สาวร้องรับไม่ได้หมอพูดไล่ไปตาย - ชาวบ้านเสริมพยาบาลก็แรง

(5 เม.ย. 68) ผู้สื่อข่าว ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.ชมพู่ อายุ 24 ปี ชาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนไปโรงพยาบาลตอนประมาณ 1 ทุ่ม เพราะตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและไบโพล่าร์ เลยกินยานอนหลับประมาณ 10 เม็ด จนอาเจียน พี่สาวจึงพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หนองหาน

พอไปถึงห้องฉุกเฉิน มีการซักประวัติ วัดความดัน ไปนอนรอหมอ จาก 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่มประมาณ 2 ชม. หมอผู้ชายก็เดินมาหา บอกว่า กินยาแค่นี้ไม่ตายหรอก ถ้าอยากตายก็ไปกินยาอิฟ๊อกซี่ ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไรที่หมอพูดว่ายาที่ทำให้ตาย เห็นหมอพูดแบบนั้น ตนก็ตกใจทำไมหมอพูดแบบนี้ จึงยกโทรศัพท์จะโทรหาพี่สาวที่อยู่ข้างนอก แล้วตนก็เดินร้องไห้เดินออกไป

หมอเห็นตนจับโทรศัพท์หมอก็ขู่ว่า “ถ้ามึงถ่ายกูจะฟ้อง” พยาบาลก็ร้องถามตนว่าจะไปไหน หมอผู้ชายก็บอกอีกว่า ปล่อยมันไป ตอนนั้นร้องไห้หนักมาก สติหลุดไปแล้วไม่คิดว่าหมอจะพูดแบบนี้ พอตนจะเดินเข้าไปห้องฉุกเฉิน รปภ.ไม่ให้เข้าไป หาว่าเราไปโวยวาย ทั้งๆ ที่เราไม่ได้โวยวายแค่เราร้องไห้ รปภ.บอกเราว่าให้นั่งรอให้หมอเรียก

สิ่งที่ตนมาร้องอยากให้ผู้บริหาร รพ.ตักเตือนและปรามหมอคนนี้ด้วย อยากให้เตือนเรื่องคำพูดและความคิดหน่อย เท่าที่รู้ทราบว่ามีชาวบ้านเจออีกหลายคนมาก ตอนนี้ตนไม่กลัวพร้อมชนกับหมอ อยากฟ้องตนฟ้องมาเลย หมอพูดแบบนี้กับคนไข้ แล้วถ้าเป็นชาวบ้านตาดำๆ ธรรมดา เขาจะรู้สึกอย่างไร ให้ปรับปรุงตัวเองด้วย

ส่วน น.ส.ส้ม อายุ 23 ปี น้องสาว บอกว่า วันนั้นก็ตกใจที่หมอด่าแรงแบบนั้นเหมือนไล่ไปตาย ตนก็บอกหมอไปว่า ประชาชนเขาไม่สบายแล้วไม่ให้มาพึ่งหมอจะพึ่งใคร ถ้าไม่สบายไม่มาหรอกโรงพยาบาลไปเต้นอยู่ผับโน่นจะมาทำไมโรงพยาบาล หมอพูดแรงกับคนไข้แบบนี้ไม่เหมาะแน่ ไม่มีจรรยาบรรณเลย ไม่โอเคเลย ชมพู่เขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้วมาเจอหมอพูดที่ตอกย้ำความรู้สึกแบบนี้ เขาก็ทรุดหนักเลย ฝากถึงหมอคนนี้ให้มีจรรยาบรรณมากกว่านี้ เท่าที่ทราบมีชาวบ้านเจอหมอด่าและทำร้ายร่างกายเยอะ แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร

ขณะที่เรื่องฉาว รพ.แห่งนี้ยังไม่หยุด เมื่อมีชาวบ้านร้องเรียนมายังนักข่าวถึงหมอที่ รพ.แห่งนี้ แจ้งมาว่า พ่อเคยนอนที่ รพ.หนองหานใส่ท่อ โดนพยาบาลห้องไอซียูตบปากตอนแปรงฟันให้ จนมุมปากแตกและเคยโดนตีหลายครั้ง ตีที่แขนและทุบหน้าอก ให้พ่อดูข่าวลุงเปี๊ยกที่ทำร้ายหมอ ไม่รู้โดนทำแบบพ่อไหม ลุงเลยโมโหเป็นแบบนั้น ดูในกล้องวงจร พ่อบอกเหมือนคนในกล้อง น่าจะหมอคนเดียวกันที่ตบปากพ่อ ดูกล้องวงจรที่ออกข่าวก็ตัดแล้วตัดอีกให้เหมือนคนไข้ผิด แต่ไม่มีกล้องก่อนหน้าว่าคนไข้โดนอะไร ฝากพี่นักข่าวเล่นข่าวนี้ กดดันโรงบาลเอากล้องแบบเต็มไม่ตัดเอามาเผยได้ไหมว่าคนไข้โดนอะไรก่อนบ้าง

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายทองลี หรือลุงเปี๊ยกอีกครั้ง ลุงที่มีวีรกรรมตามข่าวตอนแรกว่าทำร้ายพยาบาลและเจ้าหน้าที่ฯ รพ.เดียวกันกับที่ น.ส.ชมพู่เล่าถึงในช่วงต้น โดยลุงเปี๊ยกเปิดอู่ซ่อมรถ เคาะพ่นสีที่บ้านทุ่งสว่าง ต.พังงู  สอบถามถึงเรื่องราวที่เคยทำร้ายพยาบาลและเจ้าหน้าที่ฯ เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา

ลุงเปี๊ยกยังยิ้มได้ บอกว่า ผมเข้าไปหาหัวหน้าที่ รพ.แล้ว เขาบอกว่าไม่เอาเรื่องผม เขารับปากอย่างนั้น แต่เท่าที่ทราบไปแจ้งความผมแล้ว หากจะแจ้งความดำเนินคดีผมจริงๆ ผมก็ไม่มีอะไรเห็นใจผมบ้าง ส่วนเรื่องที่ว่าผมหรือพยาบาลใครทำร้ายใครก่อนผมจำไม่ค่อยได้ แต่จำได้ว่ามีพยาบาลพยายามกดหัวผมลง ก็ผมไม่อยากใส่ท่อช่วยหายใจ ก็เลยฟึดฟัดออกจากเตียงเพราะผมกลัวตาย มีคนในหมู่บ้านตายเพราะใส่ท่อหายใจแบบนี้ 3-4 คนแล้ว

จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลยเพราะมี รปภ.มาทำอะไรผมไม่รู้ หากจะดำเนินคดีผมจริงๆ ผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร แต่ขอดูกล้องวงจรปิดแบบเต็มๆ ชนิดไม่ตัดด้วย หากผมผิดพร้อมน้อมรับ หากผมไม่ผิดลงมือก่อนก็ให้ความเป็นธรรมด้วย ลุงเปี๊ยกกล่าวตอนท้าย