ไต๋เรือประมงไทยเล่านาทีเรือรบเมียนมาสาดกระสุนใส่
ไต๋เรือประมงไทยเล่านาทีเรือรบเมียนมาสาดกระสุนใส่
เรือประมงไทยถูก 3 เรือรบเมียนมากราดยิงใส่ขณะทำประมงในพื้นที่ทับซ้อน ลูกเรือเสียชีวิต 1 ราย ยึดเรือพร้อมลูกเรือ 2 ลำ
3 เรือรบทหารเมียนมา จากจังหวัดเกาะสอง เข้ากราดยิงใส่ กลุ่มเรือประมงไทย ร่วม 50 ลำ ขณะวางอวนล้อมจับปลา ในน่านน้ำไทย ห่างไปทางทิศตะวันตกของเกาะพยาม ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ต่างเร่งหนีตาย แล่นเข้าหลบภัยที่เกาะพยาม ส่วนเรือประมงไทย 2 ลำ ถูกจับและชักลากกลับเข้าน่านน้ำเมียนมา ลูกเรือโดดน้ำหนีตาย สำลักน้ำเสียชีวิต 1 ราย และอีก 1 ลำ ไต๋เรือขับหนีรอดหวุดหวิด แต่ถูกระดมยิงใส่เก๋งเรือพรุน ตัวเองถูกกระสุนยิงถากกะโหลกศีรษะ ขอความช่วยเหลือจาก ศรชล.ระนอง ก่อนประสาน 2 เรือตรวจการณ์ไทย เข้าช่วยพร้อมรับไต๋เรือไทย และลูกเรือประมงชาวเมียนมา 1 ราย ที่ถูกไฟฟ้าเรือช็อต ขณะหลบห่ากระสุน กลับเข้าเทียบท่าเรือน้ำลึกระนอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ลาดตระเวนเข้มน่านน้ำระนอง คุ้มครองเรือประมงไทย
- “ภูมิธรรม” เชื่อเหตุเมียนมายิงประมงไทย ไม่ลุกลามขัดแย้งระหว่างประเทศ
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา 00.30 น. กลางดึกที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดระนอง หรือ ศรชล.ระนอง ได้รับแจ้งเหตุกลุ่มเรือประมงอวนดำ จำนวนร่วม 50 ลำ ขณะเปิดไฟและวางอวนล้อม อยู่ในน่านน้ำไทย ห่างจาก เกาะพยาม ด้านทิศตะวันตกประมาณ 5 ไมล์ทะเล ได้ถูก 3 เรือรบทหารเมียนมา กราดกระสุนเข้าใส่ ขณะแล่นเข้าหาเพื่อทำการยึดเรือประมงไทย กลุ่มเรือประมงทั้งหมดที่อยู่ในละแวกต่างตัดอวนดำทิ้งและแล่นหนีตาย เร่งเครื่องอย่างไม่คิดชีวิต วิ่งเข้าเกาะพยามที่มีเรือตรวจการณ์ไทยลอยลำอยู่ จึงประสานงานให้ เรือ ต.274 และเรือ ต.993 เข้าทำการสกัดกั้น และให้การช่วยเหลือทันที
โดยเรือประมงไทย 2 ลำ คือ เรือ ดวงทวีผล333 และ เรือ ส.เจริญชัย8 หนี 2 เรือรบทหารเมียนมาไม่ทัน จำเป็นต้องสละเรือทิ้ง ไต๋เรือและลูกเรือกระโดดน้ำลงทะเลหนีตายทั้งหมด ก่อนเรือประมงในกลุ่มเข้าช่วยได้ทั้งหมด เรือรบทหารเมียนมาได้ทำการยึดเรือและชักลากกลับไปในน่านน้ำเมียนมา ฝั่งจังหวัดเกาะสอง
ส่วนเรือประมงอีกลำ คือ เรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ถูกเรือรบทหารเมียนมาลำที่ 3 เข้าไล่จับ และสาดกระสุนใส่ตัวเก๋ง ห้องบังคับเรืออย่างหนักไต๋เรือ วัย 47 อาศัยประสบการณ์ บังคับเรือตีวงล้อม ฝ่าห่ากระสุนที่ถูกยิงใส่ราวสายฝน โดยตัวเองถูกยิงเฉียดกะโหลกศีรษะ หนังศีรษะเปิด เลือดอาบเต็มหน้า แต่กัดฟันหนีตายกลับเข้าเกาะมาได้ ก่อนเรือ ต.274 เข้ารับตัวระหว่างทาง พร้อมลูกเรืออีกรายที่ถูกกระแสไฟฟ้าเรือ ช็อตเข้าที่มือ ขณะหนีหลบภัยลงห้องเครื่องใต้ท้องเรือ
โดยเมื่อเวลา 02.40 น. หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ พร้อมหน่วยกู้ชีพ รพ.ระนอง ได้รับการประสานจาก ศรชล.ระนอง ให้มารับตัวผู้บาดเจ็บ จำนวน 2 ราย ที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง จึงส่งรถพยาบาลฉุกเฉินจำนวน 2 ลำ เข้าทำการรับตัวผู้บาดเจ็บทันที และมีหน่วยงานจาก ทหารเรือ ทัพภาค 3 ทั้งศรชลระนอง และ ศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเล ไทย-เมียนมา (ศปชล.ทม.)
จนเมื่อเวลา 03.30 น. เรือ ต.274 ได้เข้าเทียบฝั่งที่ท่าเรือน้ำลึก ก่อนอาสาสมัครกู้ภัย นำบอร์ดกระดานหรือเปล ลงไปรับผู้บาดเจ็บรายแรก คือ ลูกเรือชาวเมียนมา ที่ถูกกระแสไฟฟ้าช๊อต ขึ้นมาจากเรือตรวจการณ์ ส่วนอีกรายคือ นาย ศรีเพ็ชร อายุ 47 ปี ไต๋เรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 มีผ้าก๊อตม้วนพันรอบศีรษะ สามารถเดินเองได้ แต่เลือดแห้งกรัง เปรอะเต็มใบหน้า ได้เปิดเผยว่า ตนถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณศีรษะ พอโดนยิงตนเองไม่กล้าเปิดแผลหนังศีรษะออกดู เพราะเลือดออกมาก พร้อมเปิดเผยว่า
ขณะถูกไล่จับ เรือตนถูกเปิดฉากยิงเข้าใส่อย่างเดียวและยังมีเรือรบทหารเมียนมาอีก 2 ลำ ที่เข้าจับเรือประมงไทยทางด้านเหนือ มาทั้งหมดรวม 3 ลำ ผมทำงานอยู่ด้านใต้ มีเรือควบเข้ามา ทีแรกนึกว่าเรืออวนดำด้วยกัน ผมก็วิ่งเรื่อยๆ พอรู้ว่าเป็นเรือรบ ผมก็อัดเครื่องใส่หมดเลย ไม่ยอมให้มันเทียบ แล้วขับเรือหมุน มันก็ยังยิงเข้าใส่ดัง ปัง ปัง ซึ่งเป็นเรือรบขนาดเท่าเรือตรวจการณ์ไทย โดยบาดแผลที่ถูกยิงศีรษะ ผมไม่กล้าเปิดดู ขณะถูกไล่ยิง ผมไม่กล้าโผล่ศีรษะมาหน้าต่างเก๋ง เพราะหัวจะขาดแน่ มันยิงเข้าผมอย่างเดียวเลย ยิงมาที่แป้นที่เก๋งเรือที่ผมบังคับเรือ ส่วนลูกเรือไม่เป็นไร
โดยลูกเรือประมงสัญชาติเมียนมาอีกคนที่ถูกไฟฟ้าช็อต ขณะขึ้นไปปฐมพยาบาลบนรถพยาบาลฉุกเฉิน เริ่มรู้สึกตัวดี สามารถตอบสนองคำถามจาก จนท.การแพทย์ฉุกเฉินได้ เมื่อถูกถามว่าเจ็บตรงไหน ก็พยายามยกมือข้างที่ถูกกระแสไฟฟ้าช็อต มีการให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด และรีบนำตัวส่ง ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ส่งตึกอุบัติเหตุ รพ.ระนองทันที
เรือโท ธรณ์ธันย์ เสียงสุวรรณ์ ผู้บังคับเรือ ต.247 ขณะจอดเรือเฝ้าตรวจอยู่ที่บริเวณเกาะพยาม ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 00.30 น. ว่ามีลูกเรือจำนวน 3 คน ได้รับบาดเจ็บ ให้ทำการออกทำการช่วยเหลือลูกเรือประมงโดยด่วน โดยมีจุดนัดพบบริเวณหน้าอ่าวใหญ่เกาะพยาม เมื่อเวลา 01.15 น. และขนย้ายผู้ป่วยใช้เวลา 30 นาที เมื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วเสร็จ เดินทางด้วยความเร็ว 18 น็อต และใช้เวลาอีก 1 ช.ม.30 นาที ออกจากจุดรับตัวเมื่อเวลา 02.00 น. มาถึงท่าเทียบเรือน้ำลึก ในเวลา 03.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนการดำเนินการขั้นต่อไป ศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเล ไทย-เมียนมา (ศปชล.ทม.) เร่งประสานให้ คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา จ.ระนอง (TBC ระนอง) เป็นผู้เจรจาหรือประท้วง ถึงปัญหาที่เรือตรวจการณ์เมียนมา 3 ลำ รุกล้ำเข้าในน่านน้ำไทย และลากจูงเรือประมงไทยทั้ง 2 ลำ กลับเข้าไปในน่านน้ำเมียนมาว่าเกิดปัญหาอะไรกันขึ้น ซึ่งก่อนหน้าทั้ง 2 ประเทศ มีความสัมพันธ์ชายแดนด้านจังหวัดระนองในขั้นดี
ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้เวลา 07.00 น. กลุ่มเรือประมงอวนดำไทยที่รอดจากการจับกุมมาได้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ยังคงจอดทอดสมอ ลอยลำ อยู่หน้าอ่าวใหญ่ ทางทิศตะวันตกของเกาะพยาม ทุกลำยังคงเสียดายอวนดำที่ล้อมจับปลา ที่ต้องตัดทิ้งไปในระหว่างหลบหนีเรือทหารเมียนมา ซึ่งมีมูลค่าหลายแสนบาท และช่วงนี้เป็นฤดูที่มีปลาทูชุกชุมในน่านน้ำระนอง จึงมีกลุ่มเรือจากแถวนางย่อน และ คุระบุรี จ.พังงา เข้ามาวางอวนในแถบน่านน้ำไทย ใกล้น่านน้ำเมียนมากันเป็นจำนวนมาก