เลี้ยงปลาไหล อาชีพใหม่ที่น่าลอง ลูกค้าชาวจีน-ญี่ปุ่น ต้องการสูง
เลี้ยงปลาไหล อาชีพใหม่ที่น่าลอง ลูกค้าชาวจีน-ญี่ปุ่น ต้องการสูง

ทำเงิน! เลี้ยงปลาไหล ส่งขายแบบครบวงจร ลงทุนน้อยกำไรมาก ลูกค้าชาวจีน-ญี่ปุ่น ต้องการสูง
(2 ก.ค.68) ที่ อ.โพธาราม จ .ราชบุรี ผู้สื่อข่าวรายงาน อาชีพทำเงินที่น่าสนใจ ของเกษตรกรรายหนึ่ง ในพื้นที่ 3 ต.เตาปูน อ.โพธาราม ได้ทดลองเพาะเลี้ยงปลาไหล ด้วยใจรักและชื่นชอบ ใช้ชื่อว่า "ฟาร์มไหลร่ำรวยราชบุรี" ของนายศุภณัฎฐ์ ครุฑางคะ หรือ "ตั๋ง" อายุ 44 ปี ซึ่งก่อนหน้าที่ พื้นที่ได้เคยเป็นฟาร์มเลี้ยงสุกรมาก่อน ต่อมา เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ได้ไปศึกษาเรียนรู้การเลี้ยงปลาไหลที่ต่างประเทศ
จากนั้นจึงนำกลับมาปรับปรุงพัฒนาพื้นที่เลี้ยง จนประสบความสำเร็จ สามมารถเพาะเลี้ยงปลาไหลส่งออกต่างประเทศได้แบบครบวงจร โดยนำพ่อแม่พันธุ์ มาเลี้ยงไว้จำลองแบบตามธรรมชาติแบบง่ายๆ ในการนำพลาสติกมาปูรองด้านล่าง นำดินมาทับถมสร้างเป็นคันปลูก ด้วยต้นข้าวที่กำลังเริ่มออกรวง เพื่อให้ปลาไหลได้ขุดรูอยู่อาศัย มีใบจาก ซึ่งมีคุณสมบัติที่มีความเย็นวางปิดทับบนคันดิน เพื่อให้ปลาไหลได้หลบอาศัย
โดยให้คอยสังเกตแม่พันธุ์ที่ปล่อยไว้ จะเริ่มออกไข่เป็นฟองสีขาวขุ่นคลุมเอาไว้บริเวณปากรู จากนั้น จึงนำภาชนะมาตักช้อนที่ปากรู จะมีทั้งไข่เป็นฟอง และตัวของลูกปลาไหลจำนวนมาก แต่ละครั้งจะพบลูกปลาตั้งแต่หลักสิบถึงหลักร้อยตัว นำไปล้างทำความสะอาด พาเข้ากระบวนการขุนเลี้ยงในระบบฟาร์มที่ได้มาตรฐาน GAP โดยผู้ที่มาเที่ยวชมทุกคน จะได้รับการดูแลฉีดพ่นสเปรย์น้ำยาแอลกอฮอลล์ ก่อนเข้าพื้นที่ฟาร์มทุกคน เพื่อความปลอดภัยเรื่องโรคของฟาร์ม
นายศุภณัฎฐ์ เจ้าของฟาร์มไหลร่ำรวยราชบุรี กล่าวว่า การเลี้ยงยังไม่ค่อยมีคนนิยมมากนัก ขณะที่ราคาขายค่อนข้างสูง จึงเป็นแรงดึงดูดใจที่ได้มาเพาะเลี้ยงขายมากว่า 2 ปีแล้ว หลังจากเคยไปดูงานที่ประเทศเวียดนามมาก่อน และมีความชอบอยู่แล้วด้วย เคยเลี้ยงแบบวิธีเก่า คือเลี้ยงในดิน ต้องกินของเน่า ซึ่งก็ไม่ชอบ แต่พอไปเห็นต่างประเทศเลี้ยงแบบน้ำใส จึงทำให้ทุกอย่างกลับมาอีกครั้ง และทำอย่างจริงจัง จนประสบความสำเร็จ ตั้งแต่เพาะพันธุ์ การขุนเลี้ยง
ส่วนพ่อแม่พันธุ์จะมีพันธุ์ไทย พันธ์เวียดนาม พันธุ์ไฮบริดช์ แล้วแต่สายพันธุ์นั้นๆ ถ้าของทางเวียดนามจะทำการตลาดเนื้อจะดีกว่า ตัวเหลืองสวย เนื้อนุ่ม แต่ของไทยค่อนข้างอร่อยเหมือนกัน รสชาติคล้ายกัน มีขายตั้งแต่ลูกพันธุ์ทุกขนาด ปลาขุนที่เป็นเนื้อ ปลาที่กำลังมีไข่ มีตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป
ถ้ามือใหม่จะแนะนำให้ใช้เลี้ยงตัวใหญ่ อัตราการรอดจะสูงกว่า ส่วนอัตราความเสี่ยงจะมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปลาไหลสามารถเลี้ยงได้ทุกที่ของประเทศ แต่จะเหมาะตรงไหนแล้วแต่บางที่ บางคนเอาไปเลี้ยงไม่ตายเลยก็มี บางคนเอาไปก็ล้มเหลว
ในการเลี้ยง คนที่มาหาจะแนะนำว่าไม่ต้องซื้ออะไรเลย กะละมังก็เลี้ยงได้ ที่บ้านมีอะไรก็ใส่เลี้ยงได้ เน้นความประหยัดจะมีกำไรมากขึ้น ส่วนยอดการขายที่เข้าร้านอาหารจะอยู่ประมาณ 4-5 ตัวต่อกิโลกรัม ขายหน้าฟาร์มเกือบ 200 บาทต่อกิโลกรัม ลูกค้าต้องการแบบไหน มีให้ตามที่ลูกค้าต้องการ
"ตอนนี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด มีเท่าไหร่ก็ขายหมด เฉพาะในประเทศตอนนี้มีขายไม่เพียงพอ มีลูกค้าที่ต้องการ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ต้องการปลาจากฟาร์มเยอะมาก ไม่สามารถผลิตได้จำนวนเยอะ จึงกำลังมองหาลูกฟาร์มที่ต้องการเลี้ยงจริงๆ ฟาร์มจะรับซื้อคืนในราคายุติธรรม"
ส่วนการเลี้ยงปลาไหลลงทุนน้อย เริ่มที่หลักร้อย หลักพันบาท ก็เลี้ยงได้ ถ้าเลี้ยงแล้วประสบความสำเร็จแล้วค่อยขยายพื้นที่ อย่างบ่อปลาที่เห็นนี้เป็นธรรมชาติเป็นสไตล์แบบเวียดนาม จะให้ปลาฟักไข่ในดิน มีโพรงอยู่ตามธรรมชาติ การเลี้ยงจะใช้เวลา 1 เดือน ปลาจะฟักไข่ 2 รอบ โดยให้คอยสังเกตไว้ ถ้าเป็นพ่อแม่พันธุ์ต้องใช้ขนาด 10 เดือนขึ้นไป แล้วจึงนำมาปล่อยบ่อธรรมชาติ บ่อยาวประมาณ 10 เมตร กว้าง 2 เมตร ใช้พ่อแม่พันธุ์รวม 200 ตัวต่อ 1 บ่อ ให้อยู่ตามธรรมชาติ ให้อาหาร 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ให้อาหารบ่อย เพราะจะทำให้ปลาอ้วนแล้วจะไม่ไข่
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ฟาร์ม ไหลร่ำรวย เพจไหลร่ำรวยราชบุรี เบอร์โทรเจ้าของฟาร์ม 096-196-3965 และ 065-597-8964 - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดกว่า 300 คน ยื่นผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ ค้านการนำเข้าข้าวโพด GMO หวั่นทำราคาข้าวโพดของเกษตรกรไทย ต่ำกว่าราคาประกัน
