16 บอส 'ดิไอคอน' ยืนกรานแถลงให้การปฏิเสธทุกข้อหา

9 ม.ค.68 เวลา 08.30 น. ศาลอาญามีคำสั่งเบิกตัว 16 ผู้ต้องหา จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และ ทัณฑสถานหญิงกลาง เดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดา เพื่อ สอบคำให้การ คดีหมายเลขดำ อทย14/2568 คดีระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ1 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนกับพวก รวม 17 คน (16 บอส 1 นิตบุคคล) ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันประกอบธุรกิจชายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต 

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความ เปิดเผยว่า ขั้นตอนวันนี้ศาลฯ นัดมาอ่านคำฟ้องให้จำเลยฟัง หลังอัยการพิเศษสั่งฟ้องไปเมื่อวาน ซึ่งวันนี้ศาลจะถามว่าจำเลยให้การรับสารภาพ หรือ ปฏิเสธ ข้อกล่าวหา หากรับสารภาพคดีก็จะพิจารณา หากปฏิเสธก็จะนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานเพิ่ม คาดว่าจะเป็นช่วงเดือน มี.ค. - เม.ย. ซึ่งวันนี้จำเลยทุกคนจะให้การไปในแนวทางเดียวกัน คือ “ปฏิเสธข้อกล่าวหาก่อน” ส่วนเหตุผลการปฏิเสธจะมีการยื่นโดยละเอียดในวันที่ศาลนัดสอบคำให้การ ซึ่งจะมีการประชุมกับทีมอีกครั้ง และขณะนี้อยู่ระหว่างคัดรายชื่อผู้แจ้งความ ว่าคนแจ้งความบอสคนใดบ้าง แต่ละคนมีจำนวนผู้แจ้งความเท่าไหร่ โดยทีมจะทำงานให้ละเอียด ทั้งพยานหลักฐานและเอกสารที่ต้องเตรียมไว้หลังจากนี้ เช่น พยานตัวแทนขายสินค้าบางส่วน ,พยานที่เป็นหมอที่มาดูแลเรื่องการพัฒนาสินค้าของบริษัท, พยานที่เป็นบริษัททำการตลาด 

ส่วนวานนี้ อัยการฯ มีคำสั่งไม่ฟ้อง มิน พีชญา และ แซม ยุรนันท์ ตนเองดีใจมาก เพราะบริษัทไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ขายสินค้าถูกกฎหมายมี อย. การที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง 2 คน มองว่าเป็นความกล้าหาญที่ท่านยึดถือความยุติธรรมเป็นหลัก ส่วนผู้ที่ถูกฟ้องก็จะมีการต่อสู้คดีต่อไป แต่สิ่งที่ตนเองอยากตั้งคำถาม คือที่ผ่านมา ตั้งแต่จับกุมตัวทั้งหมด จับมินและแซม มีการค้านประกันตัว และท้ายสุดอัยการสั่งไม่ฟ้อง จะรับผิดชอบชีวิตพวกเขาอย่างไร หน่วยงานรัฐต้องหาคำตอบว่าที่ผ่านมา ทำงานตามกระแสสังคมหรือไม่ ส่วนที่อัยการสั่งไม่ฟ้องก็ถือว่าเป็นประโยชน์ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะสู้คดีอย่างไร ไม่ปรับแผนการสู้ สู้เหมือนเดิมตามที่สู้มา และจะวางแผนในเรื่องการประกันตัวด้วย

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากอธิบดีดีเอสไอเห็นแย้งคำสั่งฟ้องดังกล่าว ทนายวิฑูรย์มองว่า การที่อัยการสังไม่ฟ้อง แสดงว่าไม่มีหลักฐานถึงทั้งคู่ ต่อให้ดีเอสไอแย้งตนเองก็ไม่กังวลกับทั่งคู่ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการหารือกัน เพราะแซมและมินจะมีทนายอีกชุดที่คอยดูด้วย ตนมองว่าจับขังและให้สิทธิ์ประกันตัวเป็นเรื่องที่รับได้ แต่ค้านประกันทุกอย่าง ทำให้ไม่สามารถชี้แจ้งอะไรได้เลย

ส่วนข่าวการข่มขู่พยาน ตนเองยืนยันไม่ได้บังคับใครไปถอนแจ้งความ การข่มขู่นั้นขู่ใช้สิทธิตามกฎหมายกับผู้แจ้งความเท็จ สามารถทำได้ตามกฎหมาย ไม่ใช่การข่มขู่ตามความผิดตามกฎหมายอาญา ส่วนการยื่นสภาทนายความฯ ถอดถอนตนเอง ก็มองว่าเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตหรือไม่ เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ ซึ่งจะให้ทนายความของตนตรวจสอบ และดำเนินคดีต่อผู้ร้องเรียนตนเองทุกคน เชื่อว่าสภาทนายความคงไม่นำเรื่องไร้สาระมานั่งพิจารณา 

 เวลา 13.00 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์ เพื่อสอบคำให้การจำเลยทั้งหมด โดยอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟัง แล้วสอบถามว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าจำเลยทั้งหมดแถลงให้การปฏิเสธ และขอต่อสู้คดี ดังนั้นศาลจึงนัดพร้อมคู่ความทั้งสองฝ่าย เพื่อตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 09.00 น.

โดยรายงานข่าวระบุว่า “บอสวิน” หรือ นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ จำเลยที่ 10 ที่ป่วยเป็นมะเร็ง ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว และอยู่ระหว่างศาลกำลังพิจารณาคำร้อง

ขณะที่ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอลและดิไอคอนกรุ๊ป ได้ขับรถออกจากศาลอาญาไปทันที ภายหลังศาลสอบคำให้การแล้วเสร็จ ทีมข่าวจึงโทรศัพท์ไปสอบถามว่ารายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง ทนายวิฑูรย์ ตอบว่า 

"จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อหา หลังจากนี้ศาลจึงจะนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ต่อไป เพื่อให้ศาลได้เห็นข้อเท็จจริงทั้งสองอย่าง"

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับบอสพอล และบอสกันย์ แล้วเป็นอย่างไรบ้าง ทนายวิฑูรย์ บอกว่า "ก็ปกติ สบายๆ ทุกคนก็พูดคุยได้ดี ไม่ได้มีอะไร" ส่วนเมื่อถามว่า ได้พูดคุยถึงเรื่องการปล่อยตัวบอสแซมและบอสมินหรือไม่ ทนายวิฑูรย์ ตอบว่า "เขาก็ดีใจด้วย ก็ดีที่ได้ปล่อยตัว"

จากนั้นเวลา 13.30 น. รถควบคุมผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้คุมตัวเหล่าบรรดาบอสกลับไปคุมขังที่เรือนจำฯ - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน