รวบบอสใหญ่แก๊งหลอกลงทุน พบเหยื่อกว่า 74 ราย ความเสียหายรวม 22 ล้านบาท
รวบบอสใหญ่แก๊งหลอกลงทุน พบเหยื่อกว่า 74 ราย ความเสียหายรวม 22 ล้านบาท

CIB รวบบอสใหญ่แก๊งหลอกลงทุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ พบเหยื่อกว่า 74 ราย ความเสียหายรวม 22 ล้านบาท
(10 เม.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.บัญชา ช่วยรอดหมด สว.กก.5 บก.ปอศ., ร.ต.อ.สุรศักดิ์ นิยมไทย รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปอศ. , ด.ต.ธนดล ภูครองตา , ด.ต.ฐณวรัตม์ ตะปินา , ด.ต.สารัตน์ พลไทย ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจสอบสวนกลาง กก.5 บก.ปอศ.ร่วมกันจับกุม นายปัณณวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี บริเวณบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 370/2561 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 นาย เอ (นามสมมุติ) กับพวกรวม 74 ราย ผู้เสียหาย ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า นายปัณณวิชญ์ฯ กับพวกรวม 5 ราย มีพฤติกรรม ในการชักชวนประชาชน จัดบรรยายตามสถานที่ต่างๆในจังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดชัยภูมิ โดยจะทำการหลอกลวงเหยื่อว่าสามารถนำเงินไปลงทุนเก็งกำไร อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยให้ผู้ลงทุนรายเก่า ไปชักชวนผู้ลงทุนรายใหม่ เพื่อนำเงินไปลงทุนเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แล้วผู้ลงทุน จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจำนวนมาก คิดเป็นผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 365-438 ต่อปี ซึ่งเป็นผลตอบแทน ที่สูงกว่าความเป็นจริง
เช่นเมื่อเหยื่อ ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท จะได้ผลตอบแทนวันละ 400 บาท เมื่อผ่านไปเป็นเวลา 100 วันทำการ เหยื่อจึงคาดว่าจะได้รับเงินทั้งสิ้น 40,000 บาท แต่ความเป็นจริงแล้ว เหยื่อกลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่กลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างแต่อย่างใด ถือเป็นการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ที่เป็นเพียงการนำเงินลงทุนของสมาชิกรายใหม่ จ่ายตอบแทนให้กับผู้ลงทุนรายเก่าเท่านั้น โดยหลอกลวงว่าเป็นผลประโยชน์ที่ได้รับจากกำไรจากการลงทุน ซึ่งไม่ได้มีอยู่จริงแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. จึงได้รวบรวม พยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา เพื่อติดตามตัวกลุ่มผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาวันที่ 9 เมษายน 2568 เจ้าหน้าตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.ได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอยู่ที่บริเวณพื้นที่ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงได้ดำเนินการติดตามตัว จนกระทั่งพบตัวผู้ต้องหา จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน