รู้หรือไม่? ยิ่งส้ม ยิ่งเสี่ยง! ลด “ชาไทย” เพื่อสุขภาพ

รู้หรือไม่? ยิ่งส้ม ยิ่งเสี่ยง! ลด “ชาไทย” เพื่อสุขภาพ

108529 เม.ย. 68 19:09   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

รู้ก่อนดื่ม! มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเปิดเผยผลทดสอบสีสังเคราะห์ในชาไทยจากร้านชาชื่อดัง 15 ร้าน พบหลายร้านปริมาณสีสังเคราะห์ Sunset Yellow FCF สูงกว่ากฎหมายกำหนด ถ้าดื่มเยอะ ดื่มทุกวัน อาจส่งผลต่อสุขภาพ

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มที่โด่งดังของไทย ชนิดที่ไม่มีที่ไหนเหมือน ก็คงหนีไม่พ้น “ชาไทย” น้ำชาสีส้มสดใส กลิ่นรสหอม-หวาน-มัน ดื่มแล้วสดชื่น เติมพลังในยามที่อากาศร้อนจัดได้เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่า “ชาไทย” หากดื่มมากไปก็อาจจะนำโทษมาสู่ร่างกายได้เช่นกัน ไม่ใช่แค่เรื่องปริมาณน้ำตาลที่สร้างความหวานมัน แต่อันตรายที่ว่ามากับสีส้มที่เป็นเอกลักษณ์ของ “ชาไทย” นั่นเอง

 

หลายคนที่เคยใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศอาจจะเคยประสบกับปัญหานี้มาบ้างว่า “ชาไทย” แบรนด์ดัง ที่ซื้อในต่างประเทศไม่ว่าจะพยายามชงสูตรไหน ก็ออกมาสีไม่เหมือนเวลาเราซื้อในประเทศไทย แต่กลับออกสีน้ำตาลตุ่นๆ แทน ซึ่งสาเหตุก็มาจากการที่ต่างประเทศห้ามไม่ให้เติมสีผสมอาหารที่ชื่อ Sunset Yellow FCF ลงในใบชาที่ส่งไปขายนั่นเอง เจ้า Sunset Yellow FCF นี่แหละที่เป็นที่มาของสีส้มน่ารับประทานใน “ชาไทย”

 

Sunset Yellow FCF หรือ สี yellow No.6 รหัสสี INS110 เป็นสีผสมอาหารชนิดหนึ่ง ตามมาตรฐานสากล โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ถือว่าสีดังกล่าวยังปลอดภัยสำหรับการใช้ในอาหารตามขีดจำกัดที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ควรมีการควบคุมการใช้และการบริโภคอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการใช้ในปริมาณที่เกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้ โดยตามกฎหมายแล้วอนุญาตให้ใส่สี Sunset Yellow FCF ได้ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม(มก./กก.)เท่านั้น

 

คณะผู้เชี่ยวชาญร่วม FAO/WHO ด้านวัตถุเจือปนอาหาร(JECFA) ได้ให้คำแนะนำไว้ว่าปริมาณของสีผสมอาหาร Sunset Yellow FCF ที่ปลอดภัยในการบริโภคในแต่ละวันอยู่ที่ 0-4 มก. ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตัวอย่างเช่น สำหรับคนที่หนัก 57 กิโลกรัม ปริมาณของสี Sunset Yellow FCF สูงสุดที่รับประทานได้ในแต่ละวันจะอยู่ที่ 228 มิลลิกรัม หรือ 0.23 กรัม เท่านั้น

 

แล้วปริมาณของสี Sunset Yellow FCF ที่เราได้จาก “ชาไทย” 1 แก้ว อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?


เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดยนิตยสาร ฉลาดซื้อ เปิดเผยผลการทดสอบ “สีในเครื่องดื่มชานมไทย” จากร้านเครื่องดื่มแบรนด์ดัง 15 แบรนด์ อย่าง ชาตรามือ (ChaTraMue) ,คาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) , ออล คาเฟ่ (All Café) ,พันธุ์ไทย (Punthai) ,อินทนิล (Inthanin Coffee), ทรู คอฟฟี่ True Coffee, Fire Tiger (เสือพ่นไฟ), อาริกาโตะ (ARIGATO), โอชายะ (Ochaya), คัดสรร (Kudsan), กาก้า (GAGA), การัน (Karun), ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน, ปังชา (Pang Cha), กูโรตีชาชัก ส่งทดสอบที่ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 17025

 

ผลการทดสอบพบว่า

  1. พบสีสังเคราะห์ ในทุกตัวอย่าง โดยเป็นสีที่อนุญาตให้ใช้กับอาหาร
  2. พบสีสังเคราะห์ ตั้งแต่ 1 – 4 สี ได้แก่ Sunset yellow FCF , Tartrazine , Ponceau 4R และ Carmoisine or Azorubine
  3. พบสีสังเคราะห์ Sunset yellow FCF ทุกตัวอย่าง ปริมาณน้อยที่สุดคือ 7.90 มก./กก. และปริมาณสุงสุดที่พบ คือ 291.41 มก./กก.
  4. เครื่องดื่มชานมไทย ที่พบ สีสังเคราะห์ Sunset yellow FCF สูง 3 อันดับแรกคือ 1.ทรู คอฟฟี่   ปริมาณ 291.41 มก./กก. 2.กูโรตีชาชัก ปริมาณ 250.20 มก./กก.3.ปังชา ปริมาณ 222.26 มก./กก.

(ผลการทดสอบยี่ห้ออื่นๆ ตรวจสอบได้ที่นี่)


ทั้งนี้ กฎหมายไทยกำหนดปริมาณสีสังเคราะห์ที่ใส่ในชาปรุงแต่งต้องไม่เกิน 100 มก./กก. หมายความว่าบางตัวอย่างมีปริมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และแม้ว่าสี Sunset Yellow FCF จะเป็นสีผสมอาหารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ แต่หากเรารับประทานมากเกินกว่าปริมาณแนะนำก็อาจนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ ได้

 

ดร. แก้ว กังสดาลอำไพ ที่ปรึกษานิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ชี้ว่า “ไม่มีคำว่าปลอดภัยในทางพิษวิทยาของสารเคมีที่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ มีแต่คำว่า เสี่ยง กล่าวคือ เสี่ยงมากหรือเสี่ยงน้อย ซึ่งใช้ในการประเมินด้วยตนเองว่า ยอมรับได้หรือไม่ที่จะเสี่ยงกินสารเจือปนที่ไม่ใช่สารอาหาร” และได้ให้ข้อแนะนำสำหรับการเลือกชาปรุงสำเร็จในภาชนะบรรจุ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 3 ข้อ คือ 1. เลือกสินค้าที่มีเลข อย. 2. อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ กรณีที่มีการใช้สีจะแสดงคำว่า “สีสังเคราะห์ หรือสีธรรมชาติ (INS…หรือ ชื่อของสี) และ 3. เลือกเครื่องดื่มที่หลากหลายเพื่อลดการได้รับสีผสมอาหารชนิดเดิมบ่อยๆ

 

นิตยสารฉลาดซื้อ มี5 คำแนะนำถึงคอ “ชาไทย” ดังนี้

  1. บริโภคถ้วยขนาดเล็กก็เพียงพอเมื่อซื้อดื่ม ถ้าทำได้คือ ชงดื่มเอง ให้เลือกเฉพาะไม่มีสีผสมอาหารสังเคราะห์
  2. ไม่ดื่มบ่อยเกินไป
  3. เลือกหวานน้อย เพื่อให้เป็นไปตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขคือ ลดความหวาน
  4. ไม่แนะนำให้เด็กดื่ม เพราะเด็กมีระบบการขับออกของสารแปลกปลอมที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์
  5. ให้ตระหนักว่า ถ้ามีการใช้สีมากกว่า 1 ชนิดขึ้นไป โอกาสที่สีจะมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันย่อมเกิดขึ้นได้ และยากที่จะทำนายว่า ผลนั้นเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคหรือไม่ เนื่องจากในการประเมินความเป็นพิษของสารเคมีนั้น เป็นการประเมินสารเดี่ยว ไม่เคยมีการประเมินสารที่เป็นของผสม


ที่มา:

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง