“บิ๊ก ศรุต” ควงภรรยา “อุ้ม ชณัญพัชร์” เปิดใจครอบครัวเกือบพัง เพราะน้ำหนักมากเกินไป เผยตอนนี้ลดลงแล้ว 44 กิโล!!
“บิ๊ก ศรุต” ควงภรรยา “อุ้ม ชณัญพัชร์” เปิดใจครอบครัวเกือบพัง เพราะน้ำหนักมากเกินไป เผยตอนนี้ลดลงแล้ว 44 กิโล!!

ชีวิตคู่เกือบพัง เพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินไป สำหรับคู่ของนักแสดงหนุ่มมากความสามารถ “บิ๊ก ศรุต” และภรรยาสาวนอกวงการ “อุ้ม ชณัญพัชร์” ซึ่งความรักของทั้งคู่เดินทางมา 13 ปี แต่มาเจอกับอุปสรรคน้ำหนักตัวของสาวอุ้มที่ทยานพุ่งไปร้อยกว่ากิโลทำให้ไม่มั่นใจ จนเอ่ยปากบอกเลิกหนุ่มบิ๊กหลายครั้ง แต่ตอนนี้ชีวิตดีขึ้น น้ำหนักลงไปทั้งหมด 44 กิโลกรัม หลังตัดสินใจผ่าตัดกระเพาะครบ 1 ปี ล่าสุดทั้งคู่ควงกันไปออกรายการ พร้อมเปิดใจถึงเรื่องราวทั้งหมดว่า
บิ๊ก : ตอนแรกไม่ได้อะไรมาก แต่ว่ามีช่วงนึงที่ละครมันกระแสดังมากคนเริ่มสนใจเราเยอะขึ้น มีช่องนึงสัมภาษณ์ว่ามีแฟนหรือยัง เราก็บอกว่ามีแล้ว พอเขาเห็นว่าเป็นอุ้มเขาส่งมาทางข้อความ มีครั้งนึงที่ผมไปเที่ยวแล้ววีดิโอคอลหาอุ้ม เขามาบอกว่าแฟนคุณไม่สวยเลย คุณน่าจะได้คนที่สวยกว่านี้ ซึ่งเราก็ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ตอนนั้นอุ้มน้ำหนัก 133 กิโล แต่วันแต่งงาน 110 กว่าๆ
บิ๊ก : กว่าจะได้แต่งงานมันมีเรื่องราว กระแสที่เราถูกคนสนใจมากกว่าเมื่อก่อน อุ้มก็เริ่มคิดละเวลาไปไหนด้วยกัน อุ้มจะถอยห่าง จะไม่เดินแล้ว เวลามีคนมองเราเยอะๆ เขาก็จะค่อยๆ ถอยไปๆ สักพักก็หายไปเลย ต้องโทรหาว่าอยู่ไหน
อุ้ม : เวลามีคนมองเขาเยอะๆ เหมือนเกรงใจเขา เราไม่รู้ว่าคนอื่นเขาคิดอะไร เรารู้สึกว่าเดินคู่เขามันเหมาะไหม เฟดออกดีกว่า
บิ๊ก : ก่อนจะแต่งงานอุ้มขอเลิกหลายทีมาก
อุ้ม : ก่อนหน้านี้ถามเขาว่าอยากเลิกกับเราไหม เผื่อจะไปหาใครที่เหมาะสม ถามหลายรอบ เพราะว่าไม่อยากแต่งงานไปแล้วเลิก แต่คำตอบที่ได้ก็คือไม่เลิก
บิ๊ก : มันมีช่วงนึงที่อุ้มป่วยไทรอยด์ ด้วยยาด้วยอะไรด้วย ทำให้น้ำหนักดีดขึ้นไป แล้วตอนนั้นอุ้มมีความกังวลเพราะมันมีเอฟเฟคกับร่างกายเขาเยอะ แต่เราก็ให้กำลังใจ
อุ้ม : ตอนนั้นคุณหมอก็ให้กินยาคุมไทรอยด์ น้ำหนักก็จะขึ้นเรื่อยๆ ตื่นมาน้ำหนักก็ขึ้นแล้ว หลังๆ น้ำหนักขึ้นมาอาทิตย์ละ 5 กิโล
บิ๊ก : แต่พอแต่งงานมาสักพักไทรอยด์ของอุ้มนิ่ง แต่น้ำหนักมันยังอยู่ ผมพยายามบอกอุ้มออกกำลังกายสิ มาเดินกับไอ แต่ทำไม่ได้ ผมไม่เข้าใจทำไมทำไม่ได้ หรือว่าไม่อยากทำ จนมาช่วงหลังสุดเราเห็นแล้วว่ามันไม่ได้จริงๆ อุ้มเดินนิดเดียวก็หอบแล้ว
อุ้ม : มันน่าจะเป็นที่น้ำหนักตัวด้วย พอมาถึงจุดนึงการเดินเหินมันก็ไม่ปกติแล้ว ใช้ชีวิตยากขึ้นเยอะ ไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิต ตอนนั้นก็แคร์เขานะ จริงๆ เราเป็นแค่คนธรรมดาคนนึง ใครจะมองเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอรู้จักกับเขา มีคนมองเขาก็เท่ากับมองเรา
บิ๊ก : ที่เริ่มรู้สึกว่ามันไม่โอเคแล้วตรงที่เรามีงานศพของคุณย่า ชวนอุ้มไปเขาไม่ไป ไม่ใช่เขาไม่อยากไป เขาก็รู้ว่าเขาต้องไป เพราะเขารู้ว่าเขาคือสะใภ้ แต่ว่าเขาไม่ไป เราเลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยโอเคแล้ว มันกลายเป็นปัญหาครอบครัวไปเลย มีครั้งนึงที่ตัดสินใจไปเขตเพราะการใช้ชีวิตคู่เริ่มลำบาก มันเป็นความสะสม อุ้มก็มีความกังวล แล้วเขาพูดใส่เราทุกวันๆ จนมีวันนึงที่ทำไมยังพูดเรื่องนี้อยู่ จนสุดท้ายเราโมโห ก็แบบถ้ายูโอเค อยากได้แบบนี้ก็เอาแบบนี้ เราก็ขับรถไป แต่ระหว่างนั้นความโมโหมันหายไป คิดในใจว่าจะเอายังไงดีที่จะไม่ต้องไปถึงการหย่า โชคดีมากไปถึงเขตเป็นช่วงเวลาใกล้เลิกแล้ว จอดรถเดินลงไปที่ห้องแล้วนะ เรารีบเดินไปก่อนเขา ไปที่ห้องก็เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่ รีบหันกลับมาบอกเขาเลย ยูเขาปิดแล้ว
อุ้ม : จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เราเหนื่อย เวลาจะไปไหนกับเขาเราต้องหาเสื้อผ้า ซึ่งมันยากสำหรับเรามาก ไปงานแต่งเราต้องสวย แต่เราพยายามแต่งตัวให้เขากับเรามันก็ไม่ได้ มันเหนื่อยไปหมด รู้สึกว่าเราไม่อยากคบกับคนนี้แล้ว มันเหนื่อยที่ตัวเรานี่แหละ ก็เลยคิดึอยากหย่ากับเขา พอเขาตกลง เราก็โล่งใจ แต่เราก็ไม่ได้อยากหย่า เราก็ไปศึกษาหาข้อมูล คำว่าผ่าตัดกระเพาะมันขึ้นมา ก็อยากลองน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วสำหรับการลดน้ำหนัก พี่บิ๊กจะบอกว่าอุ้มกรนดังมากเลยนะ ตอนกลางคืนเหมือนหยุดหายใจไปเลย เราก็เริ่มกลัวแล้ว
ด้านคุณหมอ “หยก ขวัญนรา เกตุวงศ์” บอกว่า โรคอ้วน ประเทศไทยอยู่อันดับ2 ในอาเซียน อันดับ1 คือประเทศมาเลเซีย ด้วยลักษณะการใช้ชีวิตในปัจจุบันมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ขยับตัวแล้วในเรื่องของอาหารแปรรูปค่อนข้างเยอะ การจะเป็นโรคอ้วนหรือไม่ใช่โรคอ้วนต้องดูหลายอย่าง จะดูเรื่องน้ำหนักกับส่วนสูงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูเปอร์เซ็นไขมัน เปอร์เซ็นกล้ามเนื้อ โปรตีน น้ำ แร่ธาตในร่างกาย องค์ประกอบทั้งหมด โรคแทรกซ้อนถ้าเป็นโรคอ้วน มีทั้ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง ไขมันเกาะตับ หยุดหายใจขณะนอนหลับ แล้วก็โรคหัวใจ คนไทยเสียค่ารักษาโรคอ้วนปีนึง สองแสนสองหมื่นล้านบาท อยากให้ทุกท่านตระหนักก่อนว่าอ้วนมันเป็นโรคจริงๆ มันเป็นจุดเริ่มต้นของทุกๆ ปัญหา ไม่ว่าจะสุขภาพตัวเอง คนรอบข้าง แล้วก็ประเทศชาติ พอเรารู้ตัวปัญหาก็พยายามแก้ไขมัน
เบลเยี่ยม : การผ่าตัดกระเพาะต้อง BMI เกิน 32.5 ใช้ประกันสังคมได้ บางคนไม่ต้องน้ำหนักเกิน 100 ก็ได้ ถ้าไม่ได้สูงมาก ค่า BMI เกิน 32.5 ใช้ประกันสังคมได้ ซึ่งการผ่าตัดกระเพาะจะเป็นการส่องกล้อง จะมีแค่ 3 แผลเล็กๆ แค่ 1 เซ็น ใส่ชุดว่ายน้ำไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกอะไรเลย กระเพาะจะตัดออกไป 80% ฟังแล้วดูเยอะใช่ไหม เบลตัดมานานแล้ว สุดท้ายร่างกายจะชินที่ 20% ที่เหลือ ทรงกล้วยหอม เทคนิคที่ตัดจะเป็นแบบสลีฟ มันยังดูดซึมอาหารได้อยู่
อุ้ม : ผ่าตัดกระเพาะไม่เจ็บเลย มันหน่วงๆ พอวันที่2 ก็เดินได้ไปเข้าห้องน้ำ พอหลังจากวันที่2 ก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่มันเจ็บมาก มันทนได้
อุ้ม : ความเปลี่ยนแปลงหลังจากผ่าตัดกระเพาะ คือชีวิตดีขึ้นแบบ 100% น้ำหนักค่อยๆ ลง ตอนนี่ผ่ามาครบ 1 ปีแล้ว น้ำหนักลงไป 44 กิโล เรื่องเอฟเฟคที่บอกว่าตัดแล้วกินไม่ได้ มันจริงกินไม่ได้แค่ในช่วงแรก จะกินแต่นมทางการแพทย์ 14 วัน แล้วมีผมร่วง เล็บบาง ช่วงแรกจะมีกรดขึ้นมาเยอะหน่อย แต่จะเป็นแค่ช่วงเดือนแรกเท่านั้น เหมือนเราต้องปรับตัวให้เข้ากับกระเพาะของเรา เรื่องกินก็กินอาหารอร่อยเหมือนเดิม แต่ทานได้ปริมาณน้อยลง ระบบขับถ่ายช่วงแรกๆ มันก็ยังปรับไม่ได้ แต่หลังๆ ก็เป็นปกติแล้ว
เบลเยี่ยม : วันนี้ถ้ามีประกันสังคม ผ่าตัดกระเพาะอยู่ที่หลักหมื่น แต่ว่าต้องเข้าเกณฑ์ BMI 32.5 มีโรคร่วมด้วย จริงๆ เบลเป็นคนแนะนำ ตอนแรกพี่บิ๊กทักมาก่อน บอกว่าพอดีแฟนพี่สนใจอยากผ่าตัดกระเพาะ ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมครับ ที่ไหนดี หมอไหนดี เราทำเอเจนซี่ bookko_agency เชี่ยวชาญที่ไทยและที่เกาหลี เพราะเราทำเอง ไม่ว่าจะเป็นศัลยกรรมเกาหลี หรือว่ารักษาในประเทศ เราก็เอาตัวเราไปลองก่อน จริงๆ ผ่าตัดกระเพาะ แนะนำหมอไทยนะคะ เพราะคนไทยอ้วนเยอะกว่าคนเกาหลี หมอไทยจะเก่งกว่าหมอเกาหลี แต่ถ้าทำหน้าที่เกาหลีเลย เต็มที่ไปเลย
ถ้าใครที่สนใจทักเข้ามาสอบถามได้เลยนะคะ Line @bookko_agency หรือเข้าไปดูในไอจี bkcbybookkoagency จะเป็นศูนย์รวมของหมอเฉพาะทาง หมอไหนดี ทำอะไรดี ปรึกษาได้เลย โทร 0901998663
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เป็นอีกหนึ่งแร็ปเปอร์แถวหน้าของเมืองไทยสำหรับ “Maiyarap” (ไมยราพ) ผู้ชนะจากรายการ The Rapper 2 ที่ตอนนี้เรียกว่าประสบความสำเร็จในเส้นทาง ฝากผลงานเพลงฮิตมากมายให้แฟน ๆ กับสไตล์การแร็ปที่โดดเด่น อาทิ แฟนใหม่หน้าคุ้น, เก็บไว้ในใจไม่พอ และอีกมากมาย ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็อายุ 27 ปีแล้วต

พลังศรัทธาของเหล่าดารา-เซียนพระมากันเต็มเปี่ยม ในวันพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่ถือกำเนิดใต้ฟ้าทรงกลด นำทีมโดยคู่พระ-นางสายมูสุดปัง อ๊อฟ ชนะพล และฮาน่า ลีวิส รวมตัวดาราสายมู อาทิ เพ็ชร ฐกฤต, ตี๋ เอเอฟ, หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม, ไอซ์ อธิษชนัน, เจสสิก้า สมปอง, อั๋น อัครพรรฒ, แจ็ค แบล็คแจ็ค, เกด ธิญาดา, วาม จิรกิตติ์ และอีกมากมาย รวมไปถึงเซียนพระชื่อดังลงใต้ไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อทำพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลเหรียญรุ่นเหนือเมฆ (จตุคามรามเทพ) ของพระครูรัตนสิกขการ (พระอาจารย์ประสูติ ปิยธัมโม) วัดถ้ำพระพุทธโกษีย์ (วัดในเตา) โดยมี เฮียโป๋-ธีรพล นพรัมภา เป็นประธานจัดสร้างวัตถุมงคล และ มาดามเดียร์-ปฐมาภรณ์ เตมียเวส ประธานดำเนินการสร้างวัตถุมงคลเหรียญเหนือเมฆที่ขึ้นชื่อลือชาว่าใครได้ไปบูชาบุญวาสนาจะพาลอยเหนือเมฆ
