รวบหนุ่มไทใหญ่ มือยิงเจ้าของฟิตเนสดับ - ยันไม่ได้วางแผนก่อเหตุ

รวบหนุ่มไทใหญ่ มือยิงเจ้าของฟิตเนสดับ - ยันไม่ได้วางแผนก่อเหตุ

72213 พ.ค. 68 09:25   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

รวบแล้ว หนุ่มไทใหญ่ยิงชายเจ้าของฟิตเนสเสียชีวิต เจ้าตัวอ้างแค่ปีนเข้าไปหาเมีย ไม่ได้วางแผนก่อเหตุ แต่ยื้อแย่งปืนกับผู้เสียชีวิตแล้วปืนลั่น

(13 พ.ค. 68) กลางดึกที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวนายไส หาน อายุ 23 ปี ชาวไทใหญ่ สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายยุทธโรจน์ อายุ 70 ปี เสี่ยเจ้าของฟิตเนสเสียชีวิต โดยจับกุมได้ที่ย่านอ่อนนุช 65 และได้นำตัวมาสอบสวนที่ สน.เพชรเกษม


ทีมข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามเจ้าตัวถึงสาเหตุในการก่อเหตุ แต่ช่วงแรกตัวของนายไส หาน ไม่ยอมตอบคำถามอะไร หลังจากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าได้มีการวางแผนมาก่อนหรือไม่ ทางด้านของนายไสหาน ยืนยันว่าในวันที่ก่อเหตุเจ้าตัวไม่ได้มีการวางแผนมา และตนเองก็รู้สึกผิดที่ก่อเหตุไปในครั้งนี้ หลังจากนั้นเมื่อทีมข่าวสอบถามว่าอยากจะขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ทางด้านของนายไสหาน ได้ยิ้มออกมา แต่ไม่ยอมพูดขอโทษ


จากนั้นทีมข่าวได้สอบถามว่ามีความแค้นกับตัวของผู้เสียชีวิตมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ทางด้านของนายไสหาน ยืนยันว่าตนเองไม่มีความแค้นกับผู้ตาย แล้วในวันนั้นที่ตนเองเข้าไปที่บริเวณจุดเกิดเหตุเพราะต้องการจะเข้าไปหาภรรยา ทีมข่าวจึงได้สอบถามว่าแล้วทำไมในวันนั้นถึงจะเข้าไปทำร้ายภรรยา มีความแค้นอะไรมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ทางด้านของนายไสหาน ยืนยันว่าตนเองไม่มีความแค้นส่วนตัวกับภรรยา แล้วในวันนั้นที่ตนเข้าไปหาที่บ้านตัวของภรรยาก็ทราบเรื่องอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อตนเองปีนเข้าไปนั้นตัวของผู้ตายก็มีอาวุธปืนอยู่แล้ว และพยายามจะทำร้ายตน ส่วนกุญแจประตูรั้วในวันที่เกิดเหตุนั้นตนเองเป็นคนหยิบมาเองไม่ใช่ภรรยาเอามาให้


หลังจากนั้นเมื่อถูกควบคุมตัวเข้าไปเพื่อสอบปากคำ โดย พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 จะร่วมสอบปากคำด้วยในคืนวันนี้ โดยของกลางที่ผู้ต้องหานำติดตัวไปมี โทรศัพท์ซัมซุง S24 1 เครื่อง บัตรประชาชน พร้อมบัตรเครดิตของผู้ตาย ปืนลูกโม่ .38 ยี่ห้อสมิตแอนด์เวชสัน ขนาดลำกล้อง 2 นิ้ว พร้อมปลอกกระสุนปืน 3 ปอก กระสุนปืนในรังเพลิงอีก 2 นัด 


หลังจากนั้นทางด้านของ พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ได้ออกมาเปิดเผยหลังจากมีการสอบปากคำนายไสหาน ผู้ก่อเหตุ นานกว่า 2 ชั่วโมง โดยทางด้านของ พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ เผยว่า ในเบื้องต้นตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำนายไสหาน ได้เนื่องจากว่าเจ้าตัวยังฟังภาษาไทยไม่ออก และพูดบางคำไม่ได้ แต่สามารถสื่อสารเป็นภาษาพม่าได้ ในวันนี้(13 พ.ค.)เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการประสานหาล่าม เพื่อที่จะมาสอบปากคำผู้ก่อเหตุ


ซึ่งจากการพูดคุยเบื้องต้นตัวของผู้ก่อเหตุอ้างว่าที่เข้าไปยังบ้านของผู้เสียชีวิตนั้นเนื่องจากต้องการจะเข้าไปหาภรรยา ที่ทำงานอยู่ภายในบ้านดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้วางแผนที่จะมาทำร้ายภรรยา แต่ที่เข้ามาที่บ้านหลังนั้นเพราะตั้งใจจะมาทำงาน


แต่ในส่วนของผู้เสียชีวิตนั้นเจ้าตัวไม่ได้มีความแค้นเคืองส่วนตัวกับผู้เสียชีวิต และอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุก็เป็นอาวุธปืนของผู้เสียชีวิตเอง ซึ่งในเบื้องต้นจากการสอบถามตัวของนายไสหาน เผยว่าช่วงที่เกิดเหตุนั้นมีการยื้อแย่งปืนกับผู้เสียชีวิต ทำให้ปืนลั่นใส่ตัวของผู้เสียชีวิต แต่ในส่วนของข้อเท็จจริงที่ชัดเจนกว่านี้คือต้องรอให้ทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดเตรียมล่ามมาสอบปากคำอีกครั้ง


หลังจากนั้นทีมข่าวได้สอบถามว่าจุดที่ตัวของนายไสหาน ผู้ก่อเหตุเข้าไปหลบซ่อนตัวนั้นเป็นพื้นที่ของนายจ้างเก่าหรือไม่ ทางด้านของ พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ พูดต่อว่า จากการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเจ้าตัวเผยว่าจุดที่เข้าไปหลบซ่อนตัวนั้นเป็นจุดที่ไม่เคยไปมาก่อน แล้วรถที่ใช้ในการเดินทางนั้นก็ไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน เพียงแต่คิดว่าเดินทางด้วยวิธีไหนได้เจ้าตัวก็จะเลือกเดินทางด้วยวิธีนั้น ส่วนที่กระแสข่าวว่าเป็นบ้านของนายจ้างเก่านั้น ตนเองยืนยันว่าไม่ใช่


หลังจากนั้นทีมข่าวได้มีการสอบถามว่าแล้วตัวของผู้ก่อเหตุนั้นเคยเป็นอดีตทหารชาติพันธุ์ไทใหญ่จริงหรือไม่ ทางด้านของ พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ให้ข้อมูลว่า ตัวของนายไสหาน เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ และเป็นผู้ชาย ทำให้เจ้าตัวต้องเป็นทหารตามอัตโนมัติ เนื่องจากพื้นที่มีการสู้รบ



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat