“อี้-ต้นอ้อ” พาผู้เสียหายร้อง เจอทนายดังทำบ้านถูกอายัด-ยึด
“อี้-ต้นอ้อ” พาผู้เสียหายร้อง เจอทนายดังทำบ้านถูกอายัด-ยึด
ผู้เสียหายร้องจ้างทนายดังทำคดีไฟแนนซ์ สุดท้ายทนายหายต๋อมนาน 2 ปี จนศาลออกคำสั่งอายัด-ยึดบ้าน ค่อยมาบอกให้ปล่อยยึดแล้วรอช้อนซื้อ
(5 พ.ย. 67) ที่กองบังคับการปราบปรามฯ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง และอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ พาผู้เสียหายกรณีใช้บริการจากทนายคนดัง จนถูกศาลมีคำสั่งอายัดบ้าน เดินทางมาพร้อมครอบครัว หอบพยานหลักฐานจากจังหวัดนครราชสีมา เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดี
ผู้เสียหาย กล่าวว่า คุณพ่อของตนติดตามทนายคนดังกล่าว และไปเห็นคลิปที่เขาพูดถึงเรืองไฟแนนซ์ จึงได้ติดต่อไปหาเพื่อจ้างให้เข้ามาช่วยเหลือคดีของคุณน้าตนเรื่องไฟแนนซ์
โดยเริ่มแรกทางทนายบอกว่าต้องจ้างตนเพื่อสู้คดีกับไฟแนนซ์ แต่ตนไม่มีเงิน จึงปรึกษาทนายเพื่อเอารถไปจำนอง แล้วเอาเงินมาจ้างทนาย ทนายได้แนะนำว่าให้มาจำนองกับญาติของทนาย พอทนายบอกแบบนั้น ตนก็หลงเชื่อเพราะเห็นว่าเป็นญาติของทนายเอง
ต่อมา ตนได้เอารถไปที่ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นลานมันสำปะหลัง ของญาติทนาย เอารถจำนองได้เงินมา 50,000 บาท ไปจ้างทนาย โดยเสียค่าธรรมเนียม 4,000 บาท และค่าจ้างทนาย 12,000 บาท อีกทั้งตอนไปสู้คดีที่ศาล ตนต้องจ่ายค่าเดินทางให้ทนายทุกครั้งด้วย สุดท้ายพอจบคดี ตนได้รับคำสั่งศาลให้ถูกยึดบ้าน
ผู้เสียหายเล่าทั้งน้ำตาว่า ทางครอบครัวหวังจะให้ทนายคนดังกล่าวเข้ามาช่วยแก้ปัญหา แทนที่จะจบปัญหากลับกลายเป็นมีปัญหาหนักกว่าเดิม ที่ผ่านมาทางครอบครัวพยายามติดต่อไปยังทนายคนดังกล่าวหลายครั้งตลอดระยะเวลา 2 ปี แต่ปรากฎทนายคนดังกล่าวไม่รับโทรศัพท์ และบอกเพียงว่าจะติดต่อกลับมา แต่ก็เงียบไป จนครอบครัวเครียดหนักถึงขั้นชวนคนในครอบครัวขับรถออกไปให้สิบล้อชน หวังจะจบปัญญา
สุดท้ายตนเองจึงตัดสินใจนำเรื่องร้องเรียนผ่านเพจตเนอ้อเป็นหนึ่ง ปรากฏว่าพอทนายทราบก็ได้มีการติดต่อกลับมา 3 วันติด ตนก็งงว่า 2 ปีที่ผ่านมาทนายคนนี้ไปอยู่ไหนมา พอติดต่อมาก็ได้ได้มีการยื่นข้อเสนอต่างๆ ให้กับทางผู้เสียหาย ซึ่งพีคที่สุดคือให้ผู้เสียหายปล่อยให้กรมบังคับคดียึดบ้านไปก่อน แล้วค่อยไปกว้านซื้อหลังจากมีการขายทอดตลาด อีกทั้งผู้เสียหายเล่าอีกว่าเจอหน้าทนายคนดังบนศาลแค่ครั้งเดียว นอกนั้นเป็นทนายคนอื่นมาว่าความแทน
ด้าน น.ส.ชลิดา เปิดเผยว่าหลังจาก แจ้งความร้องทุกข์ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้วจะมีการพาทางผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อที่กระทรวงยุติธรรมเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือ พร้อมทั้งฝากไปถึงสภาทนายความว่า เรื่องร้องเรียนของทนายคนดังกล่าวมีมากขึ้นเรื่อยเรื่อยแล้ว ทางสภาทนายฯ ควรออกมาแสดงเคลื่อนไหวให้เร็วกว่านี้
ขณะที่ นายแทนคุณ ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการที่ทนายคนดังกล่าวให้ทางผู้เสียหายเอารถไปจำนำที่จังหวัดสระแก้วนั้น มีการทำเป็นขบวนการหรือไม่ อยากให้ตำรวจสืบสวนดู เนื่องจากพบพิรุธของเต็นท์รถดังกล่าวเพราะเมื่อไปในสถานที่จริงกลับไม่ใช่เต็นท์รถแต่เป็นลานมันลำปะหลัง อีกครั้งก็มีผู้เสียหายรายอื่นทยอยเข้ามาร้องเรียนว่าตกเป็นเหยื่อทนายคนดังกล่าวอีกหลายคน