CIB จับชาวบ้าน 2 ราย ฝ่าฝืนเผากันหนักที่พิจิตร พบเป็นคนนอกพื้นที่ รับจ้างมาจุดไฟโดยเฉพาะ

CIB จับชาวบ้าน 2 ราย ฝ่าฝืนเผากันหนักที่พิจิตร พบเป็นคนนอกพื้นที่ รับจ้างมาจุดไฟโดยเฉพาะ

59106 เม.ย. 68 09:37   |     Tum1

CIB ลุยลงพื้นที่ปราบปรามก่อนบานปลาย จับชาวบ้าน 2 ราย ฝ่าฝืน-ลักลอบเผากันหนักที่พิจิตร พบเป็นคนนอกพื้นที่ รับจ้างมาจุดไฟโดยเฉพาะ

(6 เม.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พ.ต.ท.หญิง ภิ์ษัชกร เลิศวิลัย สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส. , ด.ต.นิมิตย์ เมธี ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปทส. , ด.ต.ชัยวัฒน์ วิจิตรพล ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปทส. และ จ.ส.ต.อดิศร ภิระคำ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปทส.ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง ไฟแช็ก ที่ใช้ในการจุดเผา จำนวน 2 อัน

คดีที่ 1 จับกุม นายสุชาติ (สงวนนามสกุล) บริเวณพื้นที่นาริมทางถนนโพทะเล - บางลาย หมู่ 3 ต.ท้ายน้ำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร ในข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจร ทางบก มาตรา 130 “เผา หรือกระทำด้วยประการใดๆ ภายในระยะ 500 เมตรจากทางเดินรถ เป็นเหตุให้เกิดควันหรือสิ่งอื่นใดในลักษณะที่อาจทำให้ไม่ปลอดภัยแก่การจราจรในทางเดินรถนั้น ต้องระวางโทษตาม มาตรา 152 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท”

คดีที่ 2 จับกุม นายกฤษณะ (สงวนนามสกุล) บริเวณพื้นที่นา ต.หอไกร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ในข้อหาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฐาน "กระทำการอันอาจก่อให้เกิดสาธารณภัย ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน”



หลังจากจังหวัดพิจิตรเผชิญปัญหาหนัก จากการลักลอบเผาในที่โล่งอย่างต่อเนื่อง แม้มีประกาศห้ามเด็ดขาดเพื่อควบคุมปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 เจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปทส.จึงเร่งลงพื้นที่ปราบปรามและตรวจสอบอย่างเข้มข้น

ตรวจพบเคสแรก พื้นที่ริมถนนโพทะเล–บางลาย หมู่ 3 ต.ท้ายน้ำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร พบกลุ่มควันจำนวนมากลอยจากพื้นที่การเกษตร ห่างจากถนนไม่เกิน 500 เมตร ซึ่งเป็นระยะอันตรายต่อผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและพบนายสุชาติ ผู้กระทำผิด ซึ่งยอมรับว่า เป็นผู้จุดไฟเผาตอซังข้าวจริง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย


เคสต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกัน ร่วมกับฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย อ.บางมูลนาก ได้ลงพื้นที่ ต.หอไกร อ.บางมูลนาก หลังพบกลุ่มควันหนาทึบพวยพุ่งจากพื้นที่นาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นการเผาตอซังข้าวในพื้นที่กว่า 50 ไร่ ที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมแนวต้นไม้ ถนน และใกล้แหล่งชุมชน และพบว่า นายกฤษณะ ผู้ก่อเหตุไม่ใช่ชาวนาเจ้าของพื้นที่ แต่เป็นบุคคลภายนอกที่รับจ้างมาจุดไฟโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการกระทำที่มีเป้าหมายชัดเจนและรู้แก่ใจว่าผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายกฤษณะ ขณะกำลังจุดไฟโดยใช้ไฟแช็ก พร้อมแจ้งข้อหา “กระทำการอันอาจก่อให้เกิดสาธารณภัย” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบแนวโน้มการลักลอบเผาในช่วงเวลากลางคืนมากขึ้น โดยผู้กระทำมักเลือกเวลามืดค่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ หลายครั้งเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมรีบหลบหนี บางรายถึงขั้นวิ่งหนีหายไปในความมืด ทิ้งไฟที่กำลังลุกไหม้ไว้เบื้องหลัง พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนชัดว่า ผู้กระทำรู้ว่าการกระทำของตนผิดกฎหมาย แต่ยังคงฝ่าฝืนด้วยความตั้งใจ นับเป็นความท้าทายสำคัญในการควบคุมสถานการณ์ฝุ่นพิษที่ไม่ควรมองข้าม


ด้าน พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. กล่าวว่า “การเผาในที่โล่งทุกกรณีสร้างผลกระทบทั้งทางอากาศ การจราจร และสุขภาพประชาชน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เพื่อไม่ให้คนกลุ่มเล็กสร้างความเดือดร้อนให้กับคนทั้งจังหวัด ใครฝ่าฝืนกฎหมายจะถูกดำเนินคดีทันที” - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat