เจอแล้ว! สร้อยข้อมือทองคำของเหยื่อบัสมรณะที่ญาติตามหา

เจอแล้ว! สร้อยข้อมือทองคำของเหยื่อบัสมรณะที่ญาติตามหา

240227 ก.พ. 68 11:35   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เจอแล้ว! สร้อยข้อมือทองคำของเหยื่อบัสมรณะที่ญาติตามหา โดยตำรวจค้นเจอภายในรถทัวร์ที่เกิดเหตุ

(27 ก.พ. 68) จากกรณีที่เมื่อวานนี้ทางญาติของผู้เสียชีวิต นางพิมพกานต์ อายุ 57 ชาวตำบลพรเจริญจังหวัดบึงกาฬ ผู้เสียชีวิตจากกรณีรถทัวร์พลิกคว่ำ ว่าทรัพย์สินของนางพิมพกานต์นั้นหายไป โดยเฉพาะ สร้อยคอทองคำ


ทำให้ช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการค้นหาอีกครั้งจนกระทั่งพบกระเป๋าดังกล่าวที่แจ้งว่าสูญหายภายในกระเป๋าพบข้าวของมีค่า สร้อยข้อมือทองคำจำนวน 1 เส้น น้ำหนักประมาณ 1 บาทเงินสดธนบัตร รวมแล้ว 1,370 บาทธนบัตรต่างประเทศ จีน และฟิลิปปินส์ฉบับโทรศัพท์มือถือ OPPO จำนวน 1 เครื่องบัตรกดเงินสดจำนวน บัตรเครดิตต่างๆ


โดยพ.ต.อ.โสภณ พรามณี ผู้กำกับการ สภ.วังขอนแดง เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุโศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ ขณะนี้ สภ.วังขอนแดง เบื้องต้นได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทั้งในด้านการติดตามทรัพย์สินและการให้บริการต่างๆ


ก่อนหน้านี้ มีญาติของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งได้แจ้งว่าทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตสูญหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสั่งการให้เร่งรัดการค้นหาทรัพย์สินที่หายไป ตำรวจได้กั้นพื้นที่เกิดเหตุและจัดเวรยามเฝ้าระวัง กระทั่งเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 08.30 น. ได้ประสานนำรถเครนมายกส่วนหลังคารถบัสออก เพื่อเข้าตรวจสอบภายในรถอีกครั้ง


จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบกระเป๋าของผู้เสียชีวิตที่ญาติประกาศตามหา ภายในมีบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต ทองรูปพรรณ และโทรศัพท์มือถือ เมื่อตำรวจนำไปให้ลูกสาวของผู้เสียชีวิตตรวจสอบ ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของแม่ที่สูญหายไป นอกจากนี้ ลูกสาวยังยืนยันว่าแหวนเพชรที่หายไปก่อนหน้านี้ ถูกพบอยู่บนนิ้วของแม่ในขณะที่รดน้ำศพ ส่งผลให้ขณะนี้ทรัพย์สินที่สูญหายได้รับการตรวจสอบพบครบถ้วน และไม่มีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับน้ำหนักทองที่เคยแจ้งว่าหายไปประมาณ 8-10 บาท


ด้านความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อคนขับรถทัวร์ ในข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมถึงทำให้ทรัพย์สินเสียหาย” จากการสอบปากคำเบื้องต้น พบว่าสาเหตุเกิดจากระบบเบรกของรถมีปัญหา ส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการแจ้งข้อหากับคนขับเพียงรายเดียว ส่วนเจ้าของรถหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างการสอบสวน หากพบว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำผิดเพิ่มเติม จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

 

นอกจากนี้การตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุพบว่า รถบัสคันดังกล่าวมีการขับขี่เป็นปกติ ไม่พบพฤติกรรมการขับส่ายไปมาแต่อย่างใด

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง