"มาดามอ้อย" พร้อมทนาย ยื่น ปปง. ขอคุ้มครองสิทธิ์ คดี"ทนายตั้มกับพวก"ฉ้อโกง 71 ล้าน

"มาดามอ้อย" พร้อมทนาย ยื่น ปปง. ขอคุ้มครองสิทธิ์ คดี"ทนายตั้มกับพวก"ฉ้อโกง 71 ล้าน

22809 ม.ค. 68 16:38   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

"มาดามอ้อย" พร้อมทนาย ยื่น ปปง. ขอคุ้มครองสิทธิ์ คดี"ทนายตั้มกับพวก"ฉ้อโกง 71 ล้าน ยันดำเนินคดีสุดซอยไม่มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยแน่นอน

(9 ม.ค.68) นางจตุพร อุบลเลิศ หรือ มาดามอ้อย พร้อมด้วย นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความ และขาส่วนตัว เดินทางไปยื่นคุ้มครองสิทธิ์ในฐานะผู้เสียหายคดีฉ้อโกงกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือ ปปง. เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับคณะทำงานสำนักงานการสอบสวน อัยการสูงสุด คดีที่มีการกล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พร้อมพวก ในความผิดฐาน ฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงิน และ ความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง 


มาดามอ้อย กล่าวว่า รู้สึกมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ และสบายใจเรื่องคดีมากขึ้น ไม่มีความเครียดใดๆ แต่ยังคงยืนยันว่า จะดำเนินคดีสุดซอยไม่มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยแน่นอน เพราะให้โอกาสตั้งแต่ยื่น Notice ไปก่อนหน้านี้แล้ว 


พร้อมระบุ พอเกิดเหตุการณ์ฉ้อโกงครั้งนี้ ตัวเองระวังตัวมากขึ้น ตอนนี้ทำธุรกิจเฉพาะกับครอบครัวเท่านั้น ขณะที่หลังจากนี้จะอยู่ประเทศไทยต่ออีกสองเดือน เนื่องจากได้รับการประสานจากตำรวจสอบสวนกลางว่าอาจเรียกสอบเพิ่มเติมภายในเดือนมกราคมนี้ รวมถึงอยากรอดูจนกว่าจะเข้าสู่ชั้นศาลด้วย


ด้านทนายสมชาติ บอกว่า การยื่นขอคุ้มครองสิทธิ์ ครั้งนี้เป็นยอดเงินคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาท ส่วนจะสามารถได้เงินคืนครบจำนวนหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ทาง ปปง. ยึดอายัดทรัพย์สิน โดยมองว่าได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น นอกจากจำนวนเงิน 71 ล้าน ยอดเงินอื่นอย่าง 39 ล้าน เงินซื้อรถเบนซ์กว่า 11ล้าน และ เงินค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้าน ก็อาจจะมีการมายื่นขอคุ้มครองสิทธิ์ในภายหลัง 


ส่วนของคดีอาญาในขณะนี้ก็ทำงานคู่ขนานกันไป อย่างก่อนหน้านี้ เจ๊อ้อยกับเลขาก็ได้ไปให้ปากคำเพิ่มเติม กับอัยการ สำนักงานการสอบสวนฯประเด็นที่เกี่ยวกับความผิดนอกราชอาณาจักร ทั้งเรื่องเส้นเงิน และการทำสัญญาต่างๆ ส่วนหลังจากนี้ทางฝั่งของทนายตั้ม อยากขอขมาเจ๊อ้อยได้หรือไม่ กล่าวว่า ส่วนนี้อยู่ที่สามัญสำนึกของตัวทนายตั้มเอง คงไม่สามารถไปก้าวล่วงได้


ด้าน น.ส.สุปราณี สถิตชัยเจริญ ผู้อำนวยกองความร่วมมือและพัฒนามาตรฐาน ในฐานะรองโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. เป็นผู้รับรับเรื่อง โดยบอกว่า หลังจากได้รับเอกสารเรื่องการขอคุ้มครองสิทธิ์เรียบร้อยแล้วทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมข้อมูลเสนอต่ออัยการ เพื่อให้สั่งฟ้องต่อไป ซึ่งตามขั้นตอนการที่ผู้เสียหาย จะได้เงินคืนจะต้องรอให้กระบวนการทางศาลเสร็จสิ้น 


สำหรับทรัพย์สินที่สามารถยึดอายัดจากทนายตั้ม ทางคณะกรรมการธุรกรรม มีมติยึดอายัดไปเมื่อเดือนธันวาคม มีทั้งเส้น 3รายการ คือบ้านหรู 1รายการ และเงินในบัญชีอีก 2รายการ รวมมูลค่าประมาณ 71 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ก็อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบยึดอายัดเพิ่มเติมต่อไป


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง