ แต่มีเพียงชาวบ้านที่ยากจนมาเช่าอยู่ และเงินที่ได้นำมาจ่ายค่าน้ำค่าไฟภายในวัด ส่วนชาวกัมพูชานั้นตนเองไม่รู้เรื่อง 


ยังไงก็ตามเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวพระกัมพูชา 1 รูป ไปทำการสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรขลุง พร้อมกับชาวกัมพูชาที่ควบคุมตัวได้อีก 2 ราย และจะดำเนินการเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ห้องเช่า การให้ที่พักพิงต่างด้าว จนกระทั่งเรื่องของการทำห้องเช่าหรือรายได้ของวัดโดยไม่จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย 


ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฎิบัติหน้าที่มีรถอเนกประสงค์สีขาว มีคนขับเป็นหญิงลักษณะสูงวัย ขับเข้ามาพร้อมพร้อมกับตะโกนเสียงเอะอะโวยวาย มีใจความด่าทอเจ้าหน้าที่ว่าเข้ามาทำแบบนี้เสื่อมเสีย 


ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น จึงทราบชื่อหญิงคนนี้ว่า “ชื่อแม่บุญ อายุ 72 ปี” ปัจจุบันเป็นผู้ที่ดูแลวัด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมว่าวัดดังกล่าวมีพระกัมพูชาอยู่จริงหรือไม่ แม่บุญก็ให้การสอดคล้องกับเจ้าอาวาส ว่าก่อนหน้านี้เคยมีแต่ปัจจุบันได้ไปแล้ว ส่วนห้องแถวได้เก็บเป็นเงินค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟของวัด ตนเองยังรู้สึกน้อยใจเลยว่าเงินเองก็เก็บให้แต่ไม่เคยได้แม้แต่บาทเดียว เรื่องทั้งหมดเกิดจากความอิจฉาของชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ตั้งแต่ครั้งจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิต ตนเองก็ถูกกล่าวหาว่านำเงินของวัดไป และเจ้าอาวาสก็ไม่ได้แจ้งตนเองเลยด้วยซ้ำว่าได้เงินทั้งหมดกี่บาท ถึงจะไม่แจ้งก็ไม่เป็นไรแต่เจ้าอาวาสนำเงินไปพัฒนาวัดจนหมด ส่วนข้อหาที่ตนเอง มีสัมพันธ์พิเศษ สนิทสนมกับเจ้าอาวาสนั้น แม่บุญบอกว่า ตนเองติดตามพ่อมาทำบุญตั้งแต่สมัยอายุ 12 ขวบ ตั้งแต่วัดยังเป็นหลังคามุงจาก จนกระทั่งปัจจุบันตนเองช่วยดูแลวัดทำบุญกับวัด มาโดยตลอด เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริงเกิดจากความอิจฉา.. 


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat