หวั่นซ้ำรอยตึก สตง. ทีมวิศวกร มทส. และ มทร.อีสาน ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารเรียนสูง ช็อกพบรอยร้าวลึกอันตรายรอยต่อคานกับเสาจากแผ่นดินไหวเมียนมา

หวั่นซ้ำรอยตึก สตง. ทีมวิศวกร มทส. และ มทร.อีสาน ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารเรียนสูง ช็อกพบรอยร้าวลึกอันตรายรอยต่อคานกับเสาจากแผ่นดินไหวเมียนมา

78703 เม.ย. 68 20:12   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

หวั่นซ้ำรอยตึก สตง. ทีมวิศวกร มทส. และ มทร.อีสาน ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารเรียนสูง ช็อกพบรอยร้าวลึกอันตรายรอยต่อคานกับเสาจากแผ่นดินไหวเมียนมา โรงเรียนงดใช้อาคารเพื่อเร่งปรับปรุงโครงสร้างให้แล้วเสร็จก่อนเปิดเทอม

(3 เม.ย.68) ศาสตราจารย์ ดร.สุขสันติ์ หอพิบูลสุข หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืน และประธานหลักสูตรวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างพื้นฐาน สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) จ.นครราชสีมา พร้อมคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา และทีมวิศวกรด้านโครงสร้างอาคารสูง ได้ลงพื้นที่สำรวจอาคารสูง ของโรงเรียน ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ภายหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว อาจจะสร้างผลกระทบต่ออาคารสูงต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา โดยได้รับการประสานงานจาก ดร.วิเชียร ทองคลี่ ผู้อำนวยการโรงเรียนให้มาตรวจสอบอาคารเรียนสูง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับครู นักเรียน และผู้ปกครอง ก่อนถึงช่วงเปิดเทอมเดือนพฤษภาคม 2568 ที่จะถึงนี้


ซึ่งคณะสำรวจได้ทำการตรวจอาคาร 2 หลัง ของโรงเรียน ได้แก่ อาคาร 4 และอาคาร 5 โดยอาคาร 4 เป็นอาคารเรียน มีความสูงทั้งหมด 9 ชั้น สร้างมานานกว่า 20 ปี จากผลการสำรวจโครงสร้างอาคารไม่พบรอยร้าวแต่อย่างใด เนื่องจากโครงสร้างของอาคาร มีการวางแบบคานรับน้ำหนักไว้สำหรับติดตั้งลิฟต์ขึ้น-ลง หลายจุด จึงทำให้มีความแข็งแรง สามารถต้านทานการสั่นไหวของเหตุแผ่นดินไหวครั้งที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี


ส่วนอาคาร 5 ซึ่งเป็นอาคารสูง 4 ชั้น สร้างมาเมื่อปี 2565 จากการตรวจสอบกลับพบรอยร้าวของคานรับน้ำหนักบริเวณเสาอาคาร ทุกคาน ทีมงานตรวจสอบจึงได้ทำการเจาะแผ่นปูนฉาบ เพื่อตรวจสอบดูเนื้อปูนด้านใน พบว่ารอยร้าวทุกจุด แตกลึกทะลุไปอีกด้านของคานอย่างชัดเจน


โดย ศาสตราจารย์ ดร.สุขสันติ์ฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น อาคารแรก คืออาคารเรียนความสูง 9 ชั้น ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด เนื่องจากโครงสร้างของอาคารมีการออกแบบไว้ดีมาก แม้จะสร้างมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่โครงสร้างแข็งแรงอย่างมากจนต้องขอชื่นชม ส่วนอาคารที่ 2 ที่ตรวจสอบ ซึ่งเป็นอาคารเรียนสูง 4 ชั้น กลับพบรอยร้าวหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจุดต่อระหว่างคานกับเสาอาคาร จะพบรอยร้าวทุกจุด ซึ่งเป็นความเสียหายที่เกิดจากแรงเฉื่อยหรือการถูกแรงบิดของแผ่นดินไหว จนกลายเป็นรอยร้าวลักษณะเหมือนการเฉือนเฉียงๆ ทางทีมงานจึงใช้เครื่องเจียร เจาะเปิดหน้าปูนฉาบออก ก็พบว่ารอยร้าวทะลุไปอีกฝั่งของคานทุกจุด ซึ่งถือว่าเป็นความรุนแรงในระดับน่าเป็นห่วง แต่โชคดีที่เป็นช่วงปิดเทอม จึงไม่มีนักเรียนขึ้นมาเรียน แต่หากช่วงเปิดเทอม ถ้ามีนักเรียนขึ้นมาบนอาคารจำนวนมาก การรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากก็อาจจะส่งผลให้รอยร้าวขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งจะเป็นอันตรายมาก ส่วนวิธีแก้ไขก็ต้องมาประเมินด้านวิศวกรรมอีกครั้ง โดยทีมตรวจสอบจะเร่งสรุปผลการตรวจสอบ และประเมินวิธีแก้ไข ส่งให้ทางโรงเรียนพิจารณาดำเนินการต่อไป


ด้าน ดร.วิเชียร ทองคลี่ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า ภายหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเราเน้นด้านความปลอดภัยเป็นหลัก จึงได้เร่งประสานงานให้ทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอาคารสูงของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เข้ามาตรวจสอบอาคารเรียนสูง ซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบและสรุปผลออกมาแล้ว ทางโรงเรียนก็จะเร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขจุดที่เสี่ยงทั้งหมด ให้แล้วเสร็จก่อนถึงช่วงเปิดเทอมนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ครู นักเรียน และผู้ปกครองทุกคน.


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat