'เดอะมูนบาร์' แจงทุกดราม่าร้อน ปฏิเสธข้อกล่าวหาข้อมูลหลุด

วันที่ 6 ม.ค. 68 ที่สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ทีมข่าวได้ติดตามความคืบหน้าจากประเด็นที่ตกเป็นข่าวตามเพจใหญ่ๆ ในโซเซียล ถึงการขุดคุ้ยเรื่องราวของสถานบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ว่า มีการถ่ายบัตรประชาชนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทุกคน เพื่อนำข้อมูลไปขายเพื่อหาผลประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงเรื่องการปิดสถานบันเทิงเกินเวลา และเรื่องยาเสพติด ซึ่งปัจจุบันได้มีประชาชนที่อาจจะเป็นผู้เสียหายจากการถูกถ่ายบัตรประชาชนเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์แล้ว จำนวนกว่า 200 ราย

ด้านเจ้าของร้านเดอะมูนบาร์ เปิดเผยว่า ทางร้านได้มีมาตราการการถ่ายบัตรประชาชน โดยได้มอบหมายให้ผู้จัดการรับผิดชอบ

1.จัดถ่ายได้ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ หากผู้ใช้บริการไม่ยินยอม ทางร้านได้กำชับผู้จัดการและพนักงาน ห้ามถ่ามรูปโดยเด็ดขาด และไม่อนุญาตให้เข้ามาใช้บริการ ภายในร้านโดยเด็ดขาด

2.การถ่ายรูป ผู้จัดการและพนักงานต้องทำด้วยความสุภาพ โดยถ่ายด้านหน้า ปิดเลขบัตรประชาชน ห้ามถ่ายด้านหลัง จากนั้นให้ถ่ายรูปใบหน้าผู้มาใช้บริการ โดยแยกจากบัตรประชาชนอย่างเด็ดขาด 

3.ได้กำชับให้ผู้จัดการและพนักงานลบข้อมูลทั้งหมด หากไม่มีเหตุที่ทางสถานีตำรวจภูธรอำเภอบางใหญ่ และอำเภอบางใหญ่ ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องมาขอข้อมูล ซึ่งกรณีดังกล่าวทางร้านได้กำชับอย่างเข้มงวด

ในการบันทึกข้อมูลดังกล่าวเป็นการบันทึกข้อมูลของผู้มาใช้บริการ โดยได้รับความยินยอมจากผู้มาใช้บริการ โดยไม่ถ่ายเลขบัตรประชาชน ไม่ถ่ายด้านหลังบัตรประชาชน และไม่ถ่ายบัตรประชาชนคู่กับใบหน้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดภายในร้าน ไม่ว่าเหตุใดก็ตาม อาทิ ทะเลาะวิวาท ลักทรัพย์ เป็นต้น

และ ช่วยป้องกันปัญหาเยาวชนที่อายุไม่ถึง 20 ปี ซึ่งได้รับข่าวสารว่า เยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี มักจะนำบัตรประชาชนของผู้อื่นมาใช้บริการ ซึ่งหากทางร้านไม่ควบคุมผู้จัดการและพนักงานให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด อาจจะมีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาใช้บริการในสถานบริการ ซึ่งกรณีดังกล่าวร้านจะต้องถูกปิดเป็นเวลา 5 ปี

จากกรณีที่มีข่าวกล่าวหาว่าร้านบังคับให้ลูกค้าถ่ายรูปพร้อมชูบัตรประชาชน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยทางร้านจะถ่ายแยกกันระหว่างภาพลูกค้าและภาพบัตรประชาชน ทั้งนี้ การถ่ายจะต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อนทุกครั้ง อีกทั้งยังมีการปิดข้อมูลสำคัญ เช่น เลขบัตรประชาชน

ขณะที่ พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาลงบันทึกประจำวัน 174 ราย และเราจะรวบรวมข้อมูลเพื่อส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPC เหตุการณ์เมื่อวานตอนแรกเราได้มีการให้ผู้เสียหายกรอกเอกสารในกระดาษ ต่อมาเราอยากช่วยอำนวยความสะดวกให้อีก 1 ช่องทาง คือการกรอกเอกสารผ่านลิงก์ แต่พอทำไปแล้วมันจะต้องแนบกับใบบันทึกประจำวัน และมีบางขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอธิบาย จึงมีภาพในลักษณะยืนรอกันเป็นจำนวนมาก ดูหนาแน่น ในส่วนนี้ต้องขออภัยด้วย ซึ่งวันนี้เราได้กลับมาใช้วิธีกรอกเอกสารในกระดาษเหมือนเดิมและง่ายขึ้น เพื่อให้การทำงานราบรื่นกว่าเดิม ยืนยันว่าไม่มีการให้ผู้เสียหายไปปริ้นท์เอกสารเอง

ส่วนคลิปที่มีการเผยแพร่ในโลกโซเชียลอยู่ตอนนี้ ตนเองก็ได้รับจากแหล่งข่าวมาเมื่อต้นปี 66 เหมือนกัน ซึ่งเราได้มีการหารือแล้วให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบในร้าน ภายใน 1-2 วัน แต่ไม่พบ จึงได้มีการตรวจปัสสาวะนักท่องเที่ยว 100 กว่าราย และตรวจค้นร้าน รวมถึงได้เรียกเจ้าของร้านเข้ามาตักเตือน และกำชับในเรื่องคลิปว่าหากตรวจสอบพบว่าเกิดขึ้นภายในร้านก็จะดำเนินการตามกฎหมาย 

โดยหลังจากนั้นได้มีการลงพื้นที่ตรวจค้นร้านเรื่อยๆมา ฝากถึงประชาชนที่เคยเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนี้ แล้วมีความกังวลว่าถูกถ่ายบัตรประชาชนไป และจะนำไปใช้ในทางทุจริต สามารถมาลงบันทึกประจำวันได้ที่สภ.บางใหญ่ ตนต้องขออภัยในความไม่สะดวกจากเหตุการณ์เมื่อวาน วันนี้เราได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่ออำนวยความสะดวกแล้ว และช่วยดำเนินการให้ราบรื่น ขอให้ทุกท่านเข้ามาลงบันทึกประจำวันเพื่อรักษาสิทธิของตัวเอง ทุกร้าน ทุกสถานบันเทิง และทุกที่ ต้องใช้กฎหมายเดียวกัน ส่วนที่บอกว่าเจ้าของร้านเป็นลูกของคนใหญ่คนโตเราไม่ได้สนใจ ยืนยันว่าเราทำงานอย่างตรงไปตรงมา - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน