ผอ.สตง.นครนายก วอนเห็นใจสร้างตึกใหม่ล่าช้า เพราะถูกทิ้งงาน 2 รอบ

(3 เม.ย.68) ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ เดินทางไปยังสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครนายก พบว่าตั้งอยู่ที่ชั้นสองของอาคารสาธารณสุขจังหวัด (หลังเก่า) บริเวณศาลากลางจังหวัดนครนายก

โดยทีมข่าวได้รับการชี้แจงจากนางปาริชาติ ผิวผ่อง ผอ.สำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครนายก ว่าหลังจากแยกตัวมาจาก สตง.ภูมิภาคที่ 1 ได้ประมาณ 10 ปี ก็ยังไม่มีอาคารสำนักงานเฉพาะเป็นของตัวเอง โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก รพ.นครนายก ให้ใช้พื้นที่ชั้นสองของอาคารหลังนี้มาจนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งทำเรื่องของบไปยังสำนักงบประมาณ และได้รับการอนุมัติโครงการก่อสร้างสำนักงานของตัวเองขึ้นในปี 2563 ภายใต้งบประมาณ 62 ล้านบาท

ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ภูมิภาคที่ 1 จ.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะต้นสังกัดได้ทำการเปิดประกวดราคาแบบ E-bidding และได้บริษัท ศุภญา วิศวกรรม จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล ด้วยราคา 53 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่างบที่ตั้งไว้เกือบ 10 ล้าน แต่ปรากฏว่าทำได้เพียงไม่นาน กลับทิ้งงานและหยุดงานไปดื้อๆ จนปลายปี 2564 ซึ่งได้เบิกเงินไปแล้ว 1.8 ล้านบาท ทาง สตง.ตัดสินใจยกเลิกสัญญา เพราะผิดเงื่อนไข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการฟ้องคดีทางแพ่งกับผู้รับเหมารายนี้ 

ต่อมาใน เดือนมิถุนายน 2565 บริษัทยูเนี่ยนแปลน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทย ได้เข้ามารับงานต่อเป็นรายที่ 2 หลังชนะการประกวดราคามาเหมือนเดิม (E-Bidding) และเบิกเงินไปเป็นจำนวน 35 ล้านบาท จนสามารถขึ้นรูปทรงอาคารได้สำรวจและถือว่าคืบหน้าไปมาก แต่สุดท้ายในช่วงเดือน ม.ค.2567 ทางผู้รับเหมาส่งเอกสารมายัง สตง.ว่าบริษัทประสบภาวะขาดสภาพคล่อง และไม่สามารถเข้ามาทำงานต่อไปได้ ทำให้ สตง.ต้องบอกเลิกสัญญาเป็นรายที่ 2 

ก่อนที่สุดท้าย บริษัทนครสวรรค์เจริญภัณฑ์ คอนสตรัคชั่น จำกัด จะขอมารับช่วงต่อ ผ่านวิธีการที่ สตง.ส่งหนังสือถึงผู้รับเหมา 8 รายให้มาเสนอราคากัน ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้เสนอราคาการก่อสร้างอยู่ที่ 29.5 ล้านบาท และมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤษภาคม 2568

ทาง ผอ.สตง.นครนายก ยืนยันว่าทั้งสามบริษัทนี้เป็นของคนไทย ซึ่งสองเจ้าแรกอยู่ระหว่างการฟ้องทางแพ่งอยู่ในขณะนี้ 

นอกจากนี้ทีมข่าวยังสังเกตเห็นว่าระหว่างที่พูดคุยอยู่นั้น สภาพห้องทำงานของ ผอ.ในปัจจุบันมีลักษณะรอยร้าว ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงแผ่นดินไหวที่ผ่านมา ทางตัว ผอ.เองก็ยอมรับว่าถึงแม้สภาพห้องทำงานเป็นแบบนี้ แต่ก็ต้องอยู่ทำงานกันไปก่อนจนกว่าอาคารใหม่จะสร้างเสร็จ พร้อมขอให้สังคมเห็นใจ เนื่องจากนับแต่มีข่าวเผยแพร่ออกมา ถูกประชาชนจำนวนมากโทรมาต่อว่า โดยที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ซึ่ง จนท.ทุกคนรู้สึกลำบากใจอย่างมาก