กทม.เผยเจ้าหน้าที่เร่งเจาะอาคารโซน B ได้มากถึง 2 เมตรแล้ว คาดเหลือไม่ถึง 1 เมตร จะถึงผู้ติดอยู่ในอาคาร
กทม.เผยเจ้าหน้าที่เร่งเจาะอาคารโซน B ได้มากถึง 2 เมตรแล้ว คาดเหลือไม่ถึง 1 เมตร จะถึงผู้ติดอยู่ในอาคาร
กทม.เผยเจ้าหน้าที่เร่งเจาะอาคารโซน B ได้มากถึง 2 เมตรแล้ว คาดเหลือไม่ถึง 1 เมตร จะถึงผู้ติดอยู่ในอาคาร ล่าสุด กทม.แจ้งปรับตัวเลขผู้สูญหาย เป็น 79 คน
(3 เม.ย.68) นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยถึงความคืบหน้าในการปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ติดในอาคาร สตง.เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ อยู่ในพื้นที่โซน B และโซน C โดยมีการใช้เครื่องจักรหนักยกแผ่นปูนขึ้น รวมถึงให้เจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ ขึ้นไปตัดลวดแยกแผ่นปูนออกจากกัน โดยการดำเนินงานตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงตอนนี้สามารถยกแผ่นปูนออกจากพื้นที่ที่ได้ยินเสียงคนตอบรับแล้ว ลึกลงไปประมาณ 2 เมตร คาดว่าเหลืออีกประมาณ 1 เมตร หรือไม่ถึง 1 เมตร จะถึงตัวคนที่ติดอยู่ในซากอาคารตามข้อมูลในเครื่องสแกนที่พบสัญญาณชีพ
ผู้ที่ติดค้างอยู่ด้านในตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาไม่พบเสียงตอบโต้จากด้านในตัวอาคารแล้ว ส่วนในโซน C ใกล้เคียงโซน D ซึ่งเป็นบริเวณช่องลิฟต์และเป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุดของโครงสร้างที่ผ่านถล่มลงมา และคาดว่ามีผู้ติดอยู่ภายใน และเป็นจุดที่สุนัข K9 มีปฏิกิริยาที่ต้องสงสัยว่าพบผู้ติดค้าง ตลอดทั้งวันได้ระดมกำลังค้นหา สุนัข k9และเจ้าหน้าที่นานาชาติเข้าไปค้นหา ปัจจุบันได้เจาะและเคลื่อนย้าย ซากอาคารและขุดเจาะเข้าไปถึงผนังช่องลิฟต์แล้ว และกำลังจะดำเนินการเจาะผนังช่องลิฟต์เข้าไปถึงโพรงด้านในที่ยังคงมีความหวังอยู่ว่าจะพบผู้ติดค้างอยู่บริเวณนี้ ส่วนปัญหาและอุปสรรค คือพื้นคอนกรีตที่กดทับลงมาหลายชั้น มีความหนา ยากที่จะขุดเจาะช่องให้คนเข้าไปได้ ซึ่งต้องกว้างพอสมควร
ด้าน รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขอปรับตัวเลขผู้ประสบเหตุ หลังจากมีการตรวจสอบ ข้อมูล จากนายจ้าง ตม. และโรงพยาบาลทั่วกรุงเทพฯ จึงทำให้พบว่าในวันที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ ที่ไม่ใช่แรงงาน แต่เป็นประชาชนทั่วไป บาดเจ็บเล็กน้อย อีกจำนวน 10 คน ส่วนแรงงานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในอาคาร มีจำนวนทั้งหมด 103 คน แรงงานที่บาดเจ็บจากเหตุอาคารถล่ม 9 คน แรงงานเสียชีวิต 15 คน ทำให้ตอนนี้มีตัวเลขผู้สูญหาย ติดอยู่ภายในอาคาร 79 คน และยังยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตที่อยู่ภายในอาคาร ยังไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้จำนวน 14 ร่าง
นอกจากนี้ยังขอประชาสัมพันธ์ถึงญาติผู้ประสบเหตุ ทราบข้อมูลจากสื่อว่าบางคนไม่อยากที่จะอยู่บริเวณหน้าจุดเกิดเหตุเพราะรู้สึกสะเทือนใจจึงมีการจัดตั้งศูนย์พักพิง เพื่อให้ญาติของผู้สูญหายที่ยังรอการช่วยเหลือ ไปพักคอยได้ที่วัดเสมียนนารีพระอารามหลวง ซึ่งทางกรุงเทพฯจะจัดเตรียมพื้นที่พักคอยไว้ให้ โดยให้มาแจ้งข้อมูลที่กองอำนวยการ
ด้านพันตำรวจโทวรภัทร สุขไทย รองผู้กำกับ สน.บางซื่อ กล่าวว่าขอให้ญาติผู้สูญหายเร่งมาแจ้งที่กองอำนวยการ เพื่อแจ้งตรวจดีเอ็นเอไว้ก่อน เพราะมีเคสผู้เสียชีวิตหลายวัน ศพขึ้นอืด ทำให้พิสูจน์อัตลักษณ์และตรวจดีเอ็นเอได้ยาก อาจเป็นปัญหาได้ในอนาคต
