โคราชเสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ประกาศงดนาปรังทั้งจังหวัด
โคราชเสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ประกาศงดนาปรังทั้งจังหวัด
โคราชเสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ประกาศงดนาปรังทั้งจังหวัด จำเป็นต้องมีการวางแผนการใช้น้ำอย่างรอบคอบ
(3 พ.ย. 67) ที่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำแชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นำคณะตรวจติดตามสถานการณ์น้ำภายในเขื่อนลำแชะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เขื่อนหลักของจังหวัดนครราชสีมา และเป็นหนึ่งในเขื่อนที่มีศักยภาพในการสำรองน้ำ เพื่อสนับสนุนระบบประปาของการประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมา และการประปาภายในเขตเทศบาลนครราชสีมา เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังจะมาถึง ภายหลังจากที่ในปีนี้ปริมาณน้ำภายในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา น้ำต้นทุนภายในแหล่งน้ำน้อยกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา จึงทำให้ต้องมีการวางแผนการจัดการน้ำล่วงหน้าอย่างรอบคอบกว่าที่ผ่านมา โดยล่าสุดปริมาณน้ำภายในเขื่อนลำแชะ อยู่ที่ 153.6 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุทั้งหมดที่ 275 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 56 ของความจุ
โดยนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ระบุว่าพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เป็น 1 ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่จะต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งประมาณ 10 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นชุมชนหนาแน่นอย่างภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และพื้นที่รอบนอก ในขณะที่ปริมาณน้ำภายในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำสำคัญอยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องมีการวางแผนการใช้น้ำอย่างรอบคอบ
ทางด้านนายสุคนธ์ เต็มยศยิ่ง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ในฐานะรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำภายแหล่งน้ำดิบทั้งเขื่อนขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่ต้องเฝ้าระวังและวางแผนการจัดการน้ำอย่างเข้มข้น โดยภาพรวมมีปริมาณน้ำอยู่ประมาณ 55 เปอร์เซ็นต์ อย่างเช่นเขื่อนลำตะคองตอนนี้มีปริมาณน้ำภายในอ่างเพียง 33 เปอร์เซ็นต์ จึงจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือให้ทางเกษตรกรทั่วทั้งจังหวัดงดการปลูกข้าวนาปรังทั้งหมด เพื่อสงวนน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคและบริโภคเป็นหลัก ควรหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน เพราะมีความเสี่ยงสูงที่ผลผลิตจะได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง